SUN108 VENDING สยายปีกเสริมธุรกิจ จับมือ TCN ผู้ผลิตตู้เวนดิ้งยักษ์ใหญ่จากจีนนำเข้าตู้นวัตกรรมสุดล้ำตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคดิจิทัลคาดปีแรกให้บริการได้ถึง 2,000 ตู้

SUN108 สานต่อยุทธศาสตร์สู่ธุรกิจที่ยั่งยืน ผนึกพันธมิตรเสริมแกร่งธุรกิจ ล่าสุดจับมือTCNจงจี๋ผู้ผลิต จำหน่ายและส่งออกตู้เวนดิ้งชั้นนำ ติดอันดับ1ใน3ของจีน นำเข้าตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และผนวกเข้ากับนวัตกรรมของ SUN108 เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล คาดว่าปีแรกให้บริการตู้ของ TCN ได้ 2,000 ตู้
นายเวทิต โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซันร้อยแปด จำกัด (SUN108 VENDING)เปิดเผยว่าปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างรวดเร็วรวมถึงในธุรกิจค้าปลีก ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป จนเกิดกระแสการหันมาทำธุรกิจด้วยตู้เวนดิ้ง (Vending Machine)อย่างชัดเจน ในฐานะผู้ประกอบการเวนดิ้งอันดับหนึ่งในประเทศไทยที่ครบวงจร จึงไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น
“เป็นเวลากว่า 20 ปี ที่SUN108 ได้ประกอบธุรกิจวางตู้เวนดิ้ง ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจตู้เวนดิ้งที่ครบวงจรซึ่งมีตู้ให้บริการเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์หลากหลาย มีโรงงานผลิตและตรวจสอบคุณภาพตู้นำเข้าที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนรวมถึงมีทีมวิจัยที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ที่ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา
เพื่อให้ตู้เวนดิ้งไม่ว่าจะมาจากผู้ผลิตรายใดสามารถเชื่อมต่อข้อมูลการทำงานและรับชำระค่าสินค้าด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในปี2015ทาง SUN108 ได้เริ่มจำหน่ายตู้เวนดิ้ง เพื่อให้ผู้ประกอบการทั่วไปมีโอกาสที่จะเข้าสู่การจำหน่ายสินค้าผ่านเครื่องเวนดิ้งได้ และยังเป็นการขยายการให้บริการจำหน่ายสินค้าผ่านตู้เวนดิ้งถึงผู้บริโภคได้ทั่วถึงมากขึ้นจนปัจจุบันมีให้บริการแล้วถึง 11,000 ตู้ ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มเข้าใจการทำธุรกิจด้วยตู้เวนดิ้งและส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเจ้าของธุรกิจที่ต้องการสร้างฐานธุรกิจแบบใหม่”
ล่าสุดได้เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ จับมือกับบริษัท TCN​ จงจี๋ที่ได้มาตรฐานติดอันดับ 1 ใน 3ของจีน ผู้ผลิตตู้เวนดิ้งที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมีคุณภาพสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งทางการตลาด โดยTCNจงจี๋ มีโรงงานที่มีพื้นที่ใช้สอยกว่า​ 200,000 ตารางเมตร และสามารถผลิตได้กว่า 300,000 ตู้ต่อปี พร้อมทั้งยังส่งออกกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และมีถึง 20 โมเดลโดยเป็นตู้เวนดิ้งที่มีคุณภาพสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งทางการตลาดอาทิ ตู้จำหน่ายขนมและเครื่องดื่ม ตู้บะหมี่กี่งสำเร็จรูปชนิดถ้วย ตู้จำหน่ายไอศกรีม ตู้จำหน่ายอาหารพร้อมรับประทาน (Ready to Eat) และอีกมากมายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยิ่งขึ้น
“ในปีนี้SUN108 จะเน้นรุกตลาดการจำหน่ายและให้บริการตู้เวนดิ้งแก่ผู้ประกอบการเครื่องดื่มและสินค้ารายย่อยที่สนใจทำธุรกิจค้าปลีกด้วยตู้อัตโนมัติ รวมถึงธุรกิจคอนโดมิเนียม โรงแรม และโครงการคอมมูนิตี้ใหม่ๆซึ่งผู้ประกอบการที่สนใจซื้อตู้เวนดิ้งของ TCN จาก SUN108 มั่นใจได้ว่าตู้เวนดิ้งของเรา มีคุณภาพและราคาที่ย่อมเยา โดยราคาเริ่มต้นที่ 130,000 บาท เฉลี่ยสามารถคืนทุนได้ภายในครึ่งปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเล สินค้าที่เลือก และองค์ประกอบอื่นๆ ที่ส่งผลต่อธุรกิจซึ่งการที่ TCN ได้แต่งตั้งให้ SUN108 เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จะทำให้บริษัทสามารถจำหน่ายตู้เวนดิ้งTCNที่หลากหลายกับลูกค้าที่สนใจได้มากขึ้น
โดยในปีนี้คาดว่าจะให้บริการได้ 2,000 ตู้และด้วยตู้เวนดิ้งคุณภาพจากผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของประเทศจีนกับการติดตั้งระบบและการบำรุงรักษาจากผู้ประกอบการเวนดิ้งอันดับหนึ่งของประเทศไทย ลูกค้าจึงสามารถมั่นใจในตู้เวนดิ้ง TCN ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้ง มีแผนจะเปิดตัวแนะนำตู้ที่นำเข้าจาก TCN อย่างเป็นทางการในงาน ASEAN (Bangkok) Vending Machine & Self-Service Facilities Expo 2019 ที่เมืองทองธานีในวันที่ 19 – 21 กันยายน 2019 นี้” นายเวทิต กล่าวปิดท้าย

Share:

SACICT เปิดชุมชนเรียนรู้หัตถกรรมปี 2562 ชวนคนไทยท่องเที่ยวกระจายรายได้ให้ชุมชน

นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ เป็นประธานเปิด ชุมชนหัตถกรรมปี 2562 ร่วมกับ นายภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ณ วัดท่าข้ามศรีดอนชัย บ้านศรีดอนชัย อ.เชียงของ จ.เชียงราย สำหรับชุมชนหัตถกรรมเป็นโครงการของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT ที่มุ่งการส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาจากชุมชนที่มีครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตกรรม ให้เป็นแหล่งเรียนรู้งานหัตถกรรมที่มีคุณภาพ ขยายให้เกิดการรวมกลุ่มของคนในชุมชนที่มีองค์ความรู้ภูมิปัญญางานหัตถกรรมได้ร่วมมือร่วมใจอนุรักษ์ สืบสานทักษะ และฝีมือเชิงช่างอันเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น
ชุมชนหัตถกรรมยังเป็นแหล่งเรียนรู้งานหัตถกรรม ผนวกกับการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ โดยใช้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือดึงดูดผู้สนใจ ผู้ประกอบการ จนถึงกลุ่มผู้บริโภคที่รักและหลงใหลในงานศิลปหัตถกรรมเข้ามาสู่ชุมชน พร้อมกันนี้ยังเป็นส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์ประกอบต่างๆ ของชุมชน ตั้งแต่ ผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบ การบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว อาทิ ที่พัก ร้านอาหาร แหล่งเรียนรู้ชุมชน รวมถึงศิลปวัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่อันเป็นอัตลักษณ์ที่งดงามของชุมชน
ในส่วนของชุมชนหัตถกรรมปี 2562 นี้ SACICT ได้ขยายชุมชนหัตถกรรมเพิ่มขึ้น 13 ชุมชน ทำให้ขณะนี้มีชุมชนหัตถกรรมภายใต้การส่งเสริมสนับสนุนของ SACICT รวมทั้งสิ้น 37 ชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละแห่งมีความโดดเด่นแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทางวัฒนธรรม วิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่มีความหลากหลาย รวมถึงการท่องเที่ยวเชิงเกษตร แต่จุดเด่นของชุมชนหัตถกรรมทุกแห่งที่นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้คือการสัมผัสและได้เรียนรู้ ทดลองทำงานศิลปหัตถกรรมอย่างใกล้ชิด  เป็นแหล่งเรียนรู้งานหัตถศิลป์ผ่านการท่องเที่ยววิถีชุมชนและอัตลักษณ์ของชุมชนโดยรอบ เพื่อให้งานหัตถศิลป์เป็นเครื่องมือสร้างรายได้ผนวกกับการท่องเที่ยวนอกเหนือจากอาชีพหลัก เกิดการกระจายรายได้สามารถพึ่งพาตนเองได้ สร้างงานสร้างอาชีพ ลดความเหลื่อมล้ำยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความอยู่ดีกินดี เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจฐานรากเกิดการพัฒนางานศิลปหัตถกรรมที่ยั่งยืน

Share:

Deep Tissue Massage Yoga เหยียดกาย คลายปวด

ไลฟสไตล์ของคนในปัจจุบันที่มีทั้งความเครียด เร่งรีบ และกิจกรรมที่อัดแน่นตลอดทั้งวัน การขาดการออกกำลังกาย โภชนาการที่ไม่เหมาะสม แม้พักผ่อนอยู่บ้านสมองยังคงครุ่นคิดกับการอัพเดตเรื่องราวต่างๆ ผ่านสื่อและโซเชียลมีเดียจนกระทั่งเวลานอน การมีวิถีชีวิตที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความเครียดและเหนื่อยล้าสะสม โยคะจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ถูกนำมาช่วยบำบัดร่างกายและจิตใจอย่างเห็นผล และพัฒนาเป็นโยคะประเภทต่างๆ ให้เหมาะสมกับจริตของผู้ปฏิบัติ
อารียา สิริโสดา ผู้หญิงเก่งที่สวมบทบาทมามากมาย ทั้ง อดีตนางสาวไทย อาจารย์ นางแบบ และนักแสดง ปัจจุบันเธอค้นพบวิถีชีวิตใหม่ที่ทำให้เธอมีความสุขมาก  เธอกำลังสร้างคอมมิวนิตี้สำหรับคนที่ชื่นชอบโยคะ ณ ศาลาอารียาแห่งนี้ เพื่อที่จะดูแลตัวเองพร้อมทั้งแบ่งปันให้แก่คนอื่น
โยคะช่วยให้เธอหลุดพ้นความทรมานจากโรคกระดูกสันหลังส่วนที่เชื่อมต่อกับต้นคอและไหล่ซ้ายคด ส่งผลให้หลังคดและสะโพกไม่ตรง ทำให้ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจนแทบหมุนศรีษะไม่ได้ เธอใช้เวลากว่า 10 ปีในการฝึกฝนโยคะเพื่อบำบัดตัวเอง เรียนรู้จากโยคะกูรูประเทศต่างๆ และนำมาพัฒนาให้เป็นสไตล์ของตัวเองจนกลายเป็น Deep Tissue Massage Yoga ที่ช่วยในการบำบัดร่างกายและคลายความปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ

Deep Tissue Massage Yoga คือการผสมผสานระหว่างโยคะและการนวดกดจุด โยคะคือการหลอมรวมกาย จิต และวิญญาณ เข้าด้วยกันด้วยการเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ ประสานลมหายใจเข้าออก ด้วยจิตใจที่สงบนิ่ง การบริหารกายตามหลักโยคะนี้ช่วยบำรุงกล้ามเนื้อ วิธีดัดตนในท่าปกติหรือท่าโค้งงอ ช่วยให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ยืดหยุ่นและผ่อนคลายจนเกิดความสมดุล ช่วยเสริมในส่วนที่ขาด ลดในส่วนที่เกินจนกระชับ
ฝึกโยคะผสานกับการนวดกดจุดด้วยตัวเองโดยใช้ Yoga Massage Ball หรือลูกบอลนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย เพิ่มช่วงการเคลื่อนไหว ช่วยรักษาอาการเจ็บปวดเรื้อรัง เช่น ปวดหลัง ปวดไหล่ และยังช่วยฟื้นฟูอาการปวดกล้ามเนื้อภายหลังการออกกำลังกาย”
อารียา กล่าวว่า “โยคะ ไม่ใช่แค่เทรนการออกกำลังกาย แต่เป็นไลฟสไตล์ของเรา หัวใจของโยคะคือการกำหนดลมหายใจการควบคุมพลังชีวิตจากภายใน เป็นการผสานเอาร่างกาย จิตวิญญาณ และสมาธิเข้าด้วยกัน ทำให้เราละทิ้งความวุ่นวายและวัตถุภายนอก หันมาสังเกตตัวเอง การปฏิบัติโยคะทำให้เรามีวินัย ไม่เพียงแต่บำบัดร่างกายและช่วยบำบัดจิตใจ โยคะคือของขวัญที่ช่วยให้เราพ้นทุกข์จากโรค เราได้เรียนรู้จากอาจารย์หลายๆท่าน ปฏิบัติและใช้รักษาตัวเองจนหาย และอยากแบ่งปันให้คนอื่นๆ”

การเตรียมตัวเหมือนการฝึกโยคะทั่วไป สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย อยู่ในที่สงบอากาศถ่ายเทสะดวก ใช้เวลาประมาณ 60-120 นาที สามารถฝึกบนเสื่อโยคะเพื่อความสะดวกสบายพร้อมอุปกรณ์สำคัญ Yoga Massage Ball บริหารกายตามท่าดัดตนต่างๆ เปิดร่างกายอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อผ่อนคลาย เพิ่มความยืดหยุ่นและปรับตำแหน่งของร่างกาย กดส่วนของร่างกายที่มีความปวดเมื่อยและกล้ามเนื้อที่มีความแข็งตึงบนลูกบอลเป็นเวลานานพอ (ประมาณ 1 นาที)
หรือจนกว่าอาการเจ็บจะหาย ออกแรงกดและคลึงไปยังจุดที่กล้ามเนื้อแข็งเป็นปมจะทำให้ค่อยๆคลายตัว ใช้น้ำหนักตัวในการกำหนดแรงกดหนักเบา
เคล็ดลับการทำ Deep Tissue Massage Yoga ให้ได้ผลดีขึ้นด้วยการใช้คู่กับผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เพื่อช่วยให้เนื้อเยื่อ พังผืดยืดตัวออก ลดการติดขัดของข้อต่อ ลดการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ลดบวมจากการอักเสบ ผลิตภัณฑ์ยาหม่องตราเสือ Tiger Balm Soft บรรเทาความปวดเมื่อยสูตรล่าสุดจาก ผลิตภัณฑ์ยาหม่องตราเสือ ที่มีกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ (Lavender) นอกจากช่วยบรรเทาอาการเมื่อยและให้กลิ่นหอมผ่อนคลาย
ผลิตภัณฑ์ยาหม่องตราเสือ  เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์สมุนไพรที่สั่งสมภูมิปัญญาตะวันออกที่มีมายาวนานกว่า 100 ปี ด้วยเคล็ดลับการคัดสรรคุณภาพของสมุนไพรและส่วนประกอบให้ได้ตามมาตรฐานการสูตรตำรับสากล ด้วยสูตรเฉพาะจากส่วนผสมจากธรรมชาติที่ได้คัดอย่างพิเศษ ซึ่งได้รับการยอมรับและพิสูจน์ในประสิทธิภาพและความปลอดภัย ร่วมกับปริมาณของส่วนประกอบในสูตรตำรับที่มีความเข้มข้นพอเหมาะ นั่นทำให้ผลิตภัณฑ์ยาหม่องตราเสือ ได้ผลการรักษาที่ดี จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมผลิตภัณฑ์ยาหม่องตราเสือจึงเป็นที่ยอมรับและมีจำหน่ายทั่วทั้งเอเชีย ยุโรป และ อเมริกา
นอกจากคุณสมบัติในการรักษาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแล้ว ผลิตภัณฑ์ยาหม่องตราเสือ อื่นๆยังสามารถใช้บรรเทาอาการปวด เคล็ดขัดยอก ท้องอืด และคันเนื่องจากแมลงสัตว์กัดต่อย คืนความสมดุลให้กับชีวิตยุคใหม่ และคืนความสมบูรณ์แก่ร่างกายและจิตใจ
ติดตามครูป๊อบอารียาได้ที่
เพจเฟสบุ๊ก​  :: Sala Areeya & Yoga by Pop
Share:

คอลเลกชันใหม่สำหรับวันแม่ประจำปี 2019 จากสวารอฟสกี้ มอบประกายเจิดจรัสให้กับผู้หญิงที่เป็นดั่งแสงสว่างในชีวิตของเรา


#FollowYourSun คือ สาระสำคัญของคอลเลกชันวันแม่ประจำปี 2019
เครื่องประดับในคอลเลกชันถูกรังสรรค์ขึ้นให้สามารถสวมใส่ได้หลายแบบ เพื่อยกย่องเหล่าคุณแม่ ผู้ซึ่งเป็นดั่งแสงสว่างในหัวใจของลูกๆ ทุกคน
แคมเปญวันแม่สะท้อนถึงสายสัมพันธ์อันงดงามระหว่างแม่กับลูก ท่ามกลางวันที่แสงแดดอบอุ่น เพื่อสื่อถึงความรักที่มีให้กันและกัน
คอลเลกชันใหม่ประจำวันแม่ของสวารอฟสกี้ถือเป็นวิธีการที่แสนงดงามและเจิดจรัสในการแสดงถึงสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น ระหว่างแม่กับลูกโดยเชิญชวนให้ผู้คนมาติดแฮชแท็ก #FollowYourSun เพื่อบอกกับผู้หญิงคนสำคัญในชีวิตว่าคุณรักและขอบคุณเธอมากแค่ไหน
“แม่คือแสงสว่างของลูก” คือเรื่องราวอบอุ่นหัวใจสำหรับคอลเลกชันและแคมเปญโฆษณาชุดนี้ ด้วยแรงบันดาลใจที่ได้จากดวงอาทิตย์ซึ่งหล่อเลี้ยงทุกชีวิตและมอบประกายอันอบอุ่นดังเช่นที่เหล่าคุณแม่ผู้ซึ่งเป็นดั่งแสงสว่างในหัวใจของลูกๆ ทุกคน สำหรับแคมเปญนี้ คุณแม่ได้สวมใส่จี้สร้อยคอ Sunshine ที่งดงามสะดุดตาและใช้ช่วงเวลาอันแสนพิเศษร่วมกับลูกสาวที่สวมจี้แบบเดียวกันแต่มีขนาดเล็กกว่า ในขณะที่ทั้งคู่เพลิดเพลินใช้เวลาร่วมกันภายใต้แดดอันอบอุ่นและสดใส โดยมีดวงอาทิตย์เป็นตัวแทนของแม่และมีลูกสาวอยู่ใกล้ๆ ที่คอยแบ่งปันความรักให้แก่กันและกัน
นาตาลี โคลิน ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของสวารอฟสกี้ ได้พูดถึงคอลเลกชันใหม่ว่า “เราเชื่อในการมอบประกายเจิดจรัสให้กับทุกคน และนั่นคือเหตุผลว่าท่าไมคอลเลกชันวันแม่ของเราจึงไม่เพียงเฉลิมฉลองความรักของผู้หญิงที่เลี้ยงดูคุณมาเท่านั้น แต่ยังยกย่องผู้รับบทบาทเป็นคุณแม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคุณย่า คุณยาย แม่เลี้ยง คุณแม่ของสามีหรือภรรยา เพื่อน ในทุกๆ สิ่งที่พวกเธอมอบให้กับเรา คอลเลกชันนี้เต็มไปด้วยความสดใส ความเจิดจรัสที่แสนงดงาม และมีหลากหลายแง่มุมเฉกเช่นเดียวกับผู้หญิงที่เราทุกคนรู้จักและหลงรัก”
คอลเล็กชันวันแม่ มีหลากหลายสไตล์ตั้งแต่รูปแบบมินิมอลไปจนถึงดีไซน์วิจิตรประณีตที่เต็มไปด้วยรายละเอียด คอลเลกชันนี้จะเน้นเส้นสายเรียบง่ายสะอาดตา มีรูปทรงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากดวงอาทิตย์ซึ่งมองดูคล้ายผลงานประติมากรรม กับคริสตัลที่เจิดจรัสในสีขาว สีฟ้า และสีเหลืองที่แสนงดงามหรูหรา ช่วยแต่งแต้มประกายเจิดจรัสให้กับทุกลุค เครื่องประดับที่โดดเด่นในคอลเลกชันนี้ คือ Sunshine, Originally และ North ซึ่งเป็นของขวัญที่เปี่่ยมไปด้วยความหมายทั้งสำหรับผู้ให้และผู้รับ
เติมความเจิดจรัสให้กับทุกวันด้วยคอลเลกชัน Sunshine ที่โดดเด่นด้วยรูปทรงของแสงที่ส่องมาจากดวงอาทิตย์ พร้อมด้วยคริสตัลสวารอฟสกี้รูปทรงเหลี่ยมบาเก็ตปลายเรียว ทั้งยังสวมใส่ได้หลายแบบไม่ว่าจะเป็นเซ็ตแหวนที่สวมซ้อนกันได้ ต่างหูสตั๊ดเม็ดใหญ่ และจี้สร้อยคอขนาดใหญ่ที่ปรับความยาวในการสวมใส่ได้ดั่งใจ นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับโทนสีโรสโกลด์และสีเงินมันวาว ที่ช่วยเพิ่มประกายสุกสว่างให้กับทุก ๆ โอกาส

ไข่มุกที่ถูกปรับโฉมใหม่ให้มีความทันสมัยและกลายมาเป็นชิ้นงานเครื่องประดับแสนอ่อนหวานที่งดงามเหนือกาลเวลา ในคอลเลกชัน Originally ซึ่งประดับด้วยไข่มุกมันวาวจากสวารอฟสกี้โอบล้อมด้วยคริสตัลระยิบระยับ เข้ากับลุคลำลองและลุคกลางคืนได้เป็นอย่างดี
 
ด้วยองค์ประกอบที่ผสมผสานอย่างลงตัวของคริสตัลสีขาวสุกสว่างและสีฟ้าอ่อนของ North ซึ่งดูสวยหรูคล้ายกับกำลังล่องลอยอย่างอิสระอยู่ตรงกลาง ให้ความรู้สึกสนุกสนานขี้เล่น ตัดกับลวดลายโฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใครบนกรอบโทนสีโรสโกลด์และสีเงิน มอบดีไซน์ที่โดดเด่นแม้จะสวมใส่เดี่ยว ๆ หรือสวมซ้อนกันหลายชั้น เพื่อเพิ่มประกายเจิดจรัสให้แก่ทุกลุค
ถ่ายทอดสายสัมพันธ์ออกมาเป็นคำพูดด้วยลวดลายที่ออกแบบใหม่และเปี่่ยมไปด้วยความหมายลึกซึ้งในรูปแบบของชาร์มเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง ที่เพิ่มประกายสุกสว่างให้กับไข่มุกเม็ดงามและคริสตัลของสวารอฟสกี้ในคอลเลกชัน Swarovski Remix ซึ่งสามารถสวมใส่ได้และนำไปเป็นเครื่องประดับได้หลากหลายรูปแบบ สวารอฟสกี้ขอร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวันแม่ด้วยคอลเลกชันใหม่ ที่มีตั้งแต่เครื่องประดับดีไซน์เรียบง่ายสวยเก๋อ่อนหวาน ไปจนถึงชิ้นงานโดดเด่นสะกดทุกสายตา เพื่อมอบเป็นของขวัญแทนใจให้คุณแม่ได้เปล่งประกายเจิดจรัสด้วยเครื่องประดับงดงามล้ำค่าจากสวารอฟสกี้ ที่มาพร้อมกับสายใยรักซึ่งคุณลูกตั้งใจมอบให้แก่คุณแม่ด้วย

สวารอฟสกี้

สวารอฟสกี้นำเสนอสินค้าหลากหลายประเภทที่เป็นหนึ่งในด้านคุณภาพ ฝีมือการประดิษฐ์ และความคิดสร้างสรรค์

หลังจากก่อตั้งขึ้นในออสเตรียเมื่อปี 1895 ปัจจุบัน สวารอฟสกี้ได้ออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายคริสตัลคุณภาพสูง อัญมณีแท้และอัญมณีสังเคราะห์ รวมถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เช่น เครื่องประดับ แอคเซสเซอรี่ และไฟส่องสว่าง ปัจจุบันบริหารงานโดยสมาชิกรุ่นที่ห้าของตระกูล โดยมีร้านค้าประมาณ 3,000 สาขาอยู่ใน 170 ประเทศทั่วโลก มีพนักงานกว่า 27,000 คน และสร้างได้รายได้ประมาณ 2,700 ล้านยูโรในปี 2017

Swarovski Crystal Business จัดตั้ง Swarovski Group ขึ้นร่วมกับบริษัทในเครือ ซึ่งได้แก่ Swarovski Optik (ทัศนอุปกรณ์) และ Tyrolit (เครื่องมือเจีย ตัด ขัด เจาะ) ในปี 2017 Swarovski Group สร้างรายได้ 3,500 ล้านยูโร และมีการจ้างงานกว่า 32,000 ตำแหน่ง

การสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนและโลกใบนี้อย่างมีความรับผิดชอบเป็นมรดกตกทอดส่วนหนึ่งของสวารอฟสกี้เสมอมาและปัจจุบันยังคงปลูกฝังอยู่ในโครงการส่งเสริมความยั่งยืนที่แข็งแกร่งของบริษัท นอกจากนี้แล้ว โครงการ Swarovski Waterschool ยังมอบความรู้แก่ประชาชนทั่วโลกและเข้าถึงเด็ก ๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณแม่น้ำสายสำคัญที่สุดโลกมาแล้ว 500,000 คน ส่วน Swarovski Foundation ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 ได้ดำเนินงานเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมและความสร้างสรรค์ ส่งเสริมสิทธิและความเป็นอยู่ของผู้หญิงและเด็ก อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม

Share:

วัตสัน ฉลองครบรอบ 23 ปี แจกทองยิ่งใหญ่ สะใจทั้งเดือน มอบความสุขให้กับนักช้อป ลุ้นรับทองคำมูลค่ารวมกว่า 1.6 ล้านบาท

กรุงเทพฯ, 25 กรกฎาคม 2562 – วัตสัน ครบรอบ 23 ปี แจกทองยิ่งใหญ่ สะใจทั้งเดือน!!  วัตสัน ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย ฉลอง “ครบรอบ 23 ปี” ขนทัพสินค้าน่าสนใจหลายรายการ จัดเต็มด้วยราคาน่าช็อป เริ่มต้นที่ 23 บาท พร้อมกันนี้แจกหนักแจกจริงทุกสัปดาห์!! กับ ทองคำ 1 บาท จำนวน 28 รางวัล และรางวัลใหญ่ ทองคำแท่ง 23 บาท จำนวน 1 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 1.6 ล้านบาท  เมื่อซื้อสินค้าที่ร้านวัตสันครบ 300 บาท รับคูปองลุ้นชิงทองคำจำนวน 1 ใบ สำหรับสมาชิกวัตสัน รับคูปองและลุ้นชิงทองคำ คูณ 2 กันไปเลย! พร้อมประกาศผลผู้โชคดีทุกสัปดาห์ ผ่านทางเฟสบุ๊ค Watsons Thailand เริ่มช้อป และลุ้นชิงทองคำกันได้ ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม ถึง 21 สิงหาคม 2562 นี้ ที่ร้านวัตสันทุกสาขาทั่วประเทศไทย หรือช้อปออนไลน์ผ่านวัตสันออนไลน์ และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สื่อ ณ จุดขาย  Official Line WatsonsTH เว็บไซต์ www.watsons.co.th และแอปพลิเคชัน WatsonsTH ทั้ง PlayStore และ AppStore

สินค้าที่น่าสนใจ ราคาเริ่มต้นที่ 23บาท 

วัตสัน เอ็กซ์เพลส ,เจลลี่ ,โมบายเกิร์ล , เอชเอมาสก์ ทุกสูตร ราคาปกติ 49-59  เหลือชิ้นละ 23 บาท
ลิสเตอรีน น้ำยาบ้วนปาก ราคาปกติ 177  เหลือชิ้นละ 123 บาท
เมย์เบลลีน เซนเซชั่นแนล ลิควิดแมท ทุกเฉด ราคาปกติ 149 เหลือ แท่งละ123 บาท
เทรซาเม่ แชมพู / คอนดิชั่นเนอร์ ราคาปกติ 159 เหลือ แท่งละ123 บาท
บิโอเรยูวี บอดี้เซรั่ม SPF50+ PA++++ (ทุกสูตร) ราคาปกติ 290  เหลือชิ้นละ 223 บาท
แบลคมอร์ส โอเดอร์เลส ฟิช ออยล์ มินิแคป 60 แคปซูล ราคาปกติ 480 เหลือชิ้นละ 323 บาท
กลุ่มผลิตภัณฑ์เดอมาแอคชันพลัส บายวัตสัน แอดวานซ์ ซันโซล่าร์  แบริเออร์ (ทุกสูตร) ราคาปกติ 580  เหลือชิ้นละ 423 บาท
Share:

อิมแพ็คต้อนรับวันแม่ ชวนแม่ลูกมาเติมความรักความผูกพันที่ร้านอาหารเครืออิมแพ็ค

ต้อนรับวันแม่กับโปรโมชั่นดีๆ ในวันแม่แห่งชาติ วันที่ 12 สิงหาคม 2562 มอบสิ่งดีๆ ด้วยมื้อพิเศษ เพื่อมอบแด่ผู้หญิงที่รักเราที่สุด กับหลากหลายร้านอาหารในเครืออิมแพ็ค เมืองทองธานี มาเติมความรักความผูกพันกับเมนูเลิศรสหลากหลายสไตล์ พร้อมสัมผัสบรรยากาศดีๆ ทั้งบริเวณในศูนย์แสดงสินค้าและพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง อิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ (ริมทะเลสาบเมืองทองธานี) 
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ใจกลางเมืองทองธานี เริ่มที่ ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน ร้านอาหารจีนสไตล์ฮ่องกงขนานแท้ เลิศรสเมนูอะลาคาร์ทกว่า 200 เมนู และติ่มซำสดใหม่ 
พร้อมสิทธิพิเศษ อิ่มอร่อยครบ 10,000 บาท (1 สิทธิ์ต่อใบเสร็จ) รับฟรีไวน์ขาว 1 ขวด (จำนวนจำกัด) และพิเศษสำหรับคุณแม่ รับทันที! ซิ่วท้อมงคล อวยพรคุณแม่ให้สุขภาพดี หรือจะมาสัมผัสบรรยากาศสุดชิลริมทะเลสาบ 
เอาใจคู่แม่ลูกที่ชื่นชอบอาหารอีสานสไตล์ฟิวชั่นที่ อีสาน จิ้มจุ่ม ร้านอาหารอีสานสไตล์ฟิวชั่นและดั้งเดิม เพลิดเพลินกับจิ้มจุ่มรสแซ่บและซีฟู้ดสดใหม่ พร้อมเมนูอะลาคาร์ทอีสานกว่า 60 เมนู พร้อมบริการห้องคาราโอเกะ รับฟรี! น้ำกระเจี๊ยบสมุนไพร แสนสดชื่นสำหรับคุณแม่จำนวน 1 ที่ 

และอีกหนึ่งร้านในบริเวณอิมแพ็ค เลคฟร้อนท์ ที่ไม่ควรพลาด บรีซ คาเฟ่ แอนด์ บาร์ ร้านอาหารนานาชาติสไตล์ฟิวชั่น ในบรรยากาศสุดชิล โดยเชฟชาวออสเตรเลีย ชารีน แกรททอน จัดเต็มโปรโมชั่นวันแม่ยกความอร่อยเมนูนานาชาติ 6 รายการเมนคอร์ส 

สำหรับคุณแม่ ได้แก่ สเต็กเนื้อริบอาย สเต็กเนื้อสันนอก ไส้กรอกรวม แซลมอนย่าง ซี่โครงหมูบาร์บีคิว และไก่ย่าง เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงที่เลือกได้ตามชอบ ทั้งข้าว เฟรนช์ฟรายส์ เคิร์ลลี่ ฟรายส์ มันอบ ในราคา 459  –  889 บาท เมื่อสั่งเมนูจานหลัก รับฟรี! ซุปและสลัดบาร์ เท่านั้นไม่พอ ยังขอเพิ่มความสดชื่นให้คุณแม่ด้วยน้ำอัญชันมะนาวโซดา ฟรี! 1 ที่  

ปิดท้ายที่ร้านอาหารญี่ปุ่น สึโบฮาจิ ชวนอิ่มอร่อยกับอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับสไตล์ฮอกไกโด เพียงคุณลูกพาคุณแม่มารับประทานอาหารที่ร้าน รับฟรี! ของหวานสไตล์ฮอกไกโด กับเมนูไอศกรีมวานิลลาโมจิ  (จำกัด 1 สิทธิ์ต่อใบเสร็จ) เฉพาะวันแม่เท่านั้น ที่ร้านสึโบฮาจิ ทั้ง 6 สาขา
วันแม่ปีนี้มาบอกรักแม่ให้ชื่นใจ และเติมความรักความผูกพันกับหลากหลายร้านอาหารในเครืออิมแพ็ค ทั้งในและนอกศูนย์ฯ เปิดประสบการณ์ความอร่อย ไม่ต้องไปไหนไกล ใกล้แค่นี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0922-488-325

Share:

โบลอง (BOLON) มอบโปรโมชั่นสุดพิเศษต้อนรับเดือนแห่งวันแม่


กรุงเทพฯ 23 กรกฎาคม 2562 - โบลอง (BOLON) แบรนด์แว่นตาชั้นนำระดับโลกจากประเทศอิตาลี มอบโปรโมชั่นสุดพิเศษต้อนรับเดือนแห่งวันแม่ เมื่อซื้อแว่นตาโบลองรุ่นใดก็ได้ 1 ชิ้น ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายทุกสาขา พร้อมกดไลก์เพจเฟซบุ๊ก “Bolon Eyewear Thailand” และโพสต์รูปภาพของคุณใส่แว่นตาโบลองบนเฟซบุ๊กส่วนตัว (เปิดสาธารณะ) ติดแฮชแท็ก #Boloneyewearth เพียงเท่านี้ ลุ้นรับ แว่นตาโบลอง ฟรีอีก 1 ชิ้น (รุ่นของแถมเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด) ห้ามพลาด! โปรโมชั่นดีๆแจกจริง 50 รางวัล มูลค่ากว่า 200,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1-30 สิงหาคม 2562 เท่านั้น

โบลอง (BOLON) แบรนด์แว่นตาชั้นนำระดับโลกจากประเทศอิตาลี ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่หรูหราทันสมัย เหมาะกับรูปหน้าคนเอเชีย ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม ทนทาน น้ำหนักเบา ในราคาสบายกระเป๋า สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายเพื่อให้คุณเผยตัวตนได้อย่างโดดเด่น

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bolon.co.th/ หรือเฟซบุ๊ก “Bolon Eyewear Thailand” และ Instagram “Boloneyewearth”

*ทางบริษัท จะประกาศรายชื่อผู้โชคดีผ่านทางเฟสบุ๊ก ในวันที่ 6 กันยายน 2562
ผู้โชคดีแสดงใบเสร็จเพื่อใช้เป็นหลักฐานผ่านทางอินบ็อกซ์ และติดต่อรับของแถมได้ที่บริษัทเอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จํากัด (ใบเสร็จต้องภายใน 1-30 สิงหาคม 2562 เท่านั้น)
Share:

กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต เตรียมจัดงาน PHIST 2019 ประกาศลุยแผนความยั่งยืน

กลับมาอีกครั้ง! 

งานประชุมด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เตรียมต้อนรับผู้เข้าร่วมกว่า 1,000 คน พร้อมร่วมวางแผนแก้ปัญหาการท่องเที่ยวที่ท้าทายบนเกาะทั่วภูมิภาค

ผลเชิงบวก: จาก “ปฏิญญาภูเก็ต” (Phuket Pledge) PHIST 2018 สู่การลดใช้ขวดพลาสติกถึง 4.4 ล้านขวดในโรงแรม
ภูเก็ต ประเทศไทย วันที่ 25 กรกฎาคม 2562 – “ภูเก็ต” เตรียมขับเคลื่อนสู่วาระแห่งความยั่งยืน เตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพงาน PHIST 2019 (Phuket Hotels for Islands Sustaining Tourism) หรือ “ฟิสท์” งานประชุมสัมมาครั้งยิ่งใหญ่ประจำปีที่รวมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อต่อสู้ความเสื่อมโทรมสิ่งแวดล้อมบนเกาะทั่วภูมิภาค

PHIST ประจำปี 2019 จัดขึ้นโดยความร่วมมือของ สมาคมโรงแรมภูเก็ต, ซีไนน์ โฮเทล เวิร์คส์ (C9 Hotelworks) และกรีนวิว (Greenview) เป็นการประชุมหนึ่งวันเต็มที่สามารถเข้าร่วมฟรี ซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน 2562 นี้ ณ โรงแรมฮิลตันภูเก็ต อาร์คาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา (Hilton Phuket Arcadia Resort & Spa) โดยคาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมมากถึง 1,000 คน จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ได้แก่ โรงแรมชั้นนำ ผู้ค้าปลีก และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ จากทั่วทั้งภูมิภาคมากกว่า 70 โรงแรม เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญและกำหนดแนวทางในการแก้ปัญหาเหล่านั้น
ในปีนี้ มุ่งเน้นไปที่ “การลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูเก็ต” และ “การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนจะช่วยให้เกิดการฟื้นตัวได้อย่างไร” ซึ่งจะได้รับเกียรติจาก นางกนกกิตติกา กฤตย์วุฒิกร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต มาให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาพรวมแผนและกลยุทธ์ของ ททท. ที่จะสร้างความมั่นใจในอนาคตในระยะยาวของเกาะภูเก็ต โดยจับกลุ่มเป้าหมายระดับบน และนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
นายบิล บาร์เน็ต กรรมการผู้จัดการ ซีไนน์โฮเทลเวิร์คส์ หัวเรือใหญ่ PHIST 2019 เปิดเผยว่า “จำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเยือนภูเก็ตที่ลดลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวมวลชนเป็นอย่างไร ห้องพักโรงแรมใหม่มากกว่า 15,000 ห้องถูกกำหนดให้เข้าสู่ตลาดในอีก 5 ปีข้างหน้า แต่ใครจะเป็นผู้ใช้บริการ ปัญหาที่ภูเก็ตกำลังเผชิญนี้ ไม่ต่างจากจุดหมายปลายทางของเกาะอื่น ๆ ในภูมิภาค ที่จำเป็นจะต้องพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนร่วมกับผู้ประกอบการและทุกภาคส่วนในพื้นที่ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและความมั่นใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสำหรับคนรุ่นต่อไป โดยเรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ ททท. ในงาน PHIST 2019 เพื่อช่วยสร้างอนาคตที่ดีของภูเก็ต”
ด้าน วิไลพร ปิติมานะอารี รองประธานอาวุโสกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งประกาศปฏิญญางดมอบถุงพลาสติกแก่ลูกค้า ในงาน PHIST ปีที่แล้ว ได้เปิดเผยว่า สามารถลดถุงพลาสติกได้มากกว่า 4 ล้านถุงต่อเดือน ผู้เข้าร่วมงาน PHIST 2019 ในปีนี้ จะได้มีโอกาสร่วมกิจกรรมและเวิร์คช้อปกับ ททท. เพื่อกำหนดแนวคิดและเรียนรู้วิธีการจัดการการท่องเที่ยวเชิงมวลบนเกาะในแต่ละจุดหมายปลายทางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในตอนท้าย ผู้เข้าร่วมจะได้ลงนามใน “Phuket Pledge” หรือ สัญญาความร่วมมือเพื่อการจัดการที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวร่วมกัน

“Phuket Pledge” ที่เกิดขึ้นในงาน PHIST 2018 ส่งผลให้โรงแรมในสมาคมโรงแรมภูเก็ตจำนวน 71 แห่ง ตกลงที่จะเลิกใช้ขวดน้ำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในโรงแรม ซึ่งทำให้สามารถลดการใช้ถึง 51% ในปี 2562 และประหยัดกว่า 4.4 ล้านขวด นอกจากนี้ สมาคมโรงแรมภูเก็ตจะเปิดตัว Great Big Green Guide ซึ่งเป็นแนวคิดและแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนั้น PHIST 2019 จะมุ่งเน้นที่จะมีส่วนร่วมกับคนรุ่นใหม่ ด้วยเวิร์คช้อปและกิจกรรมสำหรับเด็ก ๆ ภายในงานประชุมเสวนาจะมีการประกวดรอบชิงชนะเลิศของแคมเปญ Green Beat 60 ซึ่งเป็นการประกวดการสร้างภาพยนตร์ที่เชิญชวนนักสู้ด้านสิ่งแวดล้อมทุกวัยให้ได้แชร์แนวคิดในประเด็นสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ
นายแอนโทนี่ ลาร์ค ประธานสมาคมโรงแรมภูเก็ต กล่าวว่า “PHIST 2019 ปี้นี้เราต้องการผลักดันความยั่งยืนสู่วาระสูงสุด โดยจัดการกับประเด็นสำคัญที่เกาะทั่วเอเชียกำลังเผชิญอยู่ นั่นคือการเปลี่ยนจากการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น เราต้องการให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้สัมผัสกับจุดหมายปลายทางที่ยอดเยี่ยม แต่ต้องประสบความสำเร็จโดยไม่ส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อม”

ผู้สนับสนุนหลักในปีนี้ของ PHIST 2019 คือ บลูทรี ภูเก็ต (Blue Tree Phuket) สวนน้ำและแหล่งบันเทิงไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ที่ได้รับการขนานนามให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวครอบครัวระดับชั้นนำของเกาะ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 140 ไร่ มีบีชคลับ 4 ชั้น โซนออกกำลังกาย คิดส์คลับ พื้นที่ค้าปลีกหลายแห่ง และร้านอาหาร 17 แห่ง พร้อมด้วยคริสตัลลากูนขนาดกลาง โดย บลูทรี ภูเก็ต เป็นตัวแทนของการพัฒนาการท่องเที่ยวยุคใหม่ที่คำนึงถึงความยั่งยืน สร้างความรับผิดชอบต่อพื้นดิน โดยใช้วิธีการขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและพลังงาน ในขณะเดียวกันก็ลดการใช้สารเคมีและลดของเสีย
ไมเคิล ไอลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลูทรี ภูเก็ต กล่าวปิดท้ายว่า “บลูทรี ภูเก็ต มีความภูมิใจที่ได้เป็นพันธมิตรกับ PHIST 2019 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของเราที่จะทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคของเราเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เราใช้เวลา 2 ปีที่ผ่านมาในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวและการพักผ่อนแบบครบวงจร ด้วยความรับผิดชอบและผลกระทบต่ำ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้ร่วมงานกับสมาคมโรงแรมภูเก็ต เพื่อการอภิปรายเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PHIST 2019 และลงทะเบียนเข้าร่วมงานนี้ ได้ที่เว็บไซต์ phist.phukethotelsassociation.com


Share:

เตรียมพบกับประสบการณ์ใหม่ สำหรับนักปั่น กับ Thailand Cycling Clubhouses

เตรียมพบกับประสบการณ์ใหม่
สำหรับนักปั่น 

ที่มองหาเพื่อนร่วมทาง 
เส้นทางปั่นเพื่อการท่องเที่ยว 
จุดชมวิว ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่พัก 
การจัดทริปที่เต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ๆ 
กับ

Thailand Cycling Clubhouses 

ที่จะนำเสนอ
เส้นทางปั่นจักรยาน
ทั่วไทย พร้อมแผนที่ ข้อมูลเส้นทางปั่น 
และข้อมูลติดต่อนักปั่นในพื้นที่ เพื่อขอคำแนะนำและความช่วยเหลือ 
และอุปกรณ์ซ่อมบำรุง ทำให้การปั่นของคุณไม่มีข้อจำกัดอีกต่อไป
https://thailandcycling.club/about/

Share:

พส. ปลูกจิตสำนึกอบรมบุคลากร เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบ และกฎหมาย

วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2562 เวลา 14.30 น. ณ โรงแรมเดอะทวินทาวเวอร์ กรุงเทพมหานคร นายชูรินทร์ ขวัญทอง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นประธานมอบเกียรติบัตรและปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรแนวทางการปฏิบัติงานความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
นายชูรินทร์ กล่าวว่า การปฏิบัติงานราชการ ตามระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 เป็นสิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานราชการพึงมีและถือเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องธำรงไว้ก็คือ การรักษาวินัย ซึ่งถือเป็นการควบคุมความประพฤติให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผน กฎหมายเกี่ยวกับพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 จึงถือเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางวินัยของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะทำให้งานราชการสำเร็จลุล่วงตามภารกิจได้อย่างถูกต้องเหมาะสม จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้กฎหมาย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ยังมีความเข้าใจในข้อกฎหมาย ขั้นตอน วิธีการในการดำเนินการ ไม่ชัดเจน ไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 จะส่งผลให้การดำเนินการทางละเมิดไม่ถูกต้อง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอาจทำให้การดำเนินการนั้นเสียไป
นายชูรินทร์ กล่าวต่อไปว่า กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ จึงได้จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรแนวทางการปฏิบัติงานความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 22 - 26 กรกฎาคม 2562  มีผู้เข้าอบรมจำนวน 130 คน จากทุกส่วนราชการในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับการ     ใช้กฎหมาย โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรที่มีความรู้ ความสามารถ ปฏิบัติงานด้านความรับผิดทางละเมิด จากสำนักงานศาลปกครอง และกองละเมิดและแพ่ง กรมบัญชีกลาง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติความรับผิดทางละเมิด  ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ มุ่งการปลูกจิตสำนึกและตระหนักถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบ กฎหมาย และนำไปปฏิบัติ รวมไปถึงรับทราบแนวคำวินิจฉัยของศาลปกครองที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำไปปรับใช้     ในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง
กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ  จะมุ่งสร้างจิตสำนึกและตระหนักถึงการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากร  ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต  ยึดมั่นในระเบียบ และกฎหมาย เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงาน  ให้เหมาะสมกับบริบทของหน่วยงาน อีกทั้งเพื่อให้การดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง  ความรับผิดทางละเมิดของข้าราชการและเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ และประชาชนเป็นสำคัญ  นายชูรินทร์ กล่าวในตอนท้าย
Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก