โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น ฉลองความสำเร็จ ก้าวสู่ปีที่ 28 กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

28 ปี ทีเค.พาเลซ ฯ สร้างศักยภาพโรงแรมพร้อมก้าวสู่ผู้นำ เน้นความทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมตอกย้ำการบริการต้องเป็นเลิศ กว่าจะมี ทีเค.พาเลซ ฯ คุณทวีศักดิ์ พันธุ์เสงี่ยม  ประธานกรรมการทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น เล่าว่า ขอย้อนอดีตไม่คิดว่าจะมายืนตรงจุดนี้ เพราะเป็นคนที่เกเรมากตั้งแต่เรียนอยู่ที่เชียงใหม่ วันหนึ่งก็คิดอยากจะเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯเลยตัดสินใจมาเรียนที่กรุงเทพ โดยเข้าเรียนที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ และพักอาศัยกับน้าสาว ซึ่งเราต้องช่วยทำงานบ้านทุกอย่าง  (คุณแม่สอนไว้ อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดายปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น)
หลังจบจากมัธยมปลายอำนวยศิลป์ และสอบเข้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ในปีแรกที่เรียน พี่ชายก็ช่วยส่งเสียค่าเล่าเรียน แต่พอเข้าปีที่ 2 ไม่มีคนส่งเสียให้เรียน คิดว่าถ้าไม่ทำอะไรเลยคงแย่แน่ เลยไปหารุ่นพี่ (พิชัย มณีโชติ)เพื่อของานทำ ซึ่งรุ่นพี่เขาก็น่ารัก ให้เราพักอาศัยในที่ทำงาน  ช่วยดูแลออฟฟิศทำความสะอาด ให้เงินเดือนๆ ละ 800 บาท  ซึ่งอยู่มาพักใหญ่รุ่นพี่เห็นแววว่าน่าจะช่วยงานอื่นได้มากกว่าทำความสะอาดที่ทำงาน จึงได้ให้ไปเดินเอกสารในหน่วยงานราชการต่างๆ เพราะรุ่นพี่ทำบริษัทขายปุ๋ย ติดต่อกับหน่วยงานราชการกระทรวงเกษตร จนเรียนจบก็ยังช่วยรุ่นพี่เป็นเซลล์ขายปุ๋ย-ยาฆ่าแมลง ต่ออีก 2-3 ก่อนมาเปิดบริษัทเอง ก่อนเริ่มต้นมาเป็นโรงแรมทีเค พาเลซ ฯ
ประสบการณ์งานที่เคยได้เรียนรู้จากรุ่นพี่ มาเปิดบริษัทประมูลงาน ขายของทุกอย่างให้กับหน่วยงานราชการ จนในปี 2533 มีเงินสดในแบงค์พอสมควร เราจึงคิดว่าจะทำอสังหาริมทรัพย์ สร้างมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้น โดยซื้อที่ดินย่านแจ้งวัฒนะทำอพาร์ทเม้นท์  ลำลูกกา ทำคอนโด และสุดท้ายหันมาทำ TK PALACE อย่างเดียว (ในตอนแรกเราคิดแค่เป็นเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ) จนมาเป็นโรงแรมขนาดเล็ก ๆ
วิกฤติครั้งใหญ่
ในปี 2540 เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง  ต้องให้ธนาคารยึดคอนโดที่ลำลูกกา และทำแต่  TK PALACE อย่างเดียว ซึ่งเราก็ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด ก่อนที่จะได้เพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กช่วยเหลือ ดร.อุทัต สุวิทย์ศักดิ์ดานนท์(เฮียใหญ่)  ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย (ประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา) ซึ่งเรามีหนี้กับแบงค์ 160 ล้านบาท  เฮียใหญ่ ได้เข้ามาปลดหนี้ตรงนี้ให้ และช่วยเรามาโดยตลอด
ทั้งให้กู้เพิ่มเพื่อสร้าง TK PALACE เพิ่ม ขยายพื้นที่เพื่อให้รองรับลูกค้าได้เพิ่มมากขึ้น  TK PALACE จากพื้นที่ 3-4 ไร่ ในวันนั้น  เป็น 10 ไร่ 5 อาคาร ในวันนี้  เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยการช่วยเหลือของเฮียใหญ่ ที่เป็นทั้งพี่ เพื่อน และผู้มีพระคุณ  นอกจากการช่วยเหลือของเฮียใหญ่ เรายังมีพนักงาน ที่ช่วยกันมาแต่ต้น ทุกคนทำงานอย่างขยันขันแข็ง สู้ด้วยกันมายาวนาน
การปรับเปลี่ยนเพื่อความทันสมัย
จากอดีตโรงแรมเล็ก ๆ วันนี้ TK PALACE ขยายหลายเท่าตัว เรามีการพัฒนาทุกรูปแบบ ซึ่งรูปแบบของดีไซน์ ก็เน้นความทันสมัย สวยหรู เมื่อลูกค้ามาแล้วต้องชอบ นอกจากดีไซน์ การบริการ เป็นสิ่งสำคัญ ทำอย่างไรให้ลูกค้ามาแล้วประทับใจ ทั้งเรื่องของความสะอาด มารยาท การต้อนรับ รวมถึงอาหาร สิ่งสำคัญมากเช่นกัน อาหารของโรงแรม ต้องสะอาดและดี รสชาติต้องถูกปากลูกค้า นอกจากบุฟเฟต์ ที่ขายรวมกับห้องพักและงานสัมมนา เรายังมีร้าน WYNN CAFEE & BISTRO กำลังเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า มีทั้งอาหารทานเล่น อาหารจานหลัก และเครื่องดื่ม สำหรับกาแฟสดนั้น เราใช้กาแฟของดอยช้าง  เรียกได้ว่าเราเป็นโรงแรมที่สมบูรณ์แบบในย่านแจ้งวัฒนะ
คุณธีระพัฒน์ พันธุ์เสงี่ยม รองประธานกรรมการทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กล่าวว่า หลังจากที่คุณพ่อ (ทวีศักดิ์ พันธุ์เสงี่ยม) ได้สร้างโรงแรม ทีเค พาเลซ แอน์ คอนเวนชั่น มา ในฐานะลูกชายที่ต้องสานงานตามรอยคุณพ่อ ซึ่งก็เห็นท่านลุยงานคลุกคลีกับลูกน้องมาโดยตลอด ทุกคนก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ คือ ที่นี่เราทำงานกันอย่างพี่น้อง มีความเป็นประชาธิปไตย มีถูก มีผิด ผมก็จะรับฟังความคิดเห็นของลูกน้องเช่นกัน
ผมอยากให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาเพิ่มมากขึ้น มีการอบรมเรียนรู้เพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ซึ่งมองว่าการที่เราไม่หยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนา เพื่อศักยภาพให้กับบุคลากรของโรงแรมให้เติบโตขึ้น

ปั้นแบรนด์ WYNN CAFÉ & BISTRO
ร้าน WYNN CAFÉ & BISTRO  ร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่น บรรยากาศของร้านต้องสบาย ๆ ดูโล่ง สะอาดตา ทันสมัย ในส่วนของอาหาร รสชาติต้องดี ทุกอย่างต้องตรงตามสูตร  ซึ่งรับรองได้เมื่อใครได้มารับประทานอาหารที่ร้าน แล้วจะต้องติดใจ นอกจากลูกค้าที่มาทานอาหารที่ร้าน WYNN CAFÉ & BISTRO แล้วชอบอยากสั่งมาทานที่บ้าน เราจะมีบริการส่งถึงบ้าน ผ่านวงใน-ไลน์แมน ฟู้ดแพนด้า

 หาสถานที่แต่งงานต้อง ทีเค พาเลซ ฯ
อีกหนึ่งงานที่อยากนำเสนอ คือการจัดงานแต่งงาน โรงแรมมีสถานที่พร้อมมากสำหรับงานแต่งงาน มี Wedding Planner ให้คำปรึกษา  มีห้องให้ลูกค้าเลือกตั้งแต่งานทำบุญเลี้ยงพระเช้า งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส มีห้องตั้งแต่ขนาด 100-1,000 คน  หลายคู่ที่มาจัดที่นี่ เกิดความประทับใจ ซึ่งเราคาดว่าในอนาคตอันใกล้ ทีเค พาเลซ ต้องเป็นหนึ่งในสถานที่เมื่อพูดถึงเรื่องการจัดงานแต่งงาน
ที่ลูกค้าพูดถึงสถานที่แต่งงาน
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าจาก โรงแรมเล็ก ๆ เมื่อ28 ปีก่อน จนวันนี้ โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น เป็นโรงแรมที่ถูกพูดถึงความเปลี่ยนแปลง จนต้องจับตามอง ซึ่งทุกเรื่องเราใส่ใจในทุกรายละเอียด อยากให้ลูกค้าที่มาใช้บริการประทับใจ และคิดถึงโรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น ตลอดไป

สามารถเข้าดูข้อมูลได้ที่ www.tkpalace.com
www.facebook.com/TKPALACEHOTEL
Line : tkpalace
โทร: 02 574 1588

Share:

Mr. Tourism world Thailand 2019 “ชนาธิป จากจังหวัด เชียงราย คว้ารางวัล “Mister Tourism World Thailand 2019”

 
“ชนาธิป จากจังหวัด เชียงราย  คว้ารางวัล “Mister Tourism World Thailand 2019” 
 ก้าวสู่ทูตส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย พร้อมโอกาสสำคัญสู่เวทีโลก​ เรียกเสียงฮือฮาเป็นที่สุด สำหรับวินาทีแห่งการประกาศผลการประกวดรอบตัดสิน “Mister Tourism World Thailand 2019” (มิสเตอร์ทัวริซึ่มเวิลด์ไทยแลนด์ 2019) เวทีอันทรงเกียรติแห่งการค้นหาสุดยอดหนุ่มหล่อมากความสามารถ เพื่อรับบทบาทเป็นทูตแห่งการท่องเที่ยวประเทศไทย ทำหน้าที่ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิต ศิลปะวัฒนธรรม อาหาร สถาปัตยกรรมอันงดงามโดดเด่นทั้งเก่า  และร่วมสมัย เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศมากยิ่งขึ้น โดยการประกวดรอบตัดสินมีขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ณ หอประชุมใหญ่ บมจ. ทีโอที สำนักงานใหญ่           
โดยในที่สุดหนุ่มหล่อเกินเบอร์โปรไฟล์ดีเริ่ดอย่างนายชนาธิป นาทร อายุ 18 ปี ตัวแทนจากจังหวัดเชียงราย ก็พิสูจน์ความสามารถและปฏิภาณไหวพริบ สามารถชนะใจกรรมการและ  กองเชียร์สามารถคว้าตำแหน่ง “Mister Tourism World Thailand 2019” มาครองได้สำเร็จ
พร้อมโอกาสครั้งสำคัญในการเป็นตัวแทนประเทศไทยก้าวสู่เวทีระดับโลกกับThailand, ครูบิ๊ก-พีรมณฑ์ ชมธวัช  ผู้เชี่ยวชาญด้าน ออกแบบเครื่องแต่งกายไทยอาภรณ์งามสตูดิโอ ผู้ร่วมสร้างสรรค์โขนพระราชทาน, ดร สุรัตน์ จงดา ผู้ช่วยอธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม  ผู้ร่วมสร้างสรรค์โขนพระราชทาน, ทับทิม-อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ นักแสดง สังกัด ช่อง 7, Mr. Hayden Ng Premier Founder of ASEAN Fashion Designers Showcase and Singapore Designer., Miss.Michelle Geng  Vice President of Asia Model Association, Chinese Committee and Head of ASEAN Fashion Designers Showcase - China.,    เอกมล อรรถกมล อาจารย์ภาควิชาออกแบบเครื่องแต่งกายคณะมันฑณศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, แฟชั่นสไตลิสต์และดีไซเนอร์เจ้าชองแบรนด์ EAGGAMON
พร้อมชมการแสดงสุดอลังการในชุด “ลาวคำหอม” โดย ปุ้ย-ดวงพร พงศ์ผาสุข และการแสดงชุด “Back at one” โดยครูก๊อง ศุษณะ ทัศน์นิยม
บรรยากาศการประกวดเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่คึกคักสนุกสนานสลับเสียงจากกองเชียร์ที่มากันอย่างแน่นขนัด หลังจากหนุ่มหล่อตัวแทนทั้ง 77 จังหวัด ได้เข้าร่วมทำกิจกรรมเก็บตัวกันตลอดเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งระหว่างเก็บตัวทุกคนได้มีโอกาสเรียนรู้ทักษะเพื่อพัฒนาความสามารถรอบด้านจากกูรูผู้เชี่ยวชาญ โดยภายในงานได้มีการเปิด VTR ประมวลภาพงานแถลงข่าว และกิจกรรมการเก็บตัวผู้เข้าประกวด ที่ The PARK NINE Hotel Suvarnabhumi
ภายใต้คอนเซปต์ “Thai Contemporary Eye” การแสดงออกถึงความเป็นไทยผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและโมเดิร์นอย่างลงตัว หลังจากนั้นหนุ่มหล่อตัวแทนผู้เข้าประกวดจากทั่วประเทศได้ปรากฏตัวบนเวทีในมาดสุดเท่กับชุดผ้าไทย และตื่นตาตื่นใจกันต่อกับการประกวดในรอบชุดว่ายน้ำ Sexy men On The Beach Show, หลังจากนั้นพิธีกรได้ประกาศผลการคัดเลือกผู้เข้ารอบ 20 คนสุดท้าย โดยมีโชว์เปิดตัวผู้เข้ารอบด้วยชุด‘ผ้าไหมนาโพธิ์’ ผ้าไหมทอมือพื้นเมืองจากอำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ก่อนจะมีการประกาศรางวัลพิเศษต่างๆ และร่วมลุ้นกันต่อกับการประกาศผลผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย, จนกระทั่งถึงการประกาศผล 5 คนสุดท้ายพร้อมตอบคำถามจากคณะกรรมการเพื่อทดสอบปฏิภาณไหวพริบ
และในที่สุดช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนรอคอยก็ดำเนินมาถึงกับการประกาศและมอบรางวัลให้แก่ Mister Tourism World Thailand 2019 ซึ่งหลังจากนี้ Mister Tourism World Thailand 2019 จะรับหน้าที่สำคัญในการเป็นทูตส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิต ศิลปะวัฒนธรรม อาหาร สถาปัตยกรรมอันงดงามโดดเด่นทั้งเก่าและร่วมสมัย ให้เป็นที่ประจักษ์สู่สายตาชาวโลก พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางเข้าประเทศไทย สร้างรายได้เข้าประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากขึ้น พร้อมโอกาสครั้งสำคัญในการเป็นตัวแทนประเทศไทยก้าวสู่เวทีระดับโลกกับการประกวด Mister Tourism World 2019 ครั้งที่ 4 ณ ประเทศมอลตา ในราวเดือนมกราคม 2020 ณ ประเทศมอลตา ซึ่งเป็นเวทีการประกวดชายนานาชาติ เพื่อร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยื่น และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศ เชื่อมโยงโดยตรงกับองค์กรและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วโลก เช่น Visit Britain, London & Partner และ Tourism Society ต่อไป พร้อมปฏิบัติหน้าที่เป็นทูตส่งเสริมสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยให้เป็นที่รู้จักในนานาชาติ เข้าร่วมทำกิจกรรมสาธารณกุศลเพื่อสังคมต่างๆ ตลอดจนการเซ็นสัญญาเป็น Asia Model Ambassador ประเทศสิงค์โปร์ และเซ็นสัญญาเป็นนายแบบภายใต้สังกัดเอเจนซี่ของ Mister Tourism Thailand


Share:

ททท.ร่วมกับ ปณท สมาคมขัวศิลปะเชียงราย จัดทำโครงการตู้ไปรษณีย์เพื่อบริการประชาชน ด้วย QR code “ศิลปะบนตู้ไปรษณีย์”

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงราย ได้ร่วมกับ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด(ปณท) และสมาคมขัวศิลปะ กำหนดจัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการตู้ไปรษณีย์เพื่อบริการประชาชนด้วย QR Code “ศิลปะบนตู้ไปรษณีย์” โดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปณท และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. และผู้บริหาร ปณท และ ททท. ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 และจัดนิทรรศการต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2562 ณ วัดร่องขุ่น อ.เมือง จ.เชียงราย
ตู้ไปรษณีย์ทั้งหมดเป็นโครงการที่จัดทำขึ้นโดย ปณท ร่วมกับสมาคมขัวศิลปะเชียงราย ภายใต้ชื่อโครงการตู้ไปรษณีย์เพื่อบริการประชาชน ด้วย QR code เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหารและเครื่องดื่ม แหล่งเรียนรู้วิถีชีวิต แหล่งเรียนรู้คู่ชุมชน ของดีของเด่นและของฝากท้องถิ่น ผ่าน QR Code ที่ติดอยู่บนตู้ไปรษณีย์ ตามนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ในการเป็นไปรษณีย์ไทย 4.0 และเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป รับทราบข้อมูลที่น่าสนใจของพื้นที่นั้นๆ
โดยตู้ไปรษณีย์ในส่วนของจังหวัดเชียงรายได้ร่วมกับศิลปินชาวเชียงรายจากสมาคมขัวศิลปะวาดภาพงานศิลปะลงบนตู้ไปรษณีย์ จำนวน 15 ตู้ 15 แบบ สะท้อนอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะติดตั้งตามสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญที่เป็น Landmark ของจังหวัดเชียงราย
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า โครงการตู้ไปรษณีย์เพื่อบริการประชาชนด้วย QR Code “ศิลปะบนตู้ไปรษณีย์” ดังกล่าว สามารถกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวมาสู่จังหวัดเชียงรายได้ และตู้ไปรษณีย์เหล่านี้ถือเป็นผลงานศิลปะระดับ Master Piece ของจังหวัดเชียงราย เนื่องจากแต่ละตู้เป็นชิ้นงานที่รังสรรค์จากศิลปินเชียงราย และยังสะท้อนอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ในจังหวัดเชียงราย อีกทั้งเป็นตู้ไปรษณีย์แห่งเดียวของประเทศไทยที่วาดภาพศิลปะลงบนตู้ไปรษณีย์
ทั้งนี้ ททท. สำนักงานเชียงราย ยังมีแผนดำเนินการประชาสัมพันธ์ตู้ไปรษณีย์และทำการตลาดส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวชมตู้ไปรษณีย์ “ศิลปะบนตู้ไปรษณีย์” ตามสถานที่ตั้งต่างๆ และให้นักท่องเที่ยวร่วมสนุกโดยการเช็คอินถ่ายภาพคู่กับตู้ไปรษณีย์ 5 ตู้ ต่างสถานที่กัน และต้องเป็นตู้ไปรษณีย์ที่อยู่ต่างอำเภอกันอย่างน้อย 2 อำเภอ และแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย แล้วรับรางวัลจาก ททท. สำนักงานเชียงราย และ ปณท ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2562 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2563
สำหรับตู้ไปรษณีย์ดังกล่าวหลังจากการจัดนิทรรศการนี้จบลง ทาง ปณท จะได้นำไปติดตั้งตามสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่สำคัญทั่วจังหวัดเชียงราย เพื่อใช้งานจริง ได้แก่
วัดร่องขุ่น
สิงห์ปาร์คเชียงราย
หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ (หอนาฬิกาพุทธศิลป์)
ตลาดไนท์บาร์ซ่า
อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช
สวนตุงและโคมเฉลิมพระเกียรติ
พระตำหนักดอยตุง
สามเหลี่ยมทองคำ
จุดผ่านแดนถาวรแม่สาย (วัดพระธาตุดอยเวา)
วัดห้วยปลากั้ง
พิพิธภัณฑ์บ้านดำ
ไร่ชาฉุยฟง
ตลาดเชียงของ (ชายแดนไทย-สปป.ลาว)
วัดแสงแก้วโพธิญาณ
ศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน
หากมีข้อมูลสอบถาม ติดต่อได้ที่ ททท. สำนักงานเชียงราย โทร. 0 5371 7433, 0 5374 4674-5 ปณท เชียงราย โทร. 0 5371 1616 ต่อ 11

Share:

พิธีเปิดงาน PHOTO FAIR 2019 งานมหกรรมการถ่ายภาพครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ครั้งที่ 30

ภายใต้แนวคิด “Share Your Wonder แชร์ความมหัศจรรย์แห่งโลกของภาพถ่าย” ห้ามพลาด! “PHOTO FAIR 2019” เริ่มปลุกกระแสแล้ว...วันนี้ 27 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2562 เวลา 10.30 – 21.00 น. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

นางณริภา  ศรีสว่างวัฒน์   นายกสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพ  ประธานจัดงาน PHOTO FAIR 2019  มอบเงินแด่ผู้แทนพระองค์  เชิญไปถวาย  พระเจ้าวรวงศ์เธอ  พระองค์เจ้าโสมสวลี  กรมหมื่นสุทธนารีนาถ  เพื่อทรงใช้สอยตามพระอัธยาศัย   และมอบของที่ระลึกแด่ หม่อมหลวงสราลี  กิติยากร  ผู้แทนพระองค์
นายสวัสดิ์   ปฏิภาณประเสริฐ    ประธานสมาพันธ์สมาคมการถ่ายภาพแห่งประเทศไทย  มอบของที่ระลึกแด่ผู้แทนพระองค์  เชิญไปถวาย  พระเจ้าวรวงศ์เธอ  พระองค์เจ้าโสมสวลี  กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
เบิก    ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นศิลปินนักถ่ายภาพไทย ปี 2562
เข้ารับรางวัลพระพิฆเนศ   จำนวน  5  ราย
นายกิตติชัย  ปฏิภาณประเสริฐ
  นายบุญฐไชย  ไชยวิรุณเจริญ
  นายวิรัช   สวัสดี
  นายวินนิวัตร    ไตรตรงธนรัตน์
  นายพลฤทธิ์   ฐิติวริทธินันท์
เบิก ผู้สนับสนุนการจัดงาน  PHOTO  FAIR  2019   รับโล่เกียรติคุณ  จำนวน 71 ราย
1. บริษัท   โซนี่ ไทย  จำกัด
2. บริษัท   ฟูจิฟิล์ม  (ประเทศไทย)  จำกัด
3. บริษัท   เอปสัน  (ประเทศไทย)  จำกัด
4. บริษัท  บิ๊กคาเมร่า   คอร์ปอเรชั่น  จำกัด  (มหาชน)
5. บริษัท  เวิลด์คาเมร่า  กรุ๊ป  จำกัด
6. บริษัท  พาราโบล่า  จำกัด
7. บริษัท  แอดวานซ์โฟโต้ซีสเทมส์  จำกัด
8. ห้างหุ้นส่วนจำกัด  เอกศิลป์อุตสาหกรรม
9. ห้างหุ้นส่วนจำกัด  เดอะดิจิตอลเอสทีเอ็ม
10. บริษัท    อิสท์ เอ็นเตอร์ไพรส์   จำกัด
11. บริษัท   ไซโน  พรอมมิส  (ประเทศไทย)  จำกัด
12. บริษัท  ปภาวิน  จำกัด
13. บริษัท  พิกซ์โปรส์เฮ้าส์  เซลส์  จำกัด
14. บริษัท  บัตรกรุงไทย   จำกัด  (มหาชน)
15. บริษัท  สรรพสินค้าเซ็นทรัล  จำกัด  (สาขาบางนา)
16. ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค
17. นายวรนันทน์   ชัชวาลทิพากร
18. นายสวัสดิ์ ปฏิภาณประเสริฐ
19. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมาน  เฉตระการ
20. นายสยาม  เอี่ยมพิชัยฤทธิ์
21. นายสุรพงษ์  เอี่ยมพิชัยฤทธิ์
22. นายวรรณชนก  สุวรรณกร
23. นายธงชัย   แสงประทุม
24. นายพิสิฐ   เสนานันท์สกุล
25. นายเกรียงไกร ไวยกิจ
26. นายสยมภูว์   เศตะพราหมณ์
27. นายสุระ นวลประดิษฐ์
28. นายประสิทธิ์  จันเสรีกร
29. นายบารมี  เต็มบุญเกียรติ
30. นายหัสชัย  บุญเนือง
31. นายนัท  สุมนเตมีย์
32. นายจิระพงษ์ วงศ์วิวัฒน์
33. นายพลฤทธิ์    ฐิติวริทธินันท์
34. นายธนาศาสตร์  วัฒนพันธุ์
35. นายสัญชัย  บัวทรง
36. นายประมุข กาญจนซิม
37. นายจุมพล ขุยรักขิต
38. นางณริภา  ศรีสว่างวัฒน์
39. นายกิตติชัย  ปฏิภาณประเสริฐ
40. นายสุเมธ  งามศิลปเสถียร
41. ร.ต.ฉัตรชัย  แก้วเสมา
42. นายพลสิทธิ์   บุญชื่น
43. นายจุมพล   ขุยรักขิต
44. นายธนศักดิ์สิริ   โตไพบูลย์
45. นายสมยศ   ก้อนกนกอนันต์
46. นางวิไล   แซ่ลี้
47. นายปิยะเดช  วงจันทร์ศิลป์
48. นายสุเทพ   เสถียรกิจอําไพ
49. นางอรพินทร์  เศรษฐ์สิริ
50. นายณพดล กรพิเศษศักดิ์กุล
51. นายณัฐมันท์  ภูยาทิพย์
52. นางสาวณัณ   ทิพยากรณ์
53. นางกัณณิภา  โชคปิติบูรณ์
54. นายอิฐพงศ์   ประทีปสว่างวงศ์
55. นายทองอยู่  หัตถศักดิ์
56. นายประเสริฐ  ศิลปะสมัย
57. นายอาทิตย์  แสงทองยิ่งดี
58. นายขจรฤทธิ์   จงไพศาลศิลป์
59. นางรัชนี    จิรไสวจรัส
60. CHINA  PORTRAIT  PHOTOGRAPHY  SOCIETY
61. THE  FEDERATION  OF  COMMERCIAL  PHOTOGRAPHIC  SOCIETY, MALAYSIA
62. SINGAPORE  PHOTOGRAPHIC  TRADE  ASSOCIATION
63. THE JAPAN PHOTOGRAPHY ASSOCIATION

Share:

ฮอนด้า เปิดตัว “ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่” เจเนอเรชันที่ 5 ครั้งแรกในโลก สร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่เปิดทุกความเป็นไปได้

ครั้งแรกกับขุมพลังเทอร์โบใหม่ 1.0 ลิตร 122 แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ให้ทั้งสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร แต่ยังประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร

ดีไซน์ภายนอกที่ผสานความสปอร์ตและความหรูหรา และภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายเหนือระดับรถซิตี้คาร์ เพิ่มความคุ้มค่าด้วยฟังก์ชันการใช้งานและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ที่มาพร้อมราคาที่ปรับลดลงในทุกเกรด ครั้งแรกกับรุ่น RS ที่ยกระดับความสปอร์ตเร้าใจไปอีกขั้น
สัมผัส ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2019 และพบกันที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ 24 ธ.ค. 2562
(กรุงเทพฯ – 25 พฤศจิกายน 2562) บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ใหม่ เจเนอเรชันที่ 5 ครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย อีกขั้นแห่งยนตรกรรมซิตี้คาร์ที่พร้อมขับเคลื่อนพาคุณให้ไปไกลเกินกว่าทุกความคาดหมายและเปิดทุกความเป็นไปได้ ด้วยอีกขั้นแห่งความสปอร์ตหรูหราของดีไซน์ภายนอก ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและหรูหราเกินคลาส พร้อมท้าทายทุกการขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเทอร์โบเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC TURBO 122 แรงม้า ที่ทรงพลังและให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย พิเศษครั้งแรกกับรุ่น RS ที่พร้อมตอกย้ำความสปอร์ตเร้าใจ ด้วยชุดแต่งสไตล์ RS รอบคัน อีกทั้งนวัตกรรมเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เจเนอเรชันล่าสุด มาพร้อมสีใหม่ สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) 
ร่วมสัมผัสฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 (The 36th Thailand International Motor Expo 2019) ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562 และพบกันที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2562  เป็นต้นไป สำหรับลูกค้าที่จอง ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 - 31 ธันวาคม 2562 และรับรถภายในวันที่ 31 มกราคม 2563 พร้อมรับนาฬิกา Fitbit Smart Tracker  รุ่น Charge 3 สี Graphite/Black  มูลค่า 6,490 บาท

มร.มาซายูคิ อิงาราชิ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ งานปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น และประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า ซิตี้ นับเป็นหนึ่งในยนตรกรรมที่สำคัญของฮอนด้าที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นยนตรกรรมสำหรับภูมิภาค (Regional Model) โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียเมื่อปี พ.ศ. 2539  และได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เจเนอเรชัน 1 ถึง เจเนอเรชัน 4 ด้วยยอดขายสะสมใน 60 ประเทศทั่วโลกกว่า 4 ล้านคัน ซึ่งภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียเป็นตลาดที่สำคัญของฮอนด้า ซิตี้ เห็นได้จากยอดขายกว่า 100,000 คัน ในปี 2562 (มกราคม – กันยายน 2562) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% จากยอดขายฮอนด้า ซิตี้ ทั่วโลก และประเทศไทย ถือเป็นตลาดหลักของ ฮอนด้า ซิตี้ ทั้งในแง่ของการเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง อีกทั้งเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของฮอนด้าในภูมิภาคอีกด้วย ในวันนี้ลูกค้าชาวไทยจะได้สัมผัสกับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เป็นครั้งแรกในโลก โดยจะเป็นยนตรกรรมที่จะมาสร้างปรากฏการณ์ที่เหนือความคาดหมายของลูกค้าและสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตลาดรถยนต์ไทยได้อีกครั้งหนึ่ง”
 
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “ฮอนด้า ซิตี้ เป็นยนตรกรรมที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในระดับรถซิตี้คาร์ ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสามารถครองตำแหน่งผู้นำในตลาดซับคอมแพคท์ จากความสำเร็จของ ฮอนด้า ซิตี้ กว่า 2 ทศวรรษ การพัฒนา ฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชันใหม่ จึงถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ โดยจะเป็นรถซิตี้คาร์ที่พัฒนาให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมและเหนือกว่ารถในระดับเดียวกันในทุกด้าน แต่ยังเพิ่มความคุ้มค่าด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งมาพร้อมราคาที่ปรับลดลงในทุกเกรด ด้วยคุณค่าใหม่นี้ ฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชันที่ 5 จะเข้ามาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอีกครั้ง”

ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่สปอร์ตและสง่างาม สะกดทุกสายตาด้วยเส้นสายที่เฉียบคมโดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารเปลี่ยนทุกสุนทรียภาพให้กว้างขวางกว่าที่เคย ด้วยการออกแบบพื้นที่ให้สอดคล้องกับสรีระ เพื่อความสะดวกสบายในทุกที่นั่งทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มาพร้อมความหรูหราและสวยงามยิ่งขึ้นในโทนสีดำ หรือเบาะหนังและภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV) คอนโซลหน้าแบบ Piano Black  มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ  Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น

ครั้งแรกกับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ รุ่น RS ที่เปลี่ยนมุมมองรถซิตี้คาร์ให้สปอร์ตหรูหรามากกว่าที่เคย ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Gloss Black และสัญลักษณ์ RS มาพร้อมกันชนหน้าและกระจังหน้าสไตล์สปอร์ต ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED กระจกมองข้างสีดำแบบสปอร์ตพร้อมไฟเลี้ยวในตัว สปอยเลอร์หลังแบบ Gloss Black พร้อมสัญลักษณ์ RS และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ พร้อมมาตรวัดเรืองแสงสีแดง และดึงดูดทุกสายตาด้วยสีภายนอกใหม่ สีแดงอิกไนต์ (Ignite Red) เฉพาะรุ่น RS
ท้าทายข้อจำกัดทุกการขับขี่ด้วยขุมพลังเทอร์โบใหม่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 - 4,500 รอบต่อนาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด สะดวกสบายด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ โดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5) ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20 ได้อีกด้วย

เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย ด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทางด้วยถุงลม 6 ตำแหน่ง ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)  พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD)  ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist - VSA) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA) และกล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)

ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่
รุ่น RS     ราคา 739,000 บาท
รุ่น SV     ราคา 665,000 บาท
รุ่น V       ราคา 609,000 บาท
รุ่น S       ราคา 579,500 บาท
และมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่ สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น RS สีขาวแพลทินัม (มุก) เฉพาะรุ่น RS และรุ่น SV สีดำคริสตัล (มุก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และสีขาวทาฟเฟต้า เฉพาะรุ่น V และรุ่น S โดยมาพร้อมข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จอง ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 - 31 ธันวาคม 2562 และรับรถภายในวันที่ 31 มกราคม 2563 รับนาฬิกา Fitbit Smart Tracker รุ่น Charge 3 สี Graphite/Black  มูลค่า 6,490 บาท

เสริมความสปอร์ตในสไตล์คุณไปอีกขั้นด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) รอบคัน ที่มาพร้อมกับแนวคิด “Stage Up Booster” โดยมีไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก เช่น สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก ราคา 8,150 บาท แป้นคันเร่งและเบรกดีไซน์สปอร์ต ราคา 1,300 บาท คิ้วบันได LED ราคา 4,400 บาท ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วลายสปอร์ต ราคา 3,600 บาท (ราคาต่อ 1 วง ไม่รวมยาง) ไฟตัดหมอกแบบ LED ราคา 5,500 บาท และกล้องหน้ารถ ราคา 3,850 บาท

นอกจากนี้ยังมีให้เลือกในรูปแบบแพ็กเกจ ทั้งหมด 3 แพ็กเกจ ได้แก่
Modulo Aero Package ราคา 15,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น

Modulo Aero RS Package ราคา 17,900 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง และ สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น

Modulo Aero Sport Package ราคา 23,500 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า แบบ 2 ชิ้น สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง แบบ 2 ชิ้น และ สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก

ลูกค้าที่สนใจสามารถสัมผัส ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ที่บูทฮอนด้า (A14) ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 (The 36th Thailand International Motor Expo 2019) ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี และพบกับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2562 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลจากที่ปรึกษาการขายได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/city โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อทดลองขับผ่าน www.honda.co.th/testdrive 

หมายเหตุ:
- อุปกรณ์มาตรฐาน อาจแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
- สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 10,000 บาท และ สีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 6,000 บาท
- ราคาแพ็กเกจชุดแต่งโมดูโล ไม่รวม VAT 7%
- รายละเอียดอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม สามารถอ่านได้จาก https://hondaaccess.co.th/line-up/honda-city
- ข้อเสนอพิเศษสำหรับ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด
Share:

“PLAYBOY BUNNIES” ทั้ง 10 คน ลั่นชัตเตอร์แล้ว ในงาน PHOTO FAIR 2019

“PLAYBOY BUNNIES” ทั้ง 10 คน จากนิตยสารชื่อดังบุกงาน PHOTO FAIR 2019 ให้เหล่าช่างภาพทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นได้ลั่นชัตเตอร์ถ่ายภาพสาว ๆ ช่วยสร้างสีสันภายในงานให้คึกคัก โดยได้รับความสนใจจากบรรดาตากล้องและผู้ร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ การเสวนากลยุทธ์การตลาดกับกูรูชื่อดัง เทคนิคกระบวนการทำงานระดับมืออาชีพเกี่ยวกับการถ่ายภาพในสายงานต่าง ๆ การถ่ายภาพ Magazine การถ่ายภาพบุคคล การถ่ายภาพสินค้า และชมนิทรรศการผลงานภาพถ่ายศิลปินนักถ่ายภาพไทย ปี 2562 เพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจ และร่วมลุ้นรางวัลใหญ่รถยนต์
พบกันที่งาน “PHOTO FAIR 2019” วันนี้ 27 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2562 เวลา 10.30 – 21.00 น. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค  สามารถเข้าชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ FB: @PhotoFairThailand หรือ www.PhotoFairBangkok.com

Share:

เทลสกอร์จัดงานประกาศรางวัลสำหรับผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด “Thailand Influencer Awards 2019” รวมพลสุดยอดอินฟลูเอนเซอร์แห่งปี


​ กรุงเทพฯ: 28 พฤศจิกายน 2562 - เทลสกอร์ ผู้นำด้านอินฟลูเอนเซอร์มาร์เก็ตติ้งแพลตฟอร์ม ที่ให้บริการสร้างแคมเปญออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มอินฟลูเอนเซอร์เมเนจเมนท์ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยแห่งแรกในประเทศไทย โดย
สุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง เทลสกอร์ จัดงาน Thailand Influencer Awards 2019 งานประกาศรางวัลสำหรับผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด หรือ อินฟลูเอนเซอร์ ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมในช่องทางดิจิทัล จัดขึ้นเพื่อนำเสนอไมโครอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการทำการตลาด ยกย่องการทำงาน และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่อินฟลูเอนเซอร์และนักการตลาดท่านอื่น รวมไปถึงสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ แสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ และส่งเสริมจิตสำนึกให้แก่วงการสื่อสาร โฆษณา และสังคม โดยได้รับเกียรติจากบุคคลผู้ทรงคุณวุฒิในวงการอินฟลูเอนเซอร์ นำโดย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ พิธีกรและผู้ผลิตรายการ จากแบไต๋ เจ้าของฉายา
“เจ้าพ่อวงการไอที” มอบรางวัลในกลุ่มนักการตลาดและสุดยอดแคมเปญอินฟลูเอนเซอร์แห่งปี, มอบรางวัลสำหรับไมโครอินฟลูเอนเซอร์ยอดเยี่ยมแห่งปี รวม 9 รางวัล และ ณธกฤต กาญจนมัณฑนา Lead of Commercial Content & Media Team LINE Thailand ผู้มากประสบการณ์ในด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติง มอบรางวัลในกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ 15 รางวัล และ คุณสุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง เทลสกอร์, ไมโครอินฟลูเอนเซอร์ยอดเยี่ยมแห่งปีที่ได้รับการคัดเลือกจากเทลสกอร์ และรางวัลในกลุ่มคอมมูนิตี้อินฟลูเอนเซอร์ และสื่อที่มีผลงานส่งเสริมวงการอินฟลูเอนเซอร์ รวม 5 รางวัล รวมทั้งสิ้นจำนวน 29 รางวัล
คุณสุวิตา จรัญวงศ์ กล่าวว่า “ปัจจุบันเทลสกอร์ได้ให้บริการในประเทศไทย และขยายสาขาไปยังอินโดนีเซียมีอินฟลูเอนเซอร์มากกว่า 50,000 คน การจัดงานในครั้งนี้จึงเป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของสุดยอดอินฟลูเอนเซอร์ และสร้างคอมมูนิตี้ให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ในหลากหลายสาขาความถนัด อาทิ สุขภาพ ความงาม แม่และเด็ก ท่องเที่ยว เทคโนโลยีและอุปกรณ์เสริม เป็นต้น อินฟลูเอนเซอร์ถือเป็นศาสตร์ใหม่ที่เข้ามามีอิทธิพลอย่างมากในวงการสื่อและการตลาด
เทลสกอร์ในฐานะอินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติง จึงได้จัดงาน Thailand Influencer Awards 2019 ขึ้นมาเป็นปีแรก เพื่อกำหนดมาตรฐานของอินฟลูเอนเซอร์ให้ชัดเจน สร้างความเข้าใจและการรับรู้เกี่ยวกับอินฟลูเอนเซอร์ไปสู่วงกว้าง โดยได้รับเกียรติจากกูรูในวงการดิจิทัลมาร์เก็ตติง มาร่วมเป็นกรรมการตัดสิน เพื่อเฟ้นหาอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละสาขารางวัล”
​นอกจากนี้ไฮไลท์ภายในงานยังมีเสวนา “Driving Influencer Marketing in Global Digital Transformation”ที่จะมาให้คำตอบเกี่ยวกับ Influencer Marketing 2020 และคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย จากปากของผู้คร่ำหวอดในแวดวงการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ อาทิ คุณศุภวัฒน์ พีรานนท์ Head of Music จาก TikTok Thailand,  คุณรัสรินทร์ อรุณอิทธิวิทย์ Co-Founder & Editor จาก Brand Buffet, คุณวรรณิตา คำนุ้ย Head of Community จาก Jeban, คุณวรวรรณ วิจิตรวงกล Vice President Strategic Marketing Communication จาก SCB และ       
คุณโชติกะ ธงศรี เจ้าของเพจชีวิตติดรีวิว พร้อมโชว์เปิดตัวสุดพิเศษจากแรปเปอร์ชื่อดัง “ไมยราพ”แชมป์ The Rapper     ซีซัน 2 และมี Influencer Mini Expo เนรมิตกำแพงห้องจัดงานที่ยาว 15 เมตร รวบรวมคำพูดสุดประทับใจจาก       
อินฟลูเอนเซอร์รุ่นใหม่ เพื่อถ่ายทอดทัศนคติการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ และสร้างแรงบันดาลใจ สะท้อนให้เห็นว่าทุกคน  ก็สามารถเป็นอินฟลูเอนเซอร์ได้
ติดตามผลการประกาศรางวัล Thailand Influencer Awards 2019 หรือหากสนใจเกี่ยวกับการให้บริการสร้างแคมเปญออนไลน์ สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/tellscore หรือทาง www.tellscore.co
เกี่ยวกับ เทลสกอร์ (Tellscore)
Tellscore ผู้นำด้านอินฟลูเอนเซอร์มาร์เก็ตติ้งแพลตฟอร์ม ที่ให้บริการสร้างแคมเปญออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอินฟลูเอนเซอร์เมเนจเมนท์ ด้วยเทคโนโลยีท่ีทันสมัย AI/ML (Artificial Intelligence / Machine Learning) แห่งแรกในประเทศไทย                 ดำเนินธุรกิจมากว่า 3 ปี ภายใต้วิสัยทัศน์ Real Content, Real People, Real Time ปัจจุบันให้บริการในประเทศไทย                   และขยายสาขาไปยังอินโดนีเซีย มีอินฟลูเอนเซอร์กว่า 50,000 คน แบ่งประเภทจาก 12 ความถนัด อาทิ สุขภาพ ความงาม แม่และเด็ก ท่องเที่ยว เทคโนโลยีและแก็ดเจ็ต ฯลฯ เพื่อถ่ายทอดความตั้งใจของนักการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง
Share:

รีวิว :: ครัวเจ๊ง้อ อาหารอร่อยต้องพิถีพิถัน เพราะคุณภาพอาหาร...คือคุณภาพชีวิต

ค รั ว เ จ๊ ง้ อ:: - Jengor's Kitchen  อาหารอร่อยต้องพิถีพิถัน  คุณภาพอาหารคือคุณภาพชีวิต ความอร่อยมใจตำนานที่ยาวนาน #ไม่ใส่ผงชูรสทุกชนิด ✨ #Since1999 📌#
วันนี้ Insight Out Story  พาเพื่อนมาหลบมุมทานอาหารกลางวันที่ ครัวเจ๊ง้อ สาขาสุขุมวิท 20 กัน เข้ามาจากปากซอยประมาณ 500 เมตร อยู่ขวามือ ลักษณ์ร้านคล้ายบ้านที่ล้อมรอบไปด้วยตึกสูงในย่านสุขุมวิท หน้าร้านมีลานกว้างสำหรับจอดรถ  มองหาความอร่อยต้นตำหรับมาที่นี่เลยเดินทางสะดวก
ที่ร้านตกแต่งสไตล์จีน มีของประดับเป็นของสะสมของเจ้าของร้านค่ะ มีหลากหลายมุมให้เลือกนั่งชิลล์ ถ่ายรูปสวยๆ ได้ค่ะ
ครัวเจ๊ง้อ เกิดขึ้นด้วย ความรัก จากหญิงสู้ชีวิต ที่รักในการทำอาหาร และคัดสรร เลือกวัตถุดิบที่ดีและสดจริงๆ ด้วยตัวเอง เพราะเชื่อว่า วัตถุดิบที่สดและดีมีคุณภาพ เป็นจุดเริ่มต้นของอาหารอร่อยในทุกจาน เป็นหัวใจหลักของการทำอาหารที่เจ๊ง้อยึดมั่นเสมอมา จากวันนั้นถึงวันนี้ เกือบ 20 ปี มีสาขาทั่วกรุงเทพและปริมณฑล มากมายเป็นที่ยอมรับ ในรสชาติอาหารที่อร่อย พิถีพิถันในการปรุง และวัตถุดิบที่ใหม่สด มีคุณภาพจนมีชื่อเสียงไปยังต่างประเทศ และเป็นร้านในใจอันดับต้นๆของลูกค้าตลอดมา


 
โดยเมนูขึ้นชื่อ ที่มาเมื่อไหร่ก็ต้องสั่ง อาทิ ผัดผักบุ้งฝอย หมี่ผัดกะเฉด (เจ้าแรกของประเทศไทย) ส้มตำปูไข่ดอง กั้งทอดกระเทียม เผือกทอด เป็นต้น และทุกวันนี้เจ๊ง้อ ยังเปิดโรงเรียนสอนทำอาหารเพื่อถ่ายทอดความรู้ให้ผู้สนใจ และมีใจรักในการทำอาหารเหมือนเจ๊ง้อให้สามารถประกอบอาชีพได้จริงอีกด้วย เราไปดูเมนูต่างๆในร้านเจ๊ง้อกันค่ะ 

เมนูการันตี จาก 

มิชลินไกด์ ไทยแลนด์ 

 ปี 2018-2019

รสชาติของอาหารที่นี่ การันตีด้วยรางวัลจาก  “มิชลินไกด์ ไทยแลนด์ – MICHELIN GUIDE Thailand ”  โดยครัวเจ๊ง้อ สาขาสุขุมวิท 20 เป็นร้านที่คว้ารางวัล The Plate โดยเป็นร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่และปรุงอย่างพิถีพิถัน
โดยได้รับจาก MICHELIN GUIDE ถึง 2 ปีติดต่อกัน คือ Michelin Plate ปี 2018  อาหารจานแนะนำ ปูผัดพริกไทยดำ และ ผัดผักบุ้งฝอย และ Michelin Plate ปี 2019 อาหารจานแนะนำ เส้นหมี่ผัดผักกระเฉด  "เพราะคุณภาพอาหาร...คือคุณภาพชีวิต" 

เริ่มด้วยที่ปี 2018  2 เมนู 

ปูผัดพริกไทยดำ และ ผัดผักบุ้งฝอย     

เมนูแรกปูผัดพริกไทยดำ    
รางวัลแรกที่ได้จาก MICHELIN PLATE  2018  เมนูของความอร่อยมที่ให้รสชาติที่กลมกล่อม และวัตถุดิบที่สดใหม่  จากปูตัวใหญ่ เนื้อแน่น  ปรุงรสด้วยซอส  พร้อมไทยดำ และกระเทียมเจียว  อร่อยยกนิ้วให้เลยค่ะ 
เมนูต่อมาเลยค่ะ ผัดดผักบุ้งฝอย 
Signature เมนูผักบุ้งต้นกำเนินของร้านดั้งเดิม  ที่อร่อยต้องแนะนำจานต่อไปจาก Michelin Plate  2018 อร่อยจานนี้มีเคล็ดลับ ความสด ความกรอบ และความฝอยของผักบุ้ง และน้ำซอสที่เข้าถึงรส ผัดด้วยไฟร้อนแรงกำลังดี เมนูนี้รับรองว่าเด็ดกว่าร้านอื่นๆแน่นนอน 

และปีนี้  2019  อีก 1 เมนู

เส้นหมี่ผัดผักกระเฉด
มาร้านเจ้ง้อทุกคนต้องนึกถึงเมนูนี้อย่างแน่นอน เรียกได้ว่าเป็น ซิกเนเจอร์อีกเมนูของร้าน การันตีด้วย  MICHELIN PLATES ปี 2019   ด้วยรสชาติของผักกระเฉดที่อ่อนกำลังดี และการเลี้ยงในน้ำที่สะอาดทำให้รสชาติดี และสดใหม่ทุกวัน ผัดกับเส้นหมี่ ปรุงด้วยน้ำซอส และมันกุ้ง จากฝีมือเชฟได้อาหารจานเด็ดที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน

เมนูแนะนำของทางร้าน 

ไก่แช่เหล้า
ไก่ตอนเนื้อเเน่น ชิ้นโต นำไปต้มกับเครื่องเทศที่ปรุงรสจนเข้าเนื้อเข้าหนัง ประมาณ 30 นาที แล้วนำมาราดด้วยซอสเหล้าสูตรเฉพาะให้ซึบซาบลงสู่เนื้อในและหนังอีกครั้ง เพิ่มเติมรสชาติด้วยน้ำจิ้มเผ็ด คงความหวานเนื้อไก่ หอมซอสเหล้านิดๆ อร่อยลงตัว
สลัดกุ้งทอดกรอบผักปลอดสารพิษ
เมนูสลัดนี้ ส่วนตัวชอบมาก เป็นสลัดกุ้งพันมากับหมี่กรอบ ทานคู่น้ำสลัดรสชาติดี ผักที่ปลอดสารพิษมีความกรอบ เป็นอาหารสุขภาพอีกจานที่แนะนำว่ามาแล้วต้องสั่งรับประทานนะค่ะ  
ยำผักบุ้งทอดกรอบ
เมนูผักบุ้งกับร้านเจ้ง้อเป็นของคู่กันจริงๆ เมนูนี้ อร่อยไม่แพ้จานไหน จากผักบุ้งที่สดกรอบ ทอด รับประทานคู่กับน้ำยำรสจัดจ้าน ทานเพลินเกินห้ามใจค่ะ  
ยำส้มโอทรงเครื่องกุ้งสด
ส้มโอที่นี้คัดมาอย่างดี หวานกรอบ นำมาทำเป็นเมนูยำ ด้วยเครื่องน้ำยำ ครบรส คลุกเค้ากับกุ้งสด เนื้อเด้งเต็มคำ อร่อยจิงจังเมนูนี้ค่ะ  
ส้มตำปูไข่ดอง
เมนูส้มตำต้องมา จานนี้เป็นปูไข่ดอง ปูเนื้อแน่น ไข่แดงเยิ้มๆๆ น้ำส้มตำถึงรส สด สะอาด รสชาติถึงใจ  
เย็นตาโฟผัดแห้ง
เมนูก๋วยเตี๋ยวก้อมี เป็นเย็นตาโฟผัดแห้ง เครื่องเต็มจานไม่มีกั๊ก ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ปลาหมึก แมงกระพรุน ฮื่อก้วย เต้าหู้ยัดไส้ มาครบ อร่อยกันได้เต็มที่ รสชาติ เข้มข้น  
ปลากะพงทอดราดซีอิ๊ว 

ปลากะพง เนื้อปลาหวาน เพราะสดใหม่ทุกวัน ทอดกรอบ ปรุงด้วยน้ำซอส รสชาติดี เมนูนี้คนรักปลาต้องสั่งค่ะ 
ปูผัดผงกะหรี่
ปูจ๋ามาอีกเมนูแล้ว ที่แนะนำต้องสั่ง เพราะความสดสด ตัวใหญ่คัดมาแล้ว ปรุงด้วย เครื่องเทศและผงกะหรี่สไตล์จีน  เสิร์ฟมาในกระทะร้อนทานคู่กับหมี่ขาว อร่อยกลมกล่อมต้องลองสักครั้งค่ะ 
ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง
อาหารหลากหลาย เมนูนี้ ก๋วยเตี๋ยวหลอด ส่วนชอบมาก ทั้งๆที่ชิมไปหลายเมนูแล้ว แต่เมื่อได้ชิมแล้วก้อหยุดไม่ได้เช่นกัน ไส้แน่นพร้อมกุ้งเนื้อเด้งข้างใน เนื้อแป้งนุ่ม   ครัวเจ๊ง้อ อร่อยจริงๆ ต้องมาลองนะค่ะ 
ข้าวผัดปลาแซลมอนเค็ม
เมนูข้าวมาแล้ว เป็นข้าวผัดแซลมอนเค็ม วัตถุดิบที่ใช้รับรองความอร่อย สั่งเลยทานได้กับทุกเมนู 

เมนูสายหวาน

ก่อนเสิร์ฟเมนูหวาน มีผลไม้ส้มโอ รับประทานก่อนค่ะ
เมนูเผือกหิมะ
ที่แนะนำวันนี้ เรียกได้ว่าเมนูของหวานซิกเนเจอร์ ความนุ่มของเผือก และเพิ่มความหวานด้วยเกร็ดน้ำตาลรอบนอก เรียกว่านุ่มในหวานนอก เมนูรับประทานตอนร้อนๆ จะได้อรรถรถอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ

เมนูแปะก๊วยนมสดมะพร้าวอ่อน
ความหอมนมสดและ หวานเนื้อมะพร้าว พร้อมด้วย แปะก๊วย  หวานกำลังดี ทานเพลินเลยค่ะ

และเมนูพิเศษสำหรับวันพ่อ  

(ระหว่างวันที่ 5-10 ธันวาคม 2562)    
กับโปรวันพ่อ พาคุณพ่อมาอิ่มอร่อยที่ร้านรับสิทธิ์ฟรี 1 
ที่อาหารจานอร่อย เมนูเย็นตาโฟผัดแห้ง หรือ ยำผักบุ้งทอดกรอบ
สำหรับห้องจัดเลี้ยง รองรับได้ 12 โต๊ะ / 120 ท่าน ฟรี ค่าบริการค่าห้อง มีเครื่องเสียง ลำโพง ไมโครโฟน ไว้บริการ โดยไม่คิดค่าบริการเพิ่มเติม   ต้องมาลอง สด สะอาด อร่อย ทุกวัน ครัวเจ๊ง้อ 11 สาขา ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ใกล้บ้านคุณ

ครัวเจ๊ง้อ สาขาสุขุมวิท 20 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
68/2 ถนนสุขุมวิท 20 กรุงเทพฯ 
🌍www.jengor-seafoods.com
☎️ โทรศัพท์ 086-520-9560
☎️ โทรศัพท์ 02-2588008-9
👉IG : jengorkitchen
เปิดบริการ วันจันทร์-ศุกร์
 เวลา 11.30-14.30 น. และ 17.30 -22.30 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.30-22.30 น.
Email : jengorseafoodsukhumvit20@gmail.com

**มีจัดส่งด้วยนะค่ะ :: สั่งได้ที่ 
Line Man :: https://lineman.line.me
Foodpanda :: www.foodpanda.co.th
ChefsXP :: www.chefsxp.com
Call 1767 for Delivery
------------------------------------------------------------------
#อาหารอร่อยต้องพิถีพิถัน#ครัวเจ๊ง้อ
#คุณภาพอาหารคือคุณภาพชีวิต
#มิชลินเพลท2019เส้นหมี่ผัดผักกระเฉด



Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก