ดาราและเซเลบริตี้ระดับแถวหน้าเมืองไทย ต่างยกให้ TOM FORD CHERRY COLLECTION เป็นกลิ่นหอมประจำตัว กับความหอมของเชอร์รี่ 3 แนวกลิ่นที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์

หลังเปิดตัวน้ำหอมกลิ่นใหม่ในตระกูล Private Blend Cherry Collection ไปเพียงไม่กี่สัปดาห์ ชื่อของ “TOM FORD CHERRY COLLECTION” ก็ครองใจคนรักความหอมจนกลายเป็น Must Have Item ของดาราและเซเลบริตี้ระดับแถวหน้าของเมืองไทย อาทิ คุณแอน ทองประสม, คุณเจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ, คุณวิว-วรรณรท สนธิไชย รวมถึง Raising Star ที่กำลังมาแรง อย่าง คุณออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง ที่ล่าสุดมีผลงาน The Hunger ที่เพิ่งเปิดตัวทาง Netflix และคุณปอร์เช่-ศิวกร อดุลสุทธิกุล ต่างก็ยกให้เป็นกลิ่นหอมประจำตัวที่ทุกคนชื่นชอบ

TOM FORD CHERRY COLLECTION ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดสูทไอคอนิก Cherry Red ที่ TOM FORD ดีไซน์ขึ้นในปี 1996 และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ด้วยเนื้อผ้าที่คัดสรรค์มาอย่างประณีต คัตติ้งที่ใส่แล้วสวยเข้ารูป และสีที่เป็นไอคอนิก ดูทันสมัยและเรียบโก้ ทำให้หลังจากนั้น หากนึกถึงเชอร์รี่ ผู้คนที่นึกถึงแฟชั่นก็จะนึกถึง TOM FORD เป็นอันดับแรก ซึ่งไม่เพียงแค่ด้านแฟชั่นเท่านั้นที่เขาบรรจงถ่ายทอดลุคดูเรียบโก้ที่ดูหรูหราทันสมัยจนกลายเป็นไอคอนิกประจำตัว แต่ TOM FORD ยังได้นำ Cherry Red มารังสรรค์น้ำหอม CHERRY COLLECTION และ Face Color เพื่อสื่อสารถึงความสง่างามให้ครบทุกมิติ โดยคัดสรรส่วนผสมล้ำค่าจากธรรมชาติมาปรุงกลิ่นหอมที่มีเอกลักษณ์ แสดงถึงความขี้เล่น ซุกซน ทว่าแฝงไว้ซึ่งเสน่ห์อันน่าค้นหา ด้วย 3 แนวกลิ่นเชอร์รี่ที่มีมิติแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ได้แก่ ELECTRIC CHERRY, LOST CHERRY และ CHERRY SMOKE ในมิติที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ ซึ่ง TOM FORD ได้นิยามไว้ว่า “คอลเลกชันนี้ยกระดับโน้ตเชอร์รี่ไปสู่มิติใหม่ ด้วยการเพิ่มส่วนผสมที่หายากและคาดไม่ถึงที่สุด" 

TOM FORD ELECTRIC CHERRY

TOM FORD ELECTRIC CHERRY EAU DE PARFUM

“ELECTRIC CHERRY ชวนให้นึกถึงได้สัมผัสถึงความร่าเริง และซุกซน แนวกลิ่นที่ทำให้นึกจุดเริ่มต้นของความโรแมนติกในช่วงแรกของความรัก” – TOM FORD

ELECTRIC CHERRY ผสานกลิ่นหอมอมเปรี้ยวของ Morello Cherry เข้าไว้กับสัมผัสที่แสนเบิกบานและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาของ Ginger ในขณะที่ Jasmine Sambac ที่หรูหรานำมาซึ่งสัมผัสที่ชวนหลงใหล และ Ambrettolide ที่เผยกลิ่นหอมอันเย้ายวนของมัสก์ให้ปรากฏ ซึ่งได้คลี่คลายออกมาพร้อมกับลมหายใจอันอบอุ่นของ Pink Pepper รสเผ็ดร้อน บรรจุในขวดสีแดงเจิดจ้าของน้ำหอม Private Blend อันหรูหราที่เป็นไอคอนของทางแบรนด์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2566 และคว้าตำแหน่งน้ำหอมขายดีอันดับหนึ่งของแบรนด์ในเดือนมีนาคม 2566 แซงหน้าน้ำหอมขายดีในตำนานของ TOM FORD อย่าง Tom Ford Soleil Neige ที่เป็น Hero Fragrance ในทุกๆ เดือน ไปในเวลาอันรวดเร็ว

ในขณะเดียวกัน คุณวิว วรรณรท และ Influencer หลายท่าน ต่างก็ชื่นชอบและยกให้ Electric Cherry เป็นที่หนึ่งในใจ เช่นเดียวกับ คุณกัปตัน ชลธร ผู้ที่ชอบน้ำหอมและเป็นแฟนของ TOM FORD อยู่แล้ว ก็เลือก ELECTRIC CHERRY เป็นแนวกลิ่นที่ชื่นชอบมากที่สุดเช่นกัน

“กลิ่นของเหล้าเชอร์รี่และสัมผัสของอัลมอนด์ขมอวลกรุ่นอยู่ในใจกลางของน้ำหอม และเคลือบมันไว้ด้วยประกายแวววาวดั่งลูกกวาด” – TOM FORD 

น้ำหอม LOST CHERRY ที่ทั้งหรูหราและเข้มข้น ผสานสัมผัสที่เปล่งประกายและเย้ายวนดั่งลูกกวาดของเชอร์รี่ดำที่แปลกใหม่และอัลมอนด์ขมเข้าไว้ด้วยกัน เชอร์รี่ดำและเหล้าเชอร์รี่ที่หรูหรามาผสานเข้ากับความขี้เล่นเย้ายวนของอัลมอนด์ขม แผ่ซ่านกระจายเป็นคลื่นแห่งกลิ่นหอมที่ทั้งหวานและเปรี้ยว กลิ่นฟลอรัลที่เข้มข้น ความหรูหราของกุหลาบตุรกี และ Jasmin Sambac คลอเคล้ามากับเสน่ห์ที่คาดไม่ถึงของแซนเดิลวู้ด Vetiver และซีดาร์ บรรจุในขวดสีแดงของน้ำหอม Private Blend อันหรูหราที่เป็นไอคอน ซึ่งกลับมาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยติดอันดับน้ำหอมขายดีของแบรนด์ในอันดับ 4 ประจำเดือนมีนาคม 2566 จากเดิมอยู่ในอันดับ 5   

“CHERRY SMOKE คืออีกด้านที่เข้มข้นของการสัมผัส Cherry ที่ชวนให้นึกถึงความเร้าร้อนและความคลั่งไคล้ในห้วงของความรักจนขาดไม่ได้” – TOM FORD 

CHERRY SMOKE เปิดตัวด้วยกลิ่นหอมที่แสนประณีตของ Dark Cherry Flavor Scenttrek® ที่เด่นชัดขึ้นด้วยกลิ่นของหญ้าฝรั่นที่แปลกใหม่ กลิ่นหอมละมุนละไมของดอก Osmanthus สีขาว เผยให้เห็นมิติอันน่าอัศจรรย์ของแอปริคอต มะกอก และหนัง ในขณะที่กลิ่นของไม้หอมรมควันอันล้ำค่าชวนให้ตื่นตะลึงไปกับสัมผัสแสนดึงดูดที่ระอุอวลและเต็มไปด้วยเสน่ห์อันเย้ายวน บรรจุในขวดสีแดงเข้มของน้ำหอม Private Blend อันหรูหราที่เป็นไอคอน

คอลเลกชันนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2566 ก็สร้างปรากฏการณ์ Sold Out ภายใน 2 สัปดาห์หลังจากวางจำหน่าย โดยได้รับความสนใจจากนักแสดงชั้นนำและเซเลบริตี้แถวหน้าของเมืองไทย ที่ต่างหลงใหลในสัมผัสอันแปลกใหม่ของกลิ่นหอมในอีกมิติหนึ่งของเชอร์รี่ อาทิ คุณแอน ทองประสม, คุณเจมส์ ธีรดนย์ รวมถึง Raising Star ที่กำลังมาแรง อย่าง คุณออกแบบ ชุติมณฑน์ ที่ล่าสุดมีผลงาน The Hunger ที่เพิ่งเปิดตัวทาง Netflix และคุณปอร์เช่ ศิวกร


คุณแอน ทองประสม ผู้จัดละคร และนักแสดงระดับแถวหน้าของเมืองไทย
กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากที่ได้สัมผัสกับ TOM FORD Cherry Smoke ว่า “ส่วนตัวเป็นคนชอบน้ำหอมแนวกลิ่นฟรุตตี้อยู่แล้ว สำหรับ TOM FORD พอได้ลองแล้วชอบนะคะ โดยเฉพาะกลิ่น Cherry Smoke ด้วยความหอมที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ และไม่ค่อยเจอกลิ่นแบบนี้ เมื่อใช้แล้วรู้สึกว่าสามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันค่ะ”

ทางด้านเหล่านักแสดงชาย ต่างก็มีความเห็นที่ตรงกันว่า TOM FORD Cherry Smoke เป็นแนวกลิ่นที่สามารถเข้ากับผู้ชายได้ และเป็นกลิ่นที่หอมสดชื่น แต่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ทำให้มิติของน้ำหอมกลิ่นนี้แตกต่างจากแบรนด์อื่น รวมถึงหลายคนได้เลือกให้ Cherry Smoke เป็นน้ำหอมประจำตัวไปเรียบร้อยแล้ว

สัมผัสทั้ง 3 แนวกลิ่นของเชอร์รี่ในมิติที่แตกต่างได้แล้วที่ เคาน์เตอร์ TOM FORD BEAUTY ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ที่ Central Online, M Online, Sephora และ Lazada สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ Line Official Account: @TOMFORDBEAUTYTH

#TFCHERRYCOLLECTION  #TOMFORDBEAUTY #TOMFORD

Share:

อลังการ!! โช้คอัพ "YSS" เปิดศูนย์บริการและกระจายสินค้าแบบครบวงจร ตอกย้ำความยิ่งใหญ่แบรนด์คนไทยเบอร์หนึ่งของโลก

โช้คอัพพรีเมี่ยมคลาส YSS (วาย.เอส.เอส.) ประกาศความยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่องในฐานะโช้คอัพคนไทยเบอร์หนึ่งของโลก เดินหน้าพลิกโฉมอุตสาหกรรมอะไหล่ยนต์ เปิดศูนย์บริการและกระจายสินค้าแบบครบวงจร YSS D.C. (Distribution and Service center) สุดอลังการด้วยงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท เปลี่ยนพื้นที่กว่า 8 ไร่ เป็นศูนย์ฯ ต้นแบบ รวมทั้งเป็นแฟลกชิพสโตร์แห่งแรก ยิ่งใหญ่และทันสมัยที่สุดของโลก พร้อมวางแผนธุรกิจตั้งเป้าขยายศูนย์บริการเพิ่มขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ รวมถึงต่างจังหวัดและประเทศต่างๆในอาเซียน

บริษัท วาย.เอส.เอส. (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายโช้คอัพ HIGH PERFORMANCE สัญชาติไทย ภายใต้แบรนด์  YSS (วาย.เอส.เอส.) ที่ทั่วโลกยอมรับ สำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์  จนก้าวเป็นอันดับ 1 ทั้งในไทยและต่างประเทศ เปิดศูนย์ “YSS D.C.” หรือ YSS Distribution and Service Center โดยมี นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานกรรมการ และนาย ภิญโญ พานิชเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นประธานในงาน พร้อมด้วย นายฮาร์รี เอสเซ้นส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนา รวมถึงพันธมิตรจากทั่วโลกเข้าร่วมงานในบรรยากาศสุดเอ็กซ์คลูซีพ

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานกรรมการ บริษัท วาย.เอส.เอส. (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดศูนย์ “YSS D.C.” ซึ่งเป็นทั้งสำนักงานใหญ่ ศูนย์บริการและศูนย์กระจายสินค้าแบบครบวงจร (Distribution and Service Center) ที่มุ่งตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า โดยรวมเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีความทันสมัยที่สุดมาเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างเร็วที่สุดไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก นอกจากนี้ภายในยังแบ่งออกเป็นหลายส่วน ได้แก่

- โชวร์รูม ส่วนแสดงสินค้าของ YSS และพาร์ทเนอร์ เป็นสถานที่แสดงสินค้า YSS ที่ใหญ่ ครบ และทันสมัยที่สุดในโลก มีสินค้าพร้อมให้บริการครบทุกรุ่น  การันตีพร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า          

- พิพิธภัณฑ์  YSS Museum และ YSS Hall of Fame ที่รวมเรื่องราว YSS ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เรื่องราวของถ้วยรางวัลระดับแชมป์ จากรายการแข่งขันระดับโลก ที่นักแข่ง-ทีมแข่ง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ YSS จนประสบความสำเร็จ และยังเป็นส่วนจัดแสดงรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ ที่ติดตั้งผลิตภัณท์ YSS ทั้งรุ่นใหม่และรถรุ่นเก่าอายุมากกว่า 60 ปี รวมถึงรถที่คว้าแชมป์จากรายการระดับโลกก็ถูกนำมาจัดแสดงที่แห่งนี้ด้วย  

- ศูนย์บริการ ส่วนงานติดตั้งผลิตภัณท์ YSS ทั้งรถยนต์และจักรยานยนต์ที่มีมาตราฐานระดับสูง พร้อมให้บริการปรับเซ็ตโช้คอัพให้ถูกต้องเหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้ามากที่สุด โดยส่วนนี้จะมีห้องพักรับรองสำหรับลูกค้าที่จะมองเห็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา

- ระบบบริหารคลังสินค้า (Warehouse Management System หรือ WMS) ที่ทันสมัย มีการออกแบบการจัดส่ง การลำเลียงสินค้า การเติมเต็มสินค้าในรูปแบบใหม่ ซึ่งจะทำให้การบริหารสินค้าคงคลังมีประสิทธิภาพมากขึ้น การจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า ทำได้เร็วและแม่นยำ 

- Automated Storage & Retrieval System (ASRS) ระบบจัดเก็บและจ่ายสินค้าอัตโนมัติ ระบบเก็บสินค้าเต็ม Pallet โดยใช้ระบบเครนอัตโนมัติทำงานร่วมกับระบบ WMS  เพื่อเกิดประโยขน์สูงสุดในการบริหารพื้นที่ มีความแม่นยำ และปลอดภัยต่อพนักงาน  

- พื้นที่คอมมูนิตี้ (Community) พื้นที่รองรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมสำหรับตัวแทนจำหน่าย กลุ่มคลับ หรือกลุ่มลูกค้าทีใช้ผลิตภัณฑ์ YSS  รวมถึงยังเป็นจุดรวมพลก่อนออกทริปอีกด้วย   

- พื้นที่ไลฟ์สไตล์ ร้านอาหารระดับพรีเมี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้ เปิดรับทั้งลูกค้าที่มาใช้บริการ YSS D.C. และ ผู้ที่สนใจจากภายนอก เราคัดสรรทุกร้านมาอย่างพิถีพิถัน อาทิ ก๋วยเตี๋ยวเรือยอร์ช ร้านเขียง พัฟแอนด์ พาย และชาตรามือ

ทั้งนี้ ศูนย์ “YSS D.C. (YSS Distribution and Service Center) เป็นต้นแบบและก้าวใหม่ของอุตสาหกรรมอะไหล่ยนต์ ในการให้บริการและกระจายสินค้าอย่างครบเครื่องและทันสมัยที่สุด และยังเป็นแฟลกชิพสโตร์แห่งแรกของประเทศไทยและทั่วโลก เพื่อให้เป็นศูนย์ฯต้นแบบของบริษัท หลังจากนั้นจะกระจายไปยังที่อื่นๆ ในส่วนภูมิภาคในรูปแบบของบริษัทลงทุนเอง หรืออาจจะให้ตัวแทนจำหน่ายของบริษัทเป็นผู้ลงทุนในรูปแบบของแฟรนไชส์ในอนาคต

นอกจากนี้ นาย ภิญโญ พานิชเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาย.เอส.เอส. (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ผลประกอบการในปี 2022 ที่ผ่านมามีมูลค่าถึง 1,070 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนตลาดในประเทศ 49% จำนวน 519 ล้านบาท และตลาดส่งออก 51% จำนวน 551 ล้านบาท  และยังมีแผนที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปี 2566 เพื่อหาพันธมิตร และพัฒนาธุรกิจให้แข็งแกร่งเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าอย่างต่อเนื่อง

โดยปัจจุบัน YSS มีสินค้ารองรับทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์รวมถึงยานพาหนะประเภทอื่นๆ อีกหลากหลายประเภทมากกว่า 8,200 รายการ ครอบคลุมกว่า 3,100 โมเดลทั่วโลก  มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดโลกกลุ่มสินค้าประเภทประสิทธิภาพสูง(High Performance) มีกำลังการผลิตมากกว่า 1.5 ล้านชิ้นต่อปี มีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center) มากถึง 6 แห่งทั่วโลกเริ่มจาก ประเทศไทย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ฮอลแลนด์ สเปน และ ประเทศอิตาลี ส่งออกไปจำหน่ายมากกว่า 40 ประเทศ และยังมีตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศมากถึง 60 ราย รวมถึงมีศูนย์บริการ 134 แห่งทั่วโลก โดยยังวางแผนขยายไปยังประเทศอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ เยอรมันนี อิตาลี อังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ กรีก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย และ จีน ฯลฯ  อีกทั้งยังเป็นโช้คอัพอันดับหนึ่งของประเทศไทยและยังเป็น  1 ใน 5 แบรนด์จากทั่วโลกที่ได้การรับรองมาตรฐานคุณภาพระดับสูง ABE จากประเทศเยอรมัน ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ

จากความสำเร็จที่กล่าวมา สามารถยืนยันได้ถึงความสำเร็จของโช้คอัพแบรนด์คนไทย YSS ได้เป็นอย่างดี รวมถึงการเปิดศูนย์บริการที่ยิ่งใหญ่ของ YSS D.C. (YSS Distribution and Service Center) เป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของวงการโช้คอัพโดยเฉพาะในประเทศไทย ที่สร้างความมั่นใจให้กับตัวแทนจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงลูกค้าเก่าและผู้ที่กำลังตัดสินใจซื้อโช้ค ได้อย่างยอดเยี่ยมสมฐานะ “โช้คอัพอันดับหนึ่งของประเทศไทย” ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกอย่างแท้จริง!

“YSS โช้คอัพคนไทย ระดับโลก”

Share:

ททท. จัดเต็มแสง สี เสียง กับงาน “วิจิตร 5 ภาค @กรุงเทพ” ดึงเทคโนโลยีสะท้อนศิลปะแห่งความศรัทธา ปักหมุด 3 พื้นที่แลนด์มาร์ก เมืองหลวง

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “วิจิตร 5 ภาค @กรุงเทพมหานคร” จัดเต็มนำเทคโนโลยีสมัยใหม่รูปแบบ Illumination Art สะท้อนศิลปวัฒนธรรมและความเชื่อของคนไทย ภายใต้คอนเซปต์ “วิจิตรการมู (เตลู) มู Light Experiences” ปักหมุด 3 แลนด์มาร์ก กรุงเทพมหานคร ได้แก่ ICONSIAM, อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก  และ สวนวชิรเบญจทัศ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัด เพิ่มอัตราพักค้างคืน นำสู่การสร้างรายได้หมุนเวียนในพื้นที่ ณ ลาน River Park ICONSIAM

โครงการ “วิจิตร 5 ภาค” เป็นกิจกรรม Event Marketing ที่อยู่ในกระแสนิยมและสามารถสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวและพักค้างคืน เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวไทยในการสร้างประสบการณ์ทรงคุณค่าและมุ่งสู่ความยั่งยืน โดย ททท. ต่อยอดส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาค ผ่านการเล่าเรื่อง ด้วยการใช้เทคนิคของแสง เสียง และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาเป็นเครื่องมือในการสะท้อนอัตลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย เป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวที่จะช่วยสร้างแรงจูงใจในการเดินทางท่องเที่ยวจริงในพื้นที่ และช่วยกระจายรายได้ให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้ง 5 ภูมิภาค 

โดยเริ่มต้นที่งาน “วิจิตร 5 ภาค @กรุงเทพมหานคร” ททท. จัดเต็มการแสดงแสง เสียง สุดวิจิตร ภายใต้แนวคิด “วิจิตรการมู (เตลู) มู Light Experiences” ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – 7 พฤษภาคม 2566 นำเสนอ 3 ความเชื่อของคนไทย ได้แก่ 1) ความเชื่อเรื่องพญานาค ซึ่งเป็นความเชื่อที่อยู่คู่สายน้ำกับคนไทยมาเนิ่นนาน โดยเกี่ยวข้องกับความสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง 2) ความเชื่อเรื่องการพยากรณ์ อันเป็นความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ เพื่อเสริมความมั่นใจ ทั้งด้านการงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ และ 3) ความเชื่อเรื่องปีเกิดนักษัตร ซึ่งเป็นความเชื่อที่บ่งบอกดวงชะตา และสิ่งที่เสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต รวมไปถึงบุคลิกและลักษณะนิสัย โดยความเชื่อทั้ง 3 รูปแบบนี้ จะถูกนำเสนอในรูปแบบการแสดงแสง เสียง ทั้ง 3 พื้นที่ของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ICONSIAM  อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก และสวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ

สำหรับงาน “วิจิตร 5 ภาค @กรุงเทพมหานคร” วิจิตรการมู (เตลู) มู Light Experiences แต่ละพื้นที่มีเอกลักษณ์และไฮไลท์การแสดงแสง เสียง ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้ 1) ศูนย์การค้า ICONSIAM สะท้อนความเชื่อของสายน้ำและพญานาค โดยจะมีการแสดง Multimedia Water Features การแสดงแสง เสียงผ่านสื่อผสมที่ทันสมัย จุดถ่ายรูปดวงจันทร์ การแสดง Contemporary Dance พร้อมกิจกรรมแชะ & แชร์ เพื่อลุ้นรับ e-voucher มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท และยังได้รับสิทธิ์ลุ้นรับสติกเกอร์ยันต์มหามงคลอีกด้วย 

โดย น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ได้มาเป็นประธานพิธีเปิด และได้รับเกียรติจาก นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นางฐนิวรรณ กุลมงคล คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายกิตติพงษ์ ประพัฒน์ทอง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง ททท., นายเกรียงศักดิ์ สุวรภามณีสวัสดิ์

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด, คุณจิระวดี คุณทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ, นายชัยพฤกษ์ ทองคำ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ, คุณชุณห์พิมาน เกิดนาค ผู้อำนวยการส่วนการท่องเที่ยวสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กทม. นายอนุชา จันทร์พรหม ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายไปรษณีย์นครหลวง 3 บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และนานโอฬาร เต็งรัง รักษาการผู้อำนวยการเจ้าท่ากรุงเทพ มาร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด

ส่วนที่อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก สะท้อนความเชื่อเรื่องไพ่ทาโร่หรือไพ่ยิปซี ศาสตร์การพยากรณ์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก พบกับการแสดง Projection Mapping บนอาคารไปรษณีย์กลาง พร้อมกิจกรรมแจก Wallpaper เสริมมงคล และลุ้นดูดวงจากนักพยากรณ์หลายศาสตร์ 

สุดพิเศษในวันที่ 30 เมษายน 2566 เชิญอาจารย์แห้วทำพิธีเจิมแป้งเสริมสิริมงคล ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมพิธีได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป พร้อมลุ้นรับสติกเกอร์ยันต์มหามงคล 

และจุดที่ 3 สวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ พบกับการถ่ายทอดเรื่องราวของดวงดาว 12 นักษัตร ผ่านการจัดแสดงโคมไฟบอลลูนรอบสวนสาธารณะ และการตกแต่งแสงสีบนต้นไม้และพื้นหญ้า ด้วยเทคนิค Lighting Installation 3D นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรม Walk Rally 12 นักษัตร ให้นักท่องเที่ยวได้ลุ้นรับรางวัลเหรียญมงคล 12 นักษัตร และสุดพิเศษกับกิจกรรม Fan Meeting กับสองหนุ่ม ‘ฟอส-บุ๊ค’ ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 เวลา 18:00 – 19:00 น. 

ททท. มุ่งหวังให้การจัดงาน “วิจิตร 5 ภาค @กรุงเทพมหานคร”  วิจิตรการมู (เต -ลู) มู Light Experiences จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างรายได้เข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและช่วยกระตุ้นการเดินทางของคนไทย เพื่อสร้างกระแสการออกเดินทางไปสัมผัสประเทศไทยในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมสีสันบรรยากาศในแต่ละพื้นที่ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center โทร. 1672 Travel Buddy

Share:

ททท. เปิดตัวกิจกรรม "โครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน" ตอบโจทย์ทุก ไลฟ์สไตล์ ตรงใจนักท่องเที่ยว

เช้านี้ (28 เมษายน 2566) นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม ภายใต้ "โครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน" นำเสนอเว็บไซค์การท่องเที่ยวสุดทันสมัย ปฏิทินรวบรวมเทศกาล กิจกรรม ประเพณี และระบบค้นหาแหล่งท่องเที่ยวที่จะตอบโจทย์ทุกความต้องการท่องเที่ยว พร้อมนำเสนอ 2 กิจกรรม กระตุ้นการท่องเที่ยว ได้แก่ "ขุมทรัพย์ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย" และกิจกรรมรับสมัครอาชีพ "นักท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย" รวมทั้งจับมือกับ KLOOK มอบส่วนลดและสิทธิพิเศษสำหรับสินค้า และบริการด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้ทุกการเดินทางท่องเที่ยวไทย Amazing ยิ่งกว่าเดิม พร้อมกันนี้ นางสาวเสาวนีย์ วงษ์สมพิพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด คลูก ประเทศไทย และนายฐานัฐพ์ โล่คุณสมบัติ นักแสดง ให้เกียรติเข้าร่วมงาน โดยมี แคน-อติรุจ กิตติพัฒนะ ร่วมดำเนินรายการ ณ ห้องโถงธนะรัชต์ อาคาร ททท

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า ตามที่ ททท. ดำเนินโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว แคมเปญ "365 วันมหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน" เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ผ่านการนำเสนอเส้นทางและรูปแบบการท่องเที่ยวมิติใหม่ที่น่าสนใจกว่าที่เคยทำให้ตลอดทั้ง 365 วัน เป็นไฮซีชั่นของการเดินทางท่องเที่ยว สร้างตำนานการเดินทางท่องเที่ยวบทใหม่ที่จะเป็น

ไทยเที่ยวไทยแบบ Limited Edition สัมผัสความมหัศจรรย์ของเมืองไทยอันน่าประทับใจและบอกต่อได้ทุกวัน ในโอกาสนี้ ททท. ได้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ amazingthailand365.tourismthailand.org เสนอไฮไลท์ feature สุดทันสมัยที่จะช่วยให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้ง่าย สะดวกสบายยิ่งขึ้นในทุกก้าวการเดินทาง ได้แก่

1. ปฏิทิน 365 Wonder Calendar ที่รวบรวมเทศกาล กิจกรรม ประเพณี วัฒนธรรม ดนตรี กิจกรรม และ แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทยทุกภูมิภาค

2. ระบบแนะนำแหล่งท่องเที่ยวส่วนบุคคลผ่านแอปพลิเคชั่น Line โดยใช้การกำหนดหมวดหมู่ความสนใจ แบ่งเป็น ภูมิภาค รูปแบบการท่องเที่ยว และช่วงเวลาท่องเที่ยว ซึ่งมีการประมวลผลที่แม่นยำและตรงใจนักท่องเที่ยวมาก ที่สุด เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้ค้นหาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวตามที่ ต้องการและอำนวยความสะดวกได้ อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และ 3. สิทธิพิเศษจากส่วนลดสำหรับใช้บริการโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร และการเข้าชม

แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ จากผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วไทย กว่า 200 รายการ เพื่อร่วมมอบประสบการณ์ท่องเที่ยว ที่มีคุณค่าและความหมาย รวมทั้งยังเป็นการช่วยกระจายรายได้หมุนเวียนสู่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว รายย่อยในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอีกด้วย

นอกจากนี้ ททท. ยังนำเสนอกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยว จำนวน 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม "ขุมทรัพย์ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย" เพียงออกเดินทางตามหาน้องสุขใจตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั้ง 77 จังหวัด และสแกนคิวอาร์โค้ดที่มาสคอต น้องสุขใจ เพื่อลุ้นรับของรางวัลมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท อาทิ แพ็กเกจที่พัก แพ็กเกจ เสริมความงาม ส่วนลดร้านอาหาร เป็นต้น และ กิจกรรมรับสมัคร "นักท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย" เพียงเดินทางออกไปสัมผัสความมหัศจรรย์ของเมืองไทยและจัดทำเนื้อหาประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว พร้อมทั้งสมัคร และส่งแฟ้มประวัติผลงานผ่านช่องทางเว็บไชต์ของโครงการฯ ททท. จะคัดเลือกผู้ร่วมกิจกรรมจำนวน 20 คน จากคอนเทนต์ที่นำเสนอ จากนั้นคัดเลือกด้วยการสัมภาษณ์กับคณะกรรมการเพื่อเฟ้นหา 1 คนที่จะได้เป็น นักท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งจะได้รับเงินรางวัลสนับสนุนในการท่องเที่ยว พร้อม Voucher ท่องเที่ยว

สำหรับเข้าใช้บริการสินค้าและกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว ร่วมมูลค่าของรางวัลในโครงการฯ ทั้งสิ้นกว่า 1.2 ล้านบาท โดยผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะต้องออกเดินทางท่องเที่ยวตามปฏิทินท่องเที่ยวของ ททท. เพื่อสร้างสรรค์ คอนเทนต์ที่เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวไทยตามปฏิทินท่องเที่ยวตลอดปี 2566 ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสามารถ

สมัครได้ทาง www.tourismthailand.org/amazingthailand365 ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน - 14 พฤษภาคม 2566 และ ประกาศผลภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 พร้อมนี้ ททท. ยังได้ร่วมมือกับเอเจนซี่การท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง KLOOK ที่รวบรวมบริการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ นำเสนอส่วนลด 365 วัน เที่ยวไทยได้สบายกระเป๋า ผ่านทาง เว็บไซต์ www.klook.com อีกด้วย

ทั้งนี้ ภายในงานแถลงข่าวฯ ได้มีการจัดพูดคุยภายใต้หัวข้อ "โครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน" โดยมีนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. ตัวแทนจากบริษัท คลูก เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด และ ลี-ฐานัฐพ์ โล่ห์คุณสมบัติ นักแสดง เข้าร่วมพูดคุย เพื่อแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับทิศทางการการท่องเที่ยวไทยในปี 2566 โดย ททท. คาดหวังว่า การดำเนินโครงการ "365 วัน มหัศจรรย์ เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน" จะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางเพื่อสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวมิติใหม่ ที่แตกต่างไปจากเดิมในช่วงนอกฤดูท่องเที่ยวมากขึ้น รวมถึงร่วมขับเคลื่อน ให้การท่องเที่ยวไทยกลับมาคึกครื้น อีกครั้งในปีท่องเที่ยวไทย 2566 นี้

จากนั้นได้รับเกียรติจาก นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. และนายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. ร่วมถ่ายภาพ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าศึกษารายละเอียดข้อมูลการท่องเที่ยวของโครงการ "365 วันมหัศจรรย์ เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน" ได้ทางเว็บไซต์ www.tourismthailand.org/amazingthailand365 หรือ TAT Contact Center โทร. 1672 Travel Buddy

Share:

ฝน-มนัสนันท์ ลุยธุรกิจ ME FIRM BY MENUTE ผลิตภัณฑ์ชนิดชงดื่ม ระดับพรีเมี่ยม

ฝน-มนัสนันท์ ลุยธุรกิจ ME FIRM BY MENUTE ผลิตภัณฑ์ชนิดชงดื่ม ระดับพรีเมี่ยม มั่นใจสินค้าดีมีคุณภาพ ผ่านการรับรอง FDA และจดลิขสิทธิ์เจ้าเดียวในไทยหวังช่วยให้คนไทยได้ปรับสมดุลรูปร่างขับถ่าย

เรียกว่าเป็นสาวแกร่งและฮอตอย่างต่อเนื่องจริงๆ สำหรับ "ฝน- มนัสนันส์ นวมพะเนียด "เจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำชง ME FIRM รวมถึงยังเป็นผู้บริหารคนเก่งแห่งห้างหุ้นส่วนจำกัด มนัสนันท์ 168 ผู้จัดจำหน่าย เครื่องดื่มสำเร็จชนิดผง มีให้เลือกถึง 5 รสชาติได้แก่ กาแฟ, โกโก้, ชานม, ชาเขียวมัทฉะลาเต้ และมิกซ์เบอร์รี่ ตรา ME FIRM BY MENUTE

โดยผลิตภัณฑ์ ME FIRM BY MENUTE ถือเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดชงดื่มระดับพรีเมี่ยมที่มาแรงเนื่องจาก วัตถุดิบของแต่ละรสชาตินำเข้าจากต่างประเทศ 

  • รสกาแฟ นำเข้า เมล็ดกาแฟจาก Brazil 
  • รสชานมบรานว์ชูก้า นำเข้าใบชาจาก Taiwan 
  • รสโกโก้ นำเข้าดาร์กช็อคโกแลตจาก Belgium 
  • รสชาเขียวมัทฉะลาเต้ นำเข้าใบชาจาก Japan  
  • รสมิกซ์เบอร์รึ่ นำเข้าSuperfood&Superfruit จาก Brazil, Italy, Spain และได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ทุกสูตรไม่มีน้ำตาลทรายขาว, ไขมันทรานส์, คอเลสเตอรอล มั่นใจเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดชงดื่ม อีกหนึ่งทางเลือกที่ดี สำหรับคนรักสุขภาพแค่ ฉีก ชง ดื่ม อร่อย ทานง่าย ไม่อ้วนแถมคุมหิว อิ่มนาน ที่สำคัญช่วยขับไขมันสะสมและปรับสมดุลระบบขับถ่ายในร่างกาย

โปรโมชั่นพิเศษซื้อ3กล่อง รสใดก็ได้ รับทันทีครีมกันแดด Over Wrap By Menute มูลค่า 290 บาทแถมยังส่งฟรีตลอดรายการ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์น้องใหม่ ที่กำลังวางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ (โปรโมชั่นมีจำนวนจำกัด) สามารถติดตามรายละเอียดที่ Line: @Mefirm IG: Me_Firm Facebook: Me Firm และ Tiktok: Mefirm_official

*เลขที่จดแจ้ง

  • 13-2-12461-6-0023
  • 13-2-12461-2-0093
  • 13-2-12461-2-0094
  • 13-2-12461-2-0095
  • 13-2-12461-2-0096


Share:

ดินแดนหิมะจำลองและน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สนุกสนานกับกิจกรรมคลายร้อนสำหรับทุกคนในครอบครัว

กรุงเทพฯ 20 เมษายน 2566 – Ice Magic: Fantasy on Ice ดินแดนหิมะจำลองและน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว ด้วยการเปลี่ยนพื้นที่ 3,000 ตารางเมตรของ The Market Bangkok ให้กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยหิมะหลากหลายโซนพร้อมกิจกรรมมากมายสําหรับทุกคนครอบครัว  ได้คลายร้อนและเพิ่มความสดชื่น
Apollo Entertainment Media (อพอลโล เอ็นเตอร์เทนเมนท์ มีเดีย)
ผู้จัดงานอิเวนต์และนิทรรศการชั้นนำระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เชิญชวนทุกคนร่วมเข้าชมและสัมผัสประสบการณ์อุณหภูมิติดลบต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียส ในงาน Ice Magic: Fantasy on Ice ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนถึง 16 กรกฎาคม 2566 ณ ห้างสรรพสินค้า The Market Bangkok โดยจะมีเครื่องเล่นให้ได้ร่วมสนุกสนาน อีกทั้งมีมุมถ่ายภาพสวย ๆ กับบรรยากาศหนาวเย็นอย่างจุใจ เหมาะสําหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้นและอยากลองประสบการณ์แปลกใหม่

“ทีมงาน Apollo Entertainment Media รู้สึกตื่นเต้นที่ได้นําความมหัศจรรย์ของฤดูหนาวมาสู่เมืองร้อนในแถบตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทีมงาน Ice Magic: Fantasy on Ice ทํางานกันอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนดินแดนแห่งฤดูหนาวใจกลางเมืองนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เห็นทุกคนเพลิดเพลินไปกับหิมะจำลองและน้ำแข็งที่ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างปราณีต ให้คุณได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่คุณรัก” นายวินเซนต์ กัว ประธานและผู้ก่อตั้ง Apollo Entertainment Media กล่าว


Ice Magic: Fantasy on Ice แบ่งออกเป็นสองโซนหลัก
ได้แก่

  • โซนหิมะ เนรมิตหิมะจำลองโดยเทคโนโลยีเครื่องจักรที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งเป็นนวัตกรรมเดียวกับที่ใช้ในงานโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2565 ที่ประเทศจีน ซึ่งจะมอบประสบการณ์การสัมผัสหิมะที่แท้จริง โดยหิมะจําลองนั้นจะสะอาดกว่าหิมะตามธรรมชาติที่พบในประเทศที่หนาวเย็น ทําให้ผู้เข้าชมสนุกกับการปั้นมนุษย์หิมะด้วยหิมะที่สร้างขึ้นใหม่ทุกวัน โซนหิมะยังมีลานสกียาวถึง 80 เมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในลานสกีที่ยาวที่สุดและสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย เหมาะสําหรับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด
  • โซนน้ำแข็ง ผู้เข้าชมจะได้พบกับลานน้ำแข็งขนาด 300 ตารางเมตร เครื่องเล่นม้าหมุน และเลนสไลเดอร์ที่ทำจากน้ำแข็งสองเลนซึ่งมีความยาวรวม 148 เมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในสไลเดอร์น้ำแข็งในร่มที่ยาวที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังตกแต่งด้วยประติมากรรมน้ำแข็งที่สร้างขึ้นโดยช่างแกะสลักน้ำแข็งระดับปรมาจารย์จากเมืองฮาร์บิน ประเทศจีน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลน้ำแข็งฮาร์บินที่มีชื่อเสียงทําให้ผู้เข้าชมมีโอกาสถ่ายภาพสุดพิเศษนี้ได้ในงานเราได้

ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่ Ice Magic: Fantasy on Ice จัดขึ้นที่กรุงเทพฯนี้ จะมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะมาสร้างความตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหิมะและทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว การท้าทายความหนาวเย็นในอุณหภูมิหนาวสุดขั้ว การทานหม้อไฟหม่าล่าท่ามกลางอากาศติดลบ ซึ่งคุ้มค่ากับการมางานนี้มากกว่าหนึ่งครั้ง

นายอธึก ประเสนมูล ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว กล่าวถึง Ice Magic: Fantasy on Ice ว่าไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่น่าตื่นเต้นเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความแปลกใหม่ในด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย

“Ice Magic: Fantasy on Ice เป็นการแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ผมรู้สึกตื่นเต้นที่งานนี้มาเยือนประเทศไทย ผมคิดว่ามันจะมอบประสบการณ์ฤดูหนาวที่น่าจดจําให้กับทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม ผมเชื่อว่างานนี้ไม่เพียงแต่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก แต่ยังส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วยกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นอย่าง Ice Magic อีกด้วย”

นายติง อังคสิทธิ์ ประชาสัมพันธ์สมาคมกีฬาสกีและสโนบอร์ดแห่งประเทศไทย กล่าวว่างานนี้สนับสนุนให้กีฬาฤดูหนาวในประเทศไทยเติบโตมากยิ่งขึ้น

“ผมรู้สึกยินดีมากที่ได้เห็นงานอย่าง Ice Magic: Fantasy on Ice มาถึงกรุงเทพฯ การใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อสร้างดินแดนฤดูหนาวในใจกลางเมืองนั้นเป็นสิ่งที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง งานนี้ไม่เพียงแต่มอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครสําหรับผู้เข้าชม แต่ยังเป็นการส่งเสริมความสนุกสนานของกีฬาฤดูหนาวและกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับคนไทยอีกด้วย ผมตื่นเต้นที่ได้มีส่วนร่วมในงานนี้ และหวังว่าจะได้เห็นความสนใจและการมีส่วนร่วมในกีฬาฤดูหนาวในภูมิภาคนี้มากขึ้น"

เกี่ยวกับ Ice Magic: Fantasy on Ice

Ice Magic: Fantasy on Ice เป็นดินแดนหิมะจําลองแบบป๊อปอัพที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย ท่ามกลางอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์องศาเซลเซียส โดยพื้นที่จัดงานมีทั้งโซนหิมะและโซนน้ำแข็ง มีกิจกรรมมากมายตั้งแต่ความสนุกสนานในครอบครัวไปจนถึงกิจกรรมสุดท้าทาย


   

Share:

GO Go Go......365มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน

ททท. เปิดตัวแล้ว ! โครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน 

ชวนคนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวตามปฏิทินการท่องเที่ยวไทย ที่รวบรวมทุกแหล่งท่องเที่ยวและเทศกาลต่าง ๆ ในไทยมารวมไว้ที่เดียว พร้อมด้วยระบบแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่ทันสมัย ช่วยในการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวและดีลว้าว ๆ ที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ ตรงใจทุกไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยว ทำให้การท่องเที่ยวของคุณพิเศษขึ้นไปอีกขั้น

นอกจากนี้ ททท. ยังจัดเต็มกับ 2 กิจกรรมสุดว้าว ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก ไม่ว่าจะเป็น 

กิจกรรมรับสมัคร “นักท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” ที่เปิดโอกาสนักท่องเที่ยวทุกท่านได้ร่วมงานกับททท. ในการออกเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทย พร้อมจัดทำคอนเทนต์ท่องเที่ยว และรับเงินสนับสนุนการท่องเที่ยวเดือนละกว่าแสนบาท! 

สมัครได้ตั้งแต่ วันนี้ – 14 พฤษภาคม 2566 นี้เท่านั้น

และกิจกรรม “ขุมทรัพย์ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย” น้องสุขใจ จัดใหญ่ ทุ่มไม่อั้น แจกของรางวัลมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท! 

ร่วมสนุกได้ตลอดทั้ง เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2566 นี้เท่านั้นนะ 

#365วันมหัศจรรย์เมืองไทย #ททท #AmazingThailand
#365มหัศจรรย์เมืองไทยเที่ยวได้ทุกวัน
#นักท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก