NSL Foods ชูวิสัยทัศน์ หัวใจของความสุขอยู่ที่ความอร่อย จัดทัพสินค้าร่วมงาน Thaifex – Anuga Asia 2025 พบนวัตกรรมเบเกอรี่ และขนมหวาน พร้อมปักธงส่งออก ย้ำ Soft Power Thai สู่ตลาดโลก

บริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมส่งมอบประสบการณ์แห่งความสุขผ่านนวัตกรรม เพื่อมอบโอกาสแห่งความสำเร็จให้แก่ลูกค้า ทั้งในและต่างประเทศ NSL พร้อมจัดทัพสินค้า มากกว่า 300 รายการ ด้วยประสบการณ์ในการผลิตกว่า 22 ปี และมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการรับรองในระดับสากล

THAIFEX - Anuga Asia 2025 พบกับบูธแสดงสินค้า NSL ภายใต้แนวคิด Happier Together…สุขด้วยกันสุขยิ่งขึ้น! เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง 22 ปี แห่งความผูกพัน ที่ NSL ผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยที่รับจ้างผลิตสินค้าให้แก่ 7-Eleven โดยมีสินค้าเรือธง คือ แซนด์วิชอบร้อน ที่ครองใจคนไทยและชาวต่างชาติ ด้วยยอดขายตลอดสองทศวรรษกว่า 140 ล้านชิ้น การันตีถึงการผนึกกำลังการเติบโตของคู่ค้าคู่ธุรกิจที่ยาวนานในการร่วมพัฒนานวัตกรรมสินค้าอย่างต่อเนื่อง เป็นสินค้ากลุ่ม Exclusive for 7-Eleven ซึ่งได้จัดแสดงอยู่ในโซน Heart Crafted OEM & Exclusive Products for 7-Eleven ที่ตอกย้ำความสัมพันธ์แทนคำขอบคุณที่ร่วมพัฒนาธุรกิจเติบโตร่วมกัน กว่า 22 ปี

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดแสดงโชว์สินค้า ทั้งขายในประเทศและส่งออกภายใต้แบรนด์ของ NSL อาทิ NSL Selection, NSL Bakery, ปังไท และข้าวแท่ง โดยล่าสุด นวัตกรรมข้าวแท่ง ได้รับรางวัลระดับประเทศถึง 2 รางวัล ได้แก่ รองชนะเลิศอันดับ 1 รางวัลสุดยอดนวัตกรรม ประจำปี 2024 ด้านเศรษฐกิจ จากโครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ Thailand Synergy เพื่อ SMEs ไทย 7 Innovation Awards 2024 และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 นวัตกรรมข้าวไทยปี 2567 ประเภทกลุ่มอุตสาหกรรม จากการประกวดนวัตกรรมข้าวไทย จัดโดยมูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จัดแสดงอยู่ที่โซน NSL Hall of Fame

พร้อมกันนี้ ยังร่วมแสดงความยินดีกับ “Custard Filled Pumpkin” ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน TOP Innovative Products of 2025 และได้รับการจัดแสดงในงาน THAIFEX – Anuga Taste Innovation Show ณ IMPACT Exhibition Center Hall 6

NSL ตอกย้ำวัฒนธรรมองค์กร Happiness – Caring – Innovation ส่งมอบคุณค่า ความสุข ความห่วงใยและนวัตกรรม ด้วยมาตรฐานการผลิตระดับสากล ได้แก่ GHP, HACCP, FSSC 22000, ISO 9001:2015, ISO 22000 และ Halal อีกทั้งยังให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืน โดยล่าสุดได้รับ ESG Emerging List ปี 2567 โดยสถาบันไทยพัฒน์ สู่การเป็นผู้ผลิตเบเกอรี่และขนมที่ยั่งยืน

ล่าสุด NSL ปักธงแผนที่โลก พร้อมชู Thailand Soft Power ด้วยนวัตกรรมขนมหวานไทย เครื่องดื่มจากวัตถุดิบไทย ข้าวแท่ง สู่ห้างค้าปลีกกว่า 15 ประเทศทั่วโลก ภายใต้การดำเนินงานของ NSL Intertrade (2023) Co., Ltd.

เปิดตัวครั้งแรกกับ NSL x Bake a Wish HoReCA! เดินหน้าต่อยอดธุรกิจให้แก่ลูกค้าที่หลงใหลในเบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่นสูตรจากเมืองโกเบ ที่ Bake a Wish มีประสบการณ์กว่า 17 ปี ประสบความสำเร็จในการเปิดสาขาศูนย์การค้าชั้นนำกว่า 60 สาขาทั่วประเทศ โดยล่าสุดได้พัฒนานวัตกรรมสินค้า เค้กและเบเกอรี่แช่แข็งและวัตถุดิบต่าง ๆ พร้อมนำไปปรุงอบสดใหม่ ให้แก่ผู้ประกอบการได้นำไปต่อยอดเมนูโปรดของร้านได้ด้วยตนเอง ช่วยเพิ่มยอดขายและยังมีโอกาสทางธุรกิจต่าง ๆ มากมายที่บูธ NSL อาทิ ตัวแทนจำหน่ายข้าวแท่ง ธุรกิจจัด Catering อาหารเบรก พร้อมให้ผู้ประกอบการได้นำไปเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริมด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 7,500 บาท

NSL ปิดท้ายความสุขล้น ๆ กับโซน Happy Balloon Lounge โชว์สาธิตการทำขนมแสนอร่อย รังสรรค์พิเศษจากเชฟบีม ภวินวัชร์ โชคเศรษฐปวินท์ แชมป์ Top Chef ขนมหวานคนแรกของไทย จากรายการ Top Chef Thailand และเชฟฮูโต๋ เชฏฐ์ภูชิชย์ ซูลเบิกร์ค เถกิงศักดิ์ Top Chef Thailand และ Team Chef TV program

ด้วยวัตถุดิบสุดพิเศษจากผลิตภัณฑ์ของ NSL เพื่อพร้อมต่อยอดวัตถุดิบไทย ผู้ผลิตไทย สู่เวทีโลก

“หัวใจของความสุขอยู่ที่ความอร่อย ผู้นำนวัตกรรมอาหารสู่ผู้บริโภคทั่วโลก” — NSL The Happy Taste Creator

พบกันที่บูธ NSL Foods ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 บูธ 2-BB01

#NSLHappierTogether

#NSLFoods   

#THAIFEXAnugaAsia2025 

#THAIFEX2025

Share:

Taiwan Excellence โชว์โซลูชั่นระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ ปลดล็อคศักยภาพอุตสาหกรรมไทย ในงาน Manufacturing Expo 2025

 

กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย — Taiwan Excellence ยกขบวนนวัตกรรมโซลูชันระบบอัตโนมัติอัจฉริยะเพื่อความยั่งยืนมามากกว่า 16 รายการ จาก 12 บริษัทที่ได้รับรางวัลTaiwan Excellence มาที่งาน Manufacturing Expo 2025 วันที่ 18 - 21  มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 18.00 น. ที่บูธ 8F11 ฮอลล์ 98 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา 

โดย Taiwan Excellence Pavilion นำเสนอแนวคิด "Green Vision, Smart Manufacturing" ผ่านดีไซน์สวยงาม สะท้อนถึงสายการผลิตอัจฉริยะขั้นสูงและเทคโนโลยีอุตสาหกรรมของไต้หวัน ด้วยโครงสร้างแบบสมมาตรที่สร้างขึ้นจากวัสดุรีไซเคิลและเป็นมิตรต่อสิงแวดล้อม สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีของไต้หวันในการปรับปรุงและขับเคลื่อนโรงงานให้ทันสมัย มุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน พร้อมช่องทางเพื่อสำรวจโลกแห่งระบบอัตโนมัติและระบบสนับสนุนการผลิตชั้นนำ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของไต้หวันต่อไป

นอกจากสินค้าที่จัดแสดงภายในพาวิลเลียนแล้ว ในช่วงบ่ายวันที่ 18 มิถุนายน 2568 Taiwan Excellence จะมีการจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ชั้นยอด ตัวแทนความมุ่งมั่นทุ่มเทของไต้หวันในการพัฒนาเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรมเพื่อการผลิตที่มีคุณภาพและนำไปสู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์การยกระดับไปสู่การผลิตอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เพื่อการทำงานที่แม่นยำและยังเสริมศักยภาพการผลิตแบบทวีคูณ พร้อมเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยบนเวทีโลก อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและภาคการผลิตผ่านความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำจากไต้หวันที่มาร่วมงานในครั้งนี้ได้อีกด้วย

พบกับไฮไลท์สำคัญที่ Taiwan Excellence Pavilion ได้แก่

TM5 หุ่นยนต์โคบอทอุตสาหกรรมตัวแรกของโลกที่มี Built-in Vision ในตัวจากบริษัท TECHMAN ROBOT 

น้ำมันหล่อลื่นงานตัดกลึงโลหะ ไร้สารพิษที่ผลิตด้วยแนวคิด Bio-Concept จากบริษัท MECOM INDUSTRIES CORP.

META-aivi โซลูชันการอนุมาน AI แบบสวม พร้อมทำทุกงานบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลการผลิตด้วยระบบอัตโนมัติ หมดห่วงเรื่องทำงานร่วมกันจากระยะไกลจากบริษัท SOLOMON

นวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ระบบอัตโนมัติอื่นๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง AI และ IoTs จาก 12 บริษัทชั้นนำอย่าง KEEJAAN, HIWIN, FATEK, AAEON, PLANET, APLEX, ALASKA, KSS และ Swan Air Compressor ซึ่งได้ยกขบวนผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงใน Taiwan Excellence Pavilion 

งานนี้ตอบโจทย์การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมการผลิตในทุกด้าน ร่วมเปิดประสบการณ์กับหนทางใหม่สู่วิถีแห่งความยั่งยืน เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการผลิตของคุณไปอีกขั้น พร้อมพบปะพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของไต้หวันใน Taiwan Excellence Pavilion ที่งาน Manufacturing Expo 2025 เท่านั้น

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานแถลงข่าวสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย 

เกี่ยวกับ Taiwan Excellence :

Taiwan Excellence หรือ “ผลิตภัณฑ์ดีเด่นจากไต้หวัน” ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2536  โดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน (MOEA)  เพื่อยกย่องและเฉลิมฉลองความสำเร็จอันโดดเด่นของบริษัทที่มีนวัตกรรมล้ำสมัยที่สุดของไต้หวันในแต่ละปี ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์นั้นจะต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกอันเข้มงวด ซึ่งประเมินผลิตภัณฑ์โดยพิจารณาจากปัจจัยสำคัญ 4 ประการ ได้แก่ การวิจัยและพัฒนา การออกแบบ คุณภาพ และการตลาด โดยมีเกณฑ์สำคัญคือ จะต้องผลิตในไต้หวันเท่านั้น

เครื่องหมาย Taiwan Excellence ได้รับการยอมรับทั่วโลกว่าเป็นสัญลักษณ์อันทรงเกียรติด้านคุณภาพและการออกแบบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่น่าประทับใจของไต้หวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ https://www.taiwanexcellence.org/en

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Taiwan Excellence กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ ได้ที่:
https://www.taiwanexcellence.org/en
ติดตามข่าวสารและรายละเอียดล่าสุดโดยติดตามเพจ Facebook ของ Taiwan Excellence TH ได้ที่: 
https://www.facebook.com/TaiwanExcellence.TH

Share:

“นงชิม” แบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียมสัญชาติเกาหลี ยกทัพความอร่อยบุกงาน THAIFEX 2025 มอบประสบการณ์ความอร่อยระดับตำนาน เปิดตัวรสชาติใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟในบูธ Honest Trading

 

นงชิม (Nongshim) แบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูประดับพรีเมียมอันดับ 1 จากเกาหลีใต้ พร้อมมอบประสบการณ์ความอร่อยรูปแบบใหม่ให้แฟนรามยอนชาวไทยในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 ด้วยการเปิดตัว SHIN Ramyun Toomba 

(ชินรามยอน ทูมบ้า) เมนูใหม่ล่าสุดที่ผสานความนัวละมุนของครีมและชีสตัดกับรสเผ็ดนิดๆ ได้อย่างลงตัว ภายในบูธ Honest Trading ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพจากเกาหลี ที่ยกทัพอีก 3 แบรนด์ดังอย่าง Orion, Sooin Sauce และ Khee Soju มาร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์ พร้อมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟตลอดทั้งวัน

เมื่อพูดถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูประดับพรีเมียมที่ครองใจคนทั่วโลก ชื่อของ Nongshim คือแบรนด์อันดับ 1 จากเกาหลีใต้

ที่ไม่อาจมองข้าม ด้วยประสบการณ์กว่า 50 ปีในวงการ Nongshim โดดเด่นด้วยเส้นเหนียวนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์ และสูตรซุปรสชาติเข้มข้นที่คิดค้นอย่างพิถีพิถัน หนึ่งในเมนูขึ้นชื่ออย่าง SHIN Ramyun หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “ซองแดง” กลายเป็นสัญลักษณ์ของรามยอนต้นตำรับที่ครองใจผู้บริโภคทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย

คุณควอน มินซ็อก ผู้จัดการขายฝ่ายต่างประเทศ บริษัท นงชิม กรุ๊ป กล่าวว่า “เราสังเกตว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยในช่วงหลังเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติแปลกใหม่และมีคุณภาพมากกว่าการเป็นเพียงอาหารสำเร็จรูป ผู้คนให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในการบริโภค รวมถึงความเป็นเอกลักษณ์ของวัตถุดิบและวัฒนธรรมต้นทางมากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญของแบรนด์ต่างประเทศอย่าง Nongshim ที่จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคุณภาพระดับพรีเมียม”

โดยตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในประเทศไทยยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยมูลค่าตลาดรวมกว่า 20,000 ล้านบาท และอัตราการบริโภคเฉลี่ยมากถึง 54 ซองต่อคนต่อปี ส่งผลให้ประเทศไทยติดอันดับ 9 ของโลกในด้านการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปัจจัยเหล่านี้สะท้อนถึงความนิยมในผลิตภัณฑ์ประเภทนี้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาทางเลือกที่สะดวก อร่อย และมีคุณภาพ ซึ่งกลายเป็นโอกาสสำคัญที่แบรนด์ต่างประเทศสามารถเข้ามาขยายฐานผู้บริโภค

ได้อย่างมั่นคง Nongshim จึงเดินหน้ากลยุทธ์การตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีรสชาติหลากหลาย คุณภาพระดับพรีเมียม และสะท้อนความเป็นต้นตำรับเกาหลี พร้อมใช้กลยุทธ์การสื่อสารแบรนด์ การทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย และการเปิดตัวสินค้าใหม่เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภคไทยอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 นี้ บริษัทตั้งเป้า

ที่จะเติบโตอย่างมั่นคงในตลาดไทย พร้อมเสริมสร้างการรับรู้แบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาประสบการณ์ใหม่ในการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  

คุณควอน มินซ็อก กล่าวอีกว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบูธ Honest Trading ในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 ซึ่งถือเป็นเวทีสำคัญในการพบปะผู้บริโภคและพันธมิตรธุรกิจในไทยอย่างใกล้ชิด ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดหลักของ Nongshim ที่มีฐานผู้บริโภคเหนียวแน่น และมีความชื่นชอบในรสชาติต้นตำรับของแบรนด์เราเป็นอย่างมาก ปีนี้เราจึงได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดอย่าง SHIN Ramyun Toomba (ชินรามยอน ทูมบ้า) ที่ผสานความนัวของครีมและชีส ตัดกับรสเผ็ดนิดๆ ได้อย่างลงตัว มาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน พร้อมไลน์สินค้าขายดีอื่น ๆ อย่าง SHIN Ramyun Noodle Soup (ชินรามยอน นู้ดเดิ้ลซุป), Jay Fai SHIN Ramyun Stir Fry Tom Yum Flavour (ชินรามยอน เจ๊ไฝ ต้มยำแห้ง), Spicy Chapagetti (สไปซี่ ชาปาเก็ตตี้) และ SHIN Ramyun Stir Fry Cheese (ชินรามยอน สเทอร์ไฟร์ รสชีส) ที่จะมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภคชาวไทย”

ปัจจุบัน Nongshim มีการจัดจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก รวมถึงมีศูนย์จัดจำหน่ายและโรงงานผลิตในหลากหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น จีน และเวียดนาม ความสำเร็จในการขยายธุรกิจในระดับนานาชาตินี้ สะท้อนถึงศักยภาพในการปรับกลยุทธ์ให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเสริมความแข็งแกร่งให้ Nongshim เป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

ด้าน คุณเจสลีน ซูอิน คิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออนเนสท์ เทรดดิ้ง กล่าวว่า “Honest Trading เป็นบริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพจากเกาหลีใต้ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2560 โดยมีเป้าหมายในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดจากเกาหลี สู่ผู้บริโภคไทย ผ่านการคัดเลือกพันธมิตรแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ คุณภาพสูง และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้นำ 4 แบรนด์ชั้นนำจากเกาหลีมาร่วมจัดแสดงในงาน THAIFEX ปีนี้ ได้แก่ Nongshim บะหมี่กึ่งสำเร็จรูประดับตำนาน ที่คนทั่วโลกรู้จัก, Orion ผู้ผลิตขนมเจ้าตำนานอย่างช็อกโกพาย, Sooin Sauce ผู้เชี่ยวชาญด้านซอสอาหารเกาหลีที่ตอบโจทย์ คนทำอาหารที่บ้าน และ Khee Soju แบรนด์โซจูพรีเมียมที่โดดเด่นด้วยกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม เราเชื่อว่าการรวมตัวของแบรนด์เหล่านี้ในบูธเดียวกันจะช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้เข้าชมให้ได้สัมผัสวัฒนธรรมเกาหลีผ่านรสชาติอย่างแท้จริง”

 Honest Trading มีพันธกิจมุ่งให้บริการลูกค้าด้วยโซลูชันด้านการค้าระหว่างประเทศและโลจิสติกส์ที่ทันสมัย 

โดยตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลลูกค้าเป็นหลัก และยึดมั่นในมาตรฐานการให้บริการที่สูงสุดแก่ลูกค้า พร้อมปฏิบัติต่อลูกค้าด้วยความซื่อสัตย์และให้ความเคารพอย่างแท้จริง โดยมี Business Core Value ดังต่อไปนี้

 - สินค้า Honest trading ผ่านการรับรองคุณภาพ นำเข้าจากประเทศเกาหลี

 - Honest trading มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและความหลงใหลในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

- Honest trading ได้มีการดำเนินการจัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ อย. และเอกสารที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดต่าง ๆ ภายในบริษัท

 - Honest trading มีความได้เปรียบในการจัดหาสินค้า การกระจายสินค้า และการตั้งราคา

 - Honest trading มีนโยบายปรับกระบวนการผลิตและกำหนดราคาให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด

โดยภายในบูธ Honest Trading ในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 มีกิจกรรมสุดพิเศษจัดขึ้นตลอดทั้งวัน ได้แก่

การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจาก Nongshim อย่าง SHIN Ramyun Toomba (ชินรามยอน ทูมบ้า) ให้ชิมเป็นที่แรกในไทย ที่นำเสนอความนุ่มละมุนของครีมและชีสตัดกับรสเผ็ดนิดๆ ได้อย่างลงตัว พร้อมเปิดให้ผู้เข้าชมได้ลองชิมรามยอนรสชาติยอดนิยมอย่าง อย่าง SHIN Ramyun Noodle Soup (ชินรามยอน นู้ดเดิ้ลซุป), Jay Fai SHIN Ramyun Stir Fry Tom Yum Flavour (ชินรามยอน เจ๊ไฝ ต้มยำแห้ง), Spicy Chapagetti (สไปซี่ ชาปาเก็ตตี้) และ SHIN Ramyun Stir Fry Cheese (ชินรามยอน สเทอร์ไฟร์ รสชีส) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งสีสันสำคัญของบูธในปีนี้

จากนั้นชมการสาธิตการปรุงอาหารโดยเชฟชาวเกาหลี 2 ท่าน ที่รังสรรค์เมนูต้นตำรับด้วยซอสทั้ง 4 ชนิดจาก Sooin Sauce ได้แก่ ซูอิน โคเรียน ออล โพโพส ฮอต ซอส (ซอสเกาหลีสำหรับผัด), ซูอิน โคเรียน ชับแช ซอส (ซอสสำหรับเมนูเส้น), ซูอิน โคเรียน ต๊อกโบกี ซอส (ซอสสำหรับต๊อกโบกี) และซูอิน โคเรียน สไปซี่ พุลโกกิ ซอส (ซอสปรุงรส รสเผ็ด) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหารเกาหลีทานเองที่บ้าน 

ต่อด้วยการนำเสนอขนมสุดฮิตจาก Orion ทั้ง Choco Pie, Kobuk Chips และขนมอื่น ๆ ที่คนไทยคุ้นเคยและรักในรสชาติ  

ปิดท้ายด้วยไฮไลต์จาก Khee Soju ที่มีการโชว์การผสมเครื่องดื่มโดยบาร์เทนเดอร์ชาวเกาหลี พร้อมให้ผู้ร่วมงาน

ได้ทดลองชิมโซจูระดับพรีเมียมทั้งแบบ 22% และ 38% รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างน้ำหอมรับประทานได้ที่เรียกความสนใจจากผู้ร่วมงานได้อย่างล้นหลาม

พบกับ นงชิม และแบรนด์ดังจากเกาหลีอีกมากมายได้ที่ บูธ Honest Trading Hall 10, Booth MM15  

ในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 ณ อาคาร Challenger Impact เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 27 – 31 พฤษภาคม 2568 

Share:

HKTDC เปิดตัว “ฮ่องกง พาวิลเลียน” ในงาน THAIFEX – Anuga Asia ส่งเสริมแบรนด์อาหารและเครื่องดื่ม พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจ

27 พฤษภาคม 2568 – องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) เปิดตัว “ฮ่องกง พาวิลเลียน” อย่างเป็นทางการในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ

พาวิลเลียนนี้ นำเสนอศักยภาพของภาคอาหารและเครื่องดื่มของฮ่องกง พร้อมสนับสนุนธุรกิจจากฮ่องกงในการขยายตลาดและจับโอกาสทางธุรกิจและความร่วมมือในภูมิภาคอาเซียน

ภายในพาวิลเลียน ประกอบด้วยผู้ประกอบการจากฮ่องกง 17 ราย ซึ่งเป็นตัวแทนของแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มชื่อดังมากกว่า 20 แบรนด์ มอบประสบการณ์รสชาติเอกลักษณ์ของฮ่องกงให้แก่ผู้เข้าชม พร้อมเพิ่มการรับรู้แบรนด์ในภูมิภาคที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการเติบโตนี้

“ตลาดอาหารและเครื่องดื่มในเอเชียกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง งาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 จึงเป็นเวทีสำคัญในการส่งเสริมการมองเห็นของแบรนด์ฮ่องกงในภูมิภาคนี้ ‘ฮ่องกง พาวิลเลียน’ เป็นเวทีระดับนานาชาติที่ช่วยให้ผู้ประกอบการขยายการรับรู้แบรนด์ ขยายตลาดในระดับภูมิภาค และตอกย้ำสถานะของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรม คุณภาพ และความเป็นเลิศทางการค้าในระดับโลก” นาย โรนัลด์ โฮ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ ของ HKTDC กล่าว

ฮ่องกงเป็นที่รู้จักด้านความเป็นเลิศด้านอาหาร โดยในพาวิลเลียนครั้งนี้ ผสมผสานความดั้งเดิมกับความทันสมัยไว้อย่างลงตัว หนึ่งในไฮไลท์แบบดั้งเดิมคือชุดเค้กจีน 3 รส และเค้กอัลมอนด์จากร้าน Hang Heung Cake Shop ซึ่งเป็นร้านเบเกอรี่เก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี เสริมด้วยชาแบบดริปสไตล์ศาลาอาหารฮ่องกง (Cha Chaan Teng) จาก Hiang Kie Coffee Group ซึ่งโดดเด่นด้วยกลิ่นหอมและรสชาตินุ่มละมุนของชาเซลอน

สะท้อนวัฒนธรรมอาหารอันหลากหลายและทันสมัยของเมือง พาวิลเลียนยังจัดแสดงเมนูท้องถิ่นร่วมสมัยที่ได้รับความนิยม เช่น โรลไข่เนยและขนมไข่อัลมอนด์จาก Ka Vo Food International ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องเนื้อสัมผัสที่ละเอียดและกลิ่นหอมเฉพาะตัว รวมถึงบะหมี่ไข่โรยกุ้งแห้งจาก Fung Lung Trading ซึ่งเป็นรสชาติคลาสสิกของฮ่องกง ซอสไก่และเห็ดจาก Realfit CHK ที่สะดวกต่อการปรุงอาหารจานด่วน เช่น พาสต้าและซุป ขณะที่ลูกบอลพลังงานถั่วเหลืองโปรตีนสูงจาก Tapas G. Catering ก็สอดรับกับความต้องการอาหารว่างเพื่อสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ผู้เข้าชมยังสามารถสำรวจแบรนด์ดั้งเดิมอย่าง On Kee และ Wai Yuen Tong รวมถึง Cookies Quartet แบรนด์คุกกี้ที่ได้รับรางวัลจากเวที Superior Taste Award 2024 พร้อมทั้งแบรนด์ดาวรุ่งในวงการอาหารและเครื่องดื่มอย่าง Hiu Cha, Yunpufa, Lion & Globe Brand, M.X. Cuisine, Tien Chu และ Yummy House ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลาย ตั้งแต่ชุดน้ำชา น้ำมันปรุงอาหาร เครื่องปรุงรส ซอส และอื่น ๆ อีกมากมาย

กิจกรรมจับคู่ธุรกิจจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการจากฮ่องกงและไทย โดยมีไฮไลท์เป็นงานเสวนาและสร้างเครือข่ายในหัวข้อ “Dim Sum Meets Tom Yum” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 28 พฤษภาคม ณ ห้อง Amber 1 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงาน ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารจากฮ่องกงและไทยจะร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองด้านกลยุทธ์การตลาดและโอกาสใหม่ ๆ ในธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจตลอดช่วงงานแสดงสินค้า เพื่อให้ผู้แสดงสินค้าได้เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม แลกเปลี่ยนข้อมูลตลาด และเปิดประตูสู่ความร่วมมือระหว่างประเทศ

“งาน THAIFEX – Anuga Asia เป็นโอกาสอันดีเยี่ยมในการเปิดตลาดใหม่และเพิ่มการรับรู้ระดับนานาชาติให้กับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของฮ่องกง” นาย คีธ ชาน รองประธานสมาคม Hong Kong Smart Catering Association กล่าว “เราภูมิใจที่มีสมาชิก 5 รายเข้าร่วมใน ‘ฮ่องกง พาวิลเลียน’ ภายใต้การนำของ HKTDC และขอสนับสนุนความพยายามของทางองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกงในการผลักดันแบรนด์ฮ่องกงสู่เวทีโลก พาวิลเลียนนี้ พร้อมกับกิจกรรมต่าง ๆ อย่างงานเสวนาและสร้างเครือข่าย ถือเป็นเวทีสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจ SMEs จากฮ่องกงได้ขยายการมองเห็นและสร้างพันธมิตรในตลาดไทยและอาเซียน”

ผู้เข้าชมยังสามารถร่วมสนุกกับการสาธิตผลิตภัณฑ์อาหารเด่นของฮ่องกงแบบสด ๆ พร้อมกิจกรรมวงล้อโชคดี “ติ่มซำสไตล์ฮ่องกง” เพื่อลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษ

THAIFEX- Anuga Asia 2025 – HKTDC ฮ่องกง พาวิลเลียน

วันที่: 27-31 พฤษภาคม 2025

เวลาเปิดงาน: 27-30 พฤษภาคม: 10.00 -18.00 น.

31 พฤษภาคม: 10.00 - 20.00 น.

สถานที่: 9-GG47 ฮอลล์ 9 อิมแพ็ค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ประเทศไทย

เว็บไซต์: https://thaifex-anuga.com/

งาน THAIFEX – Anuga Asia 2025 เปิดฉากวันนี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 – 31 พฤษภาคม 2568 องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) เปิดตัว “ฮ่องกง พาวิลเลียน” เป็นครั้งแรก พร้อมนำนักแสดงสินค้าจากฮ่องกง 17 ราย เข้าร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์จาก

แบรนด์พรีเมียมกว่า 20 แบรนด์ ครอบคลุมสินค้าหมวดขนมหวาน เบเกอรี่ ของชำ เครื่องปรุงรส ตลอดจนกาแฟและชาเฉพาะทาง

 ฮ่องกง พาวิลเลียน นำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารหลากหลายประเภทจากฮ่องกง ดึงดูดผู้เข้าชมจากทั่วโลกให้เข้ามาสัมผัสคุณภาพที่โดดเด่น พร้อมเปิดโอกาสในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจใหม่ ๆ

กิจกรรมวงล้อติ่มซำสไตล์ฮ่องกงแบบอินเทอร์แอคทีฟ เป็นไฮไลท์ที่สะท้อนวัฒนธรรมอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกง พร้อมมอบของรางวัลสุดพิเศษ ดึงดูดผู้เข้าชมให้เข้าร่วมอย่างคึกคัก

เกี่ยวกับ HKTDC

องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายตั้งแต่ปี 2509 เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาการค้าของฮ่องกง ปัจจุบันมีสำนักงานกว่า 50 แห่งทั่วโลก รวมถึง 13 แห่งในจีนแผ่นดินใหญ่ HKTDC ส่งเสริมบทบาทของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางการลงทุนและการค้าระดับโลก โดยจัดนิทรรศการ การประชุม และคณะผู้แทนทางธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสให้กับบริษัทต่างๆ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในตลาดจีนและต่างประเทศ ทั้งยังให้ข้อมูลตลาดล่าสุดและข้อมูลผลิตภัณฑ์ผ่านรายงานวิจัยและช่องทางดิจิทัล ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: www.hktdc.com/aboutus

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน THAIFEX – Anuga Asia: https://thaifex-anuga.com/


Share:

นายพิจักษณ์ เพชรสงค์ รับรางวัล “เพชรกนก”คนดีศรีแผ่นดิน สาขาเมตตาธรรม เชิดชูเกียรติผู้บำเพ็ญคุณูปการแก่สังคม

วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ณ หอประชุมสุนันทานุสรณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กรุงเทพมหานคร สมาคมผู้ผลิตรายการภาพและเสียง ได้จัดพิธีมอบรางวัล “เพชรกนก” และ “กนกนาคราช” ครั้งที่ 5 ประจำปีพุทธศักราช 2566–2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคล คนดีศรีแผ่นดินและองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ประกอบคุณงามความดี เสียสละ และบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง

ในปีนี้ คณะกรรมการของสมาคมฯ มีมตเป็นเอกฉันท์ มอบรางวัล “เพชรกนก” คนดีศรีแผ่นดินในสาขา “เมตตาธรรม” ให้แก่ นายพิจักษณ์ เพชรสงค์ เพื่อเชิดชูเกียรติในฐานะผู้ทุ่มเทเสียสละเพื่อส่วนรวม มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส สนับสนุนกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ และมีจิตสำนึกแห่งความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง

รางวัล “เพชรกนก” คนดีศรีแผ่นดินจัดขึ้นโดยสมาคมผู้ผลิตรายการภาพและเสียง ซึ่งเป็นองค์กรที่ส่งเสริมการผลิตสื่อคุณภาพควบคู่ไปกับการยกย่องบุคคลต้นแบบในสังคม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและขับเคลื่อนให้เกิดการทำความดีในวงกว้าง อันจะนำไปสู่การพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน

ในโอกาสนี้ สมาคมฯ ขอแสดงความยินดีกับนายพิจักษณ์ เพชรสงค์ อย่างสุดซึ้ง และขอขอบคุณที่เป็นแบบอย่างที่ดีในการดำรงชีวิตบนพื้นฐานของคุณธรรมและความเมตตาอย่างแท้จริง

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:

สมาคมผู้ผลิตรายการภาพและเสียง

โทรศัพท์: 095-416-4562

Share:

สจล. ร่วมขับเคลื่อนโครงการ “นวัตกรรมสื่อสร้างสรรค์ เพื่อการสื่อสารสังคมด้านคนพิการ 7 INSPIRATIONS (Phase 3)” ขับเคลื่อนสังคมแห่งโอกาส

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จัดงานแถลงข่าวเพื่อร่วมขับเคลื่อนโครงการ “นวัตกรรมสื่อสร้างสรรค์ เพื่อการสื่อสารสังคมด้านคนพิการ: 7 INSPIRATIONS (Phase 3)” ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนปีงบประมาณ 2568 จากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดขึ้น ณ หอประชุม ศ.ประสม รัง สิโรจน คณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สจล. 

นางณฐอร อินทร์ดีศรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ มีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในทุกด้าน การสร้างเจตคติเชิงบวกและการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจในสังคม ถือเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่ง โครงการ ‘7 INSPIRATIONS (เฟส 3)’ นี้ เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว โดยการนำเสนอเรื่องราวที่แท้จริงและสร้างแรงบันดาลใจจากผู้พิการโดยตรง และขอชื่นชมในวิสัยทัศน์และความตั้งใจของคณะทำงานของกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการร่วมกับทีมสจล. ที่ได้ริเริ่มและขับเคลื่อนโครงการนี้อย่างเต็มที่ 

การสร้างสรรค์ภาพยนตร์สั้นทั้ง 7 เรื่อง ที่สะท้อนถึงความหลากหลายของความพิการ ศักยภาพ และความมุ่งมั่นในการดำเนินชีวิต จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสร้างความเข้าใจและลดอคติในสังคม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากสังคม และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงโอกาสและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศได้อย่างเต็มภาคภูมิ

นางสาววิษฐิดา อุ้ยตยะกุล ผู้อำนวยการกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กล่าวถึงโครงการสื่อสร้างสรรค์เพื่อสร้างเจตคติด้านคนพิการของกองทุนฯ ว่า กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนโครงการ ‘7 INSPIRATIONS (เฟส 3)’ ซึ่งเป็นโครงการที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักของกองทุนฯ ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในทุกมิติ เราตระหนักดีว่า การสร้างเจตคติที่ถูกต้องและเป็นบวกต่อคนพิการในสังคม เป็นรากฐานสำคัญในการนำไปสู่การยอมรับ การให้โอกาส และการอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม สื่อสร้างสรรค์เป็นเครื่องมือที่มีพลังในการเข้าถึงผู้คนในวงกว้าง และสามารถสร้างความเข้าใจและเปลี่ยนแปลงทัศนคติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำเสนอเรื่องราวจากชีวิตจริงของผู้พิการ ซึ่งเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ ความเข้มแข็ง และศักยภาพที่น่าชื่นชม กองทุนฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภาพยนตร์สั้นทั้ง 7 เรื่อง จะเป็นสื่อกลางที่สำคัญในการสร้างความตระหนักรู้ ความเข้าใจ และการเห็นอกเห็นใจในสังคม
รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า สถาบันมีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมในทุกด้าน เพื่อเสริมพลังและอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตให้แก่ประชาชนทุกกลุ่ม รวมถึงการสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกับคนพิการ โดยที่ผ่านมา สจล. ได้พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือคนพิการในด้านต่าง ๆ ทั้งในเรื่องการเรียน การทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะโครงการ “7 Inspirations” ซึ่งเป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และการเปิดโอกาสให้แก่คนพิการอย่างเท่าเทียม ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากนี้ สจล. ยังมีแผนเตรียมเปิดโครงการจัดตั้ง “ศูนย์ดูแลนักศึกษาพิการ KDSS : KMITL Disabled Students Services and Support” เพื่อรองรับและสนับสนุนการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของนักศึกษาพิการให้มีคุณภาพ และเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของการเป็น “มหาวิทยาลัยของทุกคน” และมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต
รองศาสตราจารย์ ดร. สุรพงษ์ สิริพงศ์ดี คณบดีวิทยาลัยการจัดการนวัตกรรมและอุตสาหกรรม สจล. กล่าวถึงทิศทางการขับเคลื่อนสู่มหาวิทยาลัยเพื่อทุกคนว่า สถาบันตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างสังคมที่เปิดกว้างและเท่าเทียมสำหรับทุกคน ซึ่งการสนับสนุนโครงการ ‘7 INSPIRATIONS (เฟส 3)’ ในครั้งนี้ ถือเป็นการประยุกต์ใช้ศักยภาพด้านสื่อสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของการสื่อสารและสร้างความเข้าใจในสังคม เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมและโอกาสที่ครอบคลุมถึงทุกกลุ่มบุคคล สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของสถาบันที่มุ่งสู่ Smart University ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์สังคมที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีคุณค่าและศักดิ์ศรี และการจะบริหารองค์กรให้เกิดความความยั่งยืน ได้ยึดหลักนโยบาย 5 Global Indexes ได้แก่ Global Citizen, Global Innovation, Global Learning, Global Infrastructure และ Global Management โดยเน้นการศึกษาเชิงปฏิบัติ การพัฒนานวัตกรรม และเชื่อมโยงสู่เวทีนานาชาติ 

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว อาจารย์ประจำวิทยาลัยการจัดการนวัตกรรมและอุตสาหกรรม สจล. หัวหน้าโครงการ 7 INSPIRATIONS (เฟส 3) กล่าวว่า โครงการ ‘7 INSPIRATIONS (เฟส 3)’ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างสรรค์สื่อภาพยนตร์สั้น จำนวน 7 เรื่อง ที่ถ่ายทอดเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจจากตัวแทนคนพิการ 7 ประเภท ตลอดระยะเวลาการดำเนินงาน คณะทำงานของเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอเรื่องราวชีวิต ความสามารถ และศักยภาพของผู้พิการในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างความเข้าใจ เจตคติเชิงบวก และการยอมรับความแตกต่างหลากหลายในสังคม คนพิการต้นแบบทุกคน ผู้ดูแล ครอบครัว และที่ปรึกษาจากสมาคมคนพิการได้ให้ความร่วมมือในการเขียนโครงเรื่อง บท และการผลิตให้ได้เรื่องราวตอบโจทย์แนวทางการผลิตสื่อเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และพวกเราเชื่อมั่นว่าภาพยนตร์เหล่านี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมแห่งโอกาสอย่างแท้จริง”

“การคัดเลือกโลเคชั่นในการถ่ายทำ ยังได้เลือกใช้พื้นที่ของคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ และพื้นที่ส่วนกลางของ สจล. เนื่องจากมีการออกแบบตามแนวคิด Universal Design รองรับการเข้าถึงใช้งานของคนพิการ สอดรับกับการเป็นมหาวิทยาลัย พื้นที่การเรียนรู้ของคนทุกคน” ผศ.ดร.ทอแสงรัศมี กล่าวเพิ่มเติม 

โครงการ “7 INSPIRATIONS” มุ่งเน้นการสร้างภาพยนตร์สั้น 7 เรื่อง ความยาวไม่เกิน 30 นาทีต่อเรื่อง จากเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจของตัวแทนคนพิการ 7 ประเภท โดยบทละครทั้ง 7 เรื่องจะเน้นไปที่การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข การยอมรับตนเอง การเชื่อมั่นในความสามารถ และความสำเร็จที่เกิดจากความพยายาม เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยเฉพาะด้านการสร้างเจตคติเชิงบวกต่อคนพิการ เพื่อต่อยอดสู่การเสริมพลังและสร้างเครือข่ายการขับเคลื่อนงานด้านคนพิการในอนาคต ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดได้ผ่านการพิจารณาจากคณะที่ปรึกษาโครงการและคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแล้ว ได้แก่


เรื่องที่ 1 “มะปรางหวาน: The Miraculous Child”
นำเสนอเรื่องราวของ ด.ญ.สิปรางค์ นันเป้ง (น้องมะปราง) อายุ 13 ปี คนพิการต้นแบบจังหวัดสระบุรี ปี 2566 สะท้อนถึงพลังแห่งความรัก ความเข้าใจ และการทุ่มเทของครอบครัวที่สร้างสรรค์ชีวิตให้น้องมะปรางมีความสุข เข้มแข็ง และมีพรสวรรค์ในการร้องเพลงและรำไทย ที่ปรึกษา คือ คุณสุชาติ โอวาทวรรณสกุล นายกสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงแนวคิดสร้างแรงบันดาลใจของเรื่องว่า “การเลี้ยงดูบุตรหลานที่เป็นคนพิการด้านสติปัญญาเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ครอบครัวของน้องมะปรางได้ให้ข้อคิดว่า การมีน้องมะปรางกลับกลายเป็นการทำให้ทุกคนในครอบครัวพิเศษขึ้น และเป็นพลังใจให้กับครอบครัวอื่นๆ ให้ใช้วิธีคิดเชิงบวกและการสร้างความรักความเข้าใจเป็นพื้นฐานสำคัญ”

เรื่องที่ 2 “ฟ้าสีฟ้า : Blue Shades” ถ่ายทอดเรื่องราวของ คุณฟ้า เพียงฝัน นาคสุขไพบูลย์ คนพิการต้นแบบประเภทออทิสติก ผู้ประสบความสำเร็จในการศึกษาและได้รับทุนไปศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกด้านแพทยศาสตร์ที่สหราชอาณาจักร อีกทั้งยังมีความสามารถพิเศษด้านกีฬายิงธนู แนวคิดสร้างแรงบันดาลใจของเรื่อง เพื่อแสดงให้เห็นว่าแม้จะมีความแตกต่าง แต่ด้วยความมุ่งมั่น พยายาม และการไม่หยุดพัฒนาตนเอง ก็สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดและประสบความสำเร็จได้ โดยอาศัยความเข้าใจและโอกาสจากคนรอบข้างและสังคม

เรื่องที่ 3 สองล้อท้าโลก : My World is just out there! นำเสนอเรื่องราวของ คุณโสภณ ฉิมจินดา คนพิการทางการเคลื่อนไหว ผู้ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคหลังอุบัติเหตุ และยังคงเดินทางท่องเที่ยวด้วยวีลแชร์ พร้อมเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ แนวคิดสร้างแรงบันดาลใจของเรื่อง เพื่อชี้ให้เห็นว่าความพิการทางร่างกายไม่ใช่ข้อจำกัดในการทำตามความฝัน หากมีพลังใจที่เข้มแข็งและการปรับมุมมอง ก็สามารถใช้ชีวิตและยืนหยัดเพื่อตนเองและครอบครัวต่อไปได้

เรื่องที่ 4 “วิ่งหายเจ็บใจ : Run” ถ่ายทอดเรื่องราวของ คุณเอ-ปทุมมาศ จัดแจง คนพิการด้านจิตใจ ผู้ได้รับฉายาว่า น้างฟ้านักวิ่ง เจ้าของเพจ “วิ่งหายเจ็บใจ” ผู้ใช้การวิ่งเยียวยาจิตใจจากโรคซึมเศร้า และส่งต่อพลังใจให้กับผู้ที่กำลังเผชิญความทุกข์ แนวคิดสร้างแรงบันดาลใจของเรื่อง ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือจากคนรอบข้างและสังคมในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเยียวยาจิตใจ และการส่งพลังใจให้กันและกัน

เรื่องที่ 5 “ความทรงจำอันแสนสุข : HAPPY MEMORY” นำเสนอเรื่องราวของ คุณภูริวัจน์ อมรพีร (เบส) คนพิการด้านการเรียนรู้ ผู้ใช้ประสบการณ์ของตนเองช่วยเหลือกิจกรรมของสมาคม LD สะท้อนถึงความสำคัญของความเข้าใจ การเอาใจใส่ และเทคนิคการสอนที่เหมาะสมในการสนับสนุนผู้ที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ แนวคิดสร้างแรงบันดาลใจของเรื่อง ชี้ให้เห็นว่าด้วยความเข้าใจและการให้กำลังใจ ผู้พิการทางการเรียนรู้สามารถใช้ชีวิตและเรียนรู้ได้อย่างมีความสุข พร้อมดึงศักยภาพสู่ความสำเร็จได้

เรื่องที่ 6 “ครูคนิตย์ : The Teacher” ถ่ายทอดเรื่องราวของ ดร.คนิตย์ ผามะณี คนพิการด้านการมองเห็น นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ ผู้มุ่งมั่นในการสร้างสรรค์หลักสูตรและระบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับคนพิการ โดยมี คุณเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เป็นที่ปรึกษา แนวคิดสร้างแรงบันดาลใจของเรื่อง แสดงให้เห็นว่าแม้การมองเห็นจะสำคัญ แต่ใจที่เปิดกว้าง ไม่ย่อท้อ และมุ่งมั่น จะนำพาไปสู่ความสำเร็จและสร้างโลกที่เท่าเทียมสำหรับทุกคนได้

เรื่องที่ 7 “Be the One: คนนั้นคือฉันที่แสนภูมิใจ” นำเสนอเรื่องราวของ คุณทิว ณัฐพงษ์ งิ้วเหล็ก Mister Deaf Thailand 2017 ที่ได้ทำงานเหมือนคนทั่วไป สะท้อนถึงการได้รับโอกาสและการยอมรับจากสังคมที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนธรรมดาให้สามารถเดินตามความฝันและสร้างความภาคภูมิใจในตนเอง โดยมี คุณนับดาว องค์อภิชาติ ประธานชมรม Deaf Thai Rainbow Club (DTRC) เป็นที่ปรึกษา แนวคิดสร้างแรงบันดาลใจของเรื่อง เน้นย้ำว่าแม้ภาษาที่ใช้สื่อสารจะแตกต่าง แต่หากเปิดใจรับฟัง ก็ไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น และการได้รับโอกาสจากสังคมสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตและสร้างพลังในการใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

โครงการ “7 INSPIRATIONS (Phase 3)” ยังได้เลือกเพลงประกอบภาพยนตร์ มีมีบทเพลงและพลังสสร้างสรรค์สังคมให้กำลังใจ คือ เพลงรางวัลแด่คนช่างฝัน ประพันธ์คำร้องและทำนองโดยคุณจรัล มโนเพชร ซึ่งได้ขออนุญาตลิขสิทธิ์จากทายาทเรียบร้อย โดยได้รับเกียรติจากโปรดิวเซอร์ระดับตำนาน คือ อาจารย์ โสฬส ปุณกะบุตร เรียบเรียงดนตรีใหม่ โดยมีนักร้องกิตติมศักดิ์ ได้แก่ คุณจิ๋ว สกุณชัย เปลี่ยนรัมย์ หรือ จิ๋ว เดอะวอยส์ คุณเมนทอล-ทวีรัชต์ คำเสน หรือ เมนทอล บุษบา ,ร่วมกับ ด.ญ. อัยย์ ธรรมาริน, ด.ญ.ทอแสงระพี และ ด.ญ.ทอแสงสินี ถีถะแก้ว จากโรงเรียน SBS International Bangkok และบันทึกเสียงโดยวิทยาลัยวิศวกรรมสังคีต สจล.   

โครงการ “7 INSPIRATIONS (Phase 3)” ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ สจล. ในการใช้พลังของสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมความเข้าใจ เจตคติเชิงบวก และการยอมรับความหลากหลายในสังคม เพื่อขับเคลื่อนไปสู่สังคมที่เปิดกว้างและให้โอกาสแก่คนพิการอย่างแท้จริง

ติดตามรับชมภาพยนตร์สั้นทั้ง 7 เรื่องในโครงการได้ที่ 

YouTube: Inspirations. https://www.youtube.com/@Inspirationsmovie  

Facebook: Inspirations. https://www.facebook.com/Inspirationsmovies



Share:

ดีพร้อม เดินเครื่องดันอุตฯ เสื้อผ้าไทย ปูพรมอัพสกิลบุคลากรทุกมิติ พร้อมดึงอัตลักษณ์สร้างแบรนด์ไทยสู่สากล หนุนพลังซอฟต์พาวเวอร์แฟชั่นไทยสู่ศูนย์กลางภูมิภาค

กรุงเทพฯ 21 พฤษภาคม 2568 - กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) เดินเครื่องผลักดันอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยในสาขาเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มไทย ผ่าน “กิจกรรมการพัฒนาบุคลากรอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย” เร่งสร้างทักษะบุคลากรแฟชั่นครบวงจร เน้นดึงอัตลักษณ์ไทยสร้างคุณค่าให้มีเอกลักษณ์ทีร่วมสมัยและโดดเด่น พร้อมสร้างโอกาสและเชื่อมโยงธุรกิจแฟชั่นไทยสู่สากล หนุนพลังซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่ศูนย์กลางแฟชั่นของภูมิภาค ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 10% 

นางสาวนันท์ บุญยฉัตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มไทย มีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง โดยในปี 2567 พบว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวมีการส่งออกมูลค่ารวม 6,196.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ที่มา : สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ) อย่างไรก็ตาม แม้ไทยจะเป็นฐานการผลิตที่มีแรงงานฝีมือดี มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน

แต่ช่วงที่ผ่านกลับพบว่า ปริมาณการผลิตของไทยชะลอตัวลง มีปัจจัยสำคัญมาจากต้นทุนแรงที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศที่มีค่าจ้างแรงงานถูกกว่า รวมถึงขาดความรู้ ทักษะ และความเข้าใจในด้านการประกอบธุรกิจ ดังนั้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การแข่งขันจากด้านราคาไปสู่การใช้ความคิดสร้างสรรค์ เน้นคุณภาพและเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น การสร้างทักษะที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ ตลอดจนการสร้างอัตลักษณ์และแบรนด์ไทยที่มีความชัดเจนในระดับนานาชาติ  

กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การบริหารงานของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับการยกระดับศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มไทยทุก ๆ มิติ ภายใต้นโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรมให้มีความทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ที่มุ่งเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร สร้างความเท่าเทียมให้เอสเอ็มอีไทยให้สามารถนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิต รวมถึงพัฒนาการออกแบบด้วยการผสมผสานความร่วมสมัย คงอัตลักษณ์ความเป็นไทย และสร้างโอกาสทางการตลาดก้าวสู่ระดับสากล จึงมอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ดำเนินการหาแนวทางการพัฒนาและยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการไทยสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างแข็งแรง พร้อมปรับตัวและรับมือท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสัมคมในบริบทต่าง ๆ ในอนาคต

นางสาวนันท์ กล่าวต่อว่า ดีพร้อม มีแนวทางการดำเนินงานที่มุ่งเน้นให้วิสาหกิจไทยสามารถอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่อย่างมั่นคง ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ด้วยกลยุทธ์ 4 ให้ 1 ปฏิรูป ที่มุ่งส่งเสริม พัฒนา และยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในทุก ๆ ด้านอย่างตรงจุด ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ การให้ทักษะใหม่ ด้วยการเพิ่มทักษะ ความรู้ ความสามารถบุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการ เพื่อสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นต่อการทำงานในอุตสาหกรรมแฟชั่นสาขาเสื้อผ้าและเครื่องนุ่มห่มไทย ผ่าน ”กิจกรรมการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย” ภายใต้โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรอุตสาหกรรมแฟชั่น (Fashion Alliance) ประจำปี 2568 โดยมุ่งส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าฯ รวมถึงต่อยอดองค์ความรู้ด้วยทักษะที่จำเป็นในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายอย่างสร้างสรรค์ รวมถึงความรู้ที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ เน้นการสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับเสื้อผ้า ตลอดจนการสร้างโอกาสและขยายช่องทางการตลาดไปสู่ตลาดต่างประเทศ อันจะเป็นการผลักดันอุตสาหกรรมเสื้อผ้าฯ ไทยกลายเป็น Hub ของสินค้าแฟชั่นในตลาดสากลได้

สำหรับกิจกรรมดังกล่าว เป็นการมุ่งยกระดับขีดความสามารถของนักออกแบบและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยสาขาเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ทั่วประเทศ โดยคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ จำนวน 100 คน เข้ารับการถ่ายทอดองค์ความรู้และสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยนำกลไกของซอฟต์พาวเวอร์มาช่วยสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ทั้งด้านการออกแบบ พัฒนาธุรกิจ และการตลาด รวมถึงการใช้ทุนวัฒนธรรมในการค้นหาอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่แตกต่างและมีเกลักษณ์โดดเด่น เพื่อสร้างแบรนด์

และเรื่องราว (Storytelling) ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง นอกจากนี้ ยังมีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาโมเดลธุรกิจอย่างเข้มข้น พร้อมรับคำปรึกษาแนะนำด้านธุรกิจเชิงลึก บ่มเพาะและเชื่อมโยงเครือข่ายกับกูรูแฟชั่น การศึกษาดูงานกิจการที่ประสบความสำเร็จเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินธุรกิจของตน ตลอดจนสร้างและขยายโอกาสการเชื่อมโยงเครือข่ายในธุรกิจกิจแฟชั่นไทยไปสู่ตลาดต่างประเทศมากขึ้น อันจะเป็นการขับเคลื่อนให้เกิดพลังซอฟต์พาวเวอร์ และสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรมแฟชั่นไทยไปสู่การส่งออกที่เติบโตขึ้นในระยะยาว

โดยตั้งเป้าให้เกิดการเพิ่มรายได้และยอดขายเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 และผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของภูมิภาค ซึ่งสอดรับกับนโยบายเรือธงสำคัญ (Flagship Policy) ของรัฐบาลที่มุ่งผลักดันและพัฒนาซอฟพาวเวอร์ของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาประเทศและเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนทั่วโลกให้เข้ามาท่องเที่ยวและใช้ชีวิตในเมืองไทย ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืน นางสาวนันท์ กล่าวทิ้งท้าย  

สำหรับผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่นที่มีความสนใจโครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ สามารถสอบถาม

ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2430 6883 

และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ เว็บไซต์ www.diprom.go.th และ www.facebook.com/dipromindustry

Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 095 469 4415
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก