กระทรวงอุตฯ รับลูกต่อนโยบายเรือธง OFOS โชว์ผลสำเร็จผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยปั้นทักษะบุคลากรแฟชั่นไทยกว่า 2,000 คน คาดสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจกว่า 200 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 29 มกราคม 2568 – กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ขานรับนโยบายเรือธงนายกอุ๊งอิ๊ง “One Family One Soft Power (OFOS)” แถลงผลสำเร็จการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยสาขาแฟชั่น ผ่าน “โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในอุตสาหกรรมแฟชั่น” ประจำปี 2567 งัดกลยุทธ์ 4 ให้ 1 ปฏิรูป ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ติวเข้ม ยกระดับทักษะเดิม และเสริมทักษะใหม่แก่บุคลากรแฟชั่นใน 4 สาขา กว่า 2,000 คน ให้มีองค์ความรู้ที่จำเป็นในการประกอบอาชีพและธุรกิจ อีกทั้ง ยังสามารถปรับตัวรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงปัจจุบันและอนาคต คาดสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 200 ล้านบาท

นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) เพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างชาติ ด้วยการยกระดับและพัฒนาองค์ความรู้ ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดมูลค่าจนสามารถก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง อันจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับประเทศไทยนั้น มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่น ชัดเจน และมีชื่อเสียงทั้งด้านอาหาร การแต่งกาย ศิลปะและวัฒนธรรม เครื่องดนตรี ฯลฯ 

รวมถึงเสน่ห์ความเป็นไทยที่สามารถดึงดูดและสร้างสรรค์ให้เกิด Soft Power ของประเทศได้อย่างดี ซึ่งล่าสุดจากการจัดอันดับ Soft Power ของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกของ Global Soft Power Index 2024 โดย Brand Finance ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 40 ของโลก จาก 193 ประเทศ 

นอกจากนี้ ภายใต้ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ 3 ด้านหลัก ครอบคลุมทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งเรือธง (Flagship) สำคัญ คือ การพัฒนาทักษะกำลังคน ผ่านนโยบาย “One Family One Soft Power (OFOS)” ใน 14 สาขา หนึ่งในนั้น คือ สาขาแฟชั่น โดยปี 2564 สามารถสร้างรายได้ราว 3.9 แสนล้านบาท การส่งออกสินค้าแฟชั่นมีมูลค่ากว่า 2.0 แสนล้านบาท และเกิดการจ้างงานราว 7.5 แสนคน นอกจากนี้ อุตสาหกรรมแฟชั่นยังเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ ประกอบกับนโยบาย “ปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ ทันสมัย สะอาด สะดวก โปร่งใส” ของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับตัวให้เข้ากับวิถีใหม่ของโลก จึงมอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) ดำเนินการพัฒนาทักษะกำลังคนในสาขาแฟชั่น ผ่าน “โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในอุตสาหกรรมแฟชั่น หรือ Up Skill - Re Skill” เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทยอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า การจัดงานในวันนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงาน “โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในอุตสาหกรรมแฟชั่น หรือ Up Skill - Re Skill” โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมทั้งสิ้นกว่า 2,000 คน ใน 4 สาขาอุตสาหกรรมแฟชั่น ได้แก่ 1) เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย (Apparel) 2) อัญมณีและเครื่องประดับ (Jewelry) 3) หัตถอุตสาหกรรม (Craft) และ 4) ผลิตภัณฑ์ความงาม (Beauty) 

รวมทั้งสิ้น 17 หลักสูตร โดยวิทยากรมืออาชีพทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ (Workshop) ครอบคลุมทุกภูมิภาค ทั่วประเทศ รวมทั้งการพัฒนาและจัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ออนไลน์ (E-Learning) จำนวน 10 หลักสูตร เพื่อกระตุ้นให้เกิดบุคลากรในอุตสาหกรรมแฟชั่นมากขึ้นเกิดการสร้างรายได้และการจ้างงาน พร้อมทั้งเผยแพร่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และเชื่อมโยงกับระบบ OFOS โดยคาดว่าผลสำเร็จของการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้โครงการฯ จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจทั้งทางตรงและทางอ้อมได้กว่า 200 ล้านบาท 

นางสาวณัฏฐิญา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ การจัดงานในวันนี้ยังมีการมอบวุฒิบัตรให้แก่ตัวแทนผู้ประกอบการ ทั้ง 4 สาขา พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เผยแพร่หลักสูตร E-Learning ไปยังสื่อต่าง ๆ เพื่อเป็นช่องทางให้กับบุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการสาขาแฟชั่นที่สนใจสามารถที่จะเรียนรู้และพัฒนาทักษะเพิ่มเติม รวมทั้งมีการเสวนาในหัวข้อ “Upskill & Reskill ยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย สู่ Soft Power” โดยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐภาคการศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิ ตัวแทนผู้ประกอบการมาร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ร่วมกัน ตลอดจนการจัดนิทรรศการแสดงผลิตภัณฑ์จากผู้ผ่านการฝึกอบรมในครั้งนี้อีกด้วย นางสาวณัฏฐิญา กล่าวทิ้งท้าย
Share:

เป๊ปซี่โค ประเทศไทย คว้ารางวัล “นายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย” 5 ปีซ้อน ตอกย้ำความสำเร็จในการสร้างองค์กรแห่งโอกาสและความยั่งยืน

(กรุงเทพ, 20 มกราคม 2568) งานประกาศผลรางวัลนายจ้างดีเด่นระดับโลกประจำปี 2568 (2025 Top Employers) ประกาศผลให้เป๊ปซี่โคเป็นนายจ้างดีเด่นต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 จากสถาบัน Top Employer Institute รางวัลนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ซึ่งเห็นได้จากนโยบายด้านทรัพยากรบุคคลและแนวทางการปฏิบัติงานที่ยอดเยี่ยมของบริษัทฯ

การจัดอันดับของสถาบัน Top Employers Institute พิจารณาจากองค์กรที่เข้าร่วมและตัดสินรางวัลจากผลการสำรวจแนวทางปฏิบัติงานที่ดีที่สุดด้านทรัพยากรบุคคล (HR Best Practices Survey) ซึ่งครอบคลุมหลักเกณฑ์ด้านทรัพยากรบุคคล 6 ด้านรวม 20 หัวข้อ เช่น กลยุทธ์ด้านบุคคล สภาพแวดล้อมการทำงาน การสรรหาบุคลากร การเรียนรู้ ความหลากหลาย ความเท่าเทียมและการผสานความแตกต่างของกลุ่มคน สวัสดิการ และอื่นๆ

นางสาวณัชวัล อุโฆษกุล ผู้จัดการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลอาวุโส เป๊ปซี่โค ประเทศไทย กล่าวว่า “ที่เป๊ปซี่โค บุคลากรคือหัวใจสำคัญของการดำเนินงานทุกอย่างของเรา การได้รับการยกย่องเป็นนายจ้างดีเด่นระดับโลก (Global Top Employer) ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5 ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงวัฒนธรรมซึ่งหลอมรวมผู้คนที่แตกต่าง มุ่งเน้นนวัตกรรม และมีการสนับสนุนซึ่งกันและกันที่เราได้ร่วมสร้างสรรค์กันมา โดยรางวัลครั้งนี้ครอบคลุมการดำเนินงานของเราทั้ง 29 ประเทศใน 3 ภูมิภาค แสดงถึงความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมทีมงานให้เติบโตและบรรลุถึงศักยภาพสูงสุดของตนเอง ไปพร้อมกับการมอบโอกาสที่เปี่ยมความหมายให้กับทุกคน และในโอกาสนี้ เราขอขอบคุณสมาชิกเป๊ปซี่โคทุกท่านที่ทำให้เราคว้ารางวัลอันทรงเกียรติ และรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ร่วมไปกับทุกท่าน”

นายเดวิด พลิงก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบัน Top Employers Institute กล่าวว่า “การบริหารองค์กรให้มั่นคงท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่ต่อเนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และภูมิทัศน์ทางสังคมที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง รวมถึงได้เห็นผู้คนและองค์กรต่าง ๆ พยายามยืนหยัดต่อความท้าทายเหล่านี้ ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ซึ่งในปีนี้ ผลรางวัลนายจ้างดีเด่นได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเหล่าบรรดานายจ้างในการพยายามกำหนดมาตรฐานการทำงาน เพื่อสรรค์สร้างกลยุทธ์และแนวทางปฏิบัติงานด้านทรัพยากรบุคคลระดับโลกอย่างต่อเนื่อง นายจ้างดีเด่นหล่านี้มุ่งส่งเสริมการเติบโตและความเป็นอยู่ที่ดีไปพร้อม ๆ กับการเสริมสร้างโลกแห่งการทำงาน ซึ่งเราภูมิใจที่ได้ร่วมยกย่องและเฉลิมฉลองความสำเร็จขององค์กรและทีมงานที่มุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับบุคลากรเหล่านี้ในฐานะนายจ้างดีเด่นประจำปี 2568”

โดยงานประกาศรางวัลครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อยกย่องและมอบรางวัลให้แก่นายจ้างดีเด่นกว่า 2,400 รายใน 125 ประเทศ/ภูมิภาคทั่วทั้ง 5 ทวีป


เกี่ยวกับ Top Employers Institute

สถาบัน Top Employer Institute เป็นองค์กรผู้นำอันดับหนึ่งระดับนานาชาติที่เชี่ยวชาญด้านการประเมินมาตรฐานการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล ด้วยการรับรองมาตรฐานระดับโลกและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึก โดยสถาบันมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนองค์กรต่างๆ ในการพัฒนากระบวนการด้านบุคลากรให้มีความเปลี่ยนแปลงในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมผลลัพธ์ทางธุรกิจ และช่วยให้สามารถจูงใจ สร้างการมีส่วนร่วม และรักษาบุคลากรคุณภาพไว้ได้ ในปี 2025 Top Employers Institute ได้ให้การรับรององค์กรมากกว่า 2,400 แห่งใน 125 ประเทศทั่วภูมิภาค ซึ่งช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชีวิตของพนักงานมากกว่า 13 ล้านคนทั่วโลก

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรางวัล Global Top Employer สามารถดูได้ที่ www.top-employers.com

เกี่ยวกับเป๊ปซี่โค 

ผลิตภัณฑ์ของเป๊ปซี่โคเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคเพลิดเพลินได้มากกว่า 1 พันล้านครั้งต่อวันในกว่า 200 ประเทศและดินแดนทั่วโลก เป๊ปซี่โคมีรายได้สุทธิมากกว่า 91,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 จากธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารสะดวกซื้อของบริษัท เช่น เลย์ โดริโทส ชีโตส เกเตอเรด เป๊ปซี่-โคล่า เมาเทนดิว เควกเกอร์ และโซดาสตรีม กลุ่มผลิตภัณฑ์ของเป๊ปซี่โคประกอบด้วยอาหารและเครื่องดื่มมากมาย ซึ่งรวมถึงแบรนด์ดังที่แต่ละแบรนด์มียอดขายปลีกทั่วโลกมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี  

Guiding PepsiCo คือวิสัยทัศน์ของเราในการเป็นผู้นำระดับโลกด้านเครื่องดื่มและอาหารสะดวกซื้อ สร้างความสำเร็จด้วยกลยุทธ์ Winning with pep+ (PepsiCo Positive) ที่มุ่งปรับโฉมธุรกิจในทุกขั้นตอน ด้วยการนำเรื่องความยั่งยืนมาเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างการเติบโตและคุณค่าให้กับโลก และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลกและผู้คน ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทเข้าชมได้ที่ www.pepsico.com และติดตามบน X (Twitter), Instagram, Facebook และ LinkedIn @PepsiCo

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทได้ที่ 

เว็บไซต์ www.pepsico.com และติดตามข่าวสารได้ที่ X (Twitter), Instagram, Facebook และ LinkedIn @PepsiCo



Share:

Thai MICE Connect เปิดตัวแคมเปญ “จองจัดประชุมไมซ์ ลุ้นรับคูปองไปจอย” กระตุ้นตลาดไมซ์ด้วยคูปองดิจิทัล รวมมูลค่า 600,000 บาท

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) เปิดตัวแคมเปญ “จองจัดประชุมไมซ์ ลุ้นรับคูปองไปจอย” มุ่งส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการไมซ์ไทยและกระตุ้นการจัดงานไมซ์ทั่วประเทศไทยผ่านแพลตฟอร์ม Thai MICE Connect โดยเปิดโอกาสให้ผู้จัดงานไมซ์ทั่วประเทศได้รับสิทธิพิเศษคูปองดิจิทัลสนุบสนุนการจัดงาน มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท เมื่อจองและจัดงานผ่านเว็บไซต์ www.thaimiceconnect.com หรือจัดกิจกรรมจากเส้นทางไมซ์ 16 Ignite Route

สิทธิพิเศษสำหรับผู้จัดงาน

ผู้จัดงานไมซ์สามารถรับสิทธิ์คูปองดิจิทัลได้ 2 รูปแบบ ได้แก่

คูปองมูลค่า 15,000 บาท สำหรับกิจกรรมระยะเวลา 1 วัน (ไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง)

คูปองมูลค่า 30,000 บาท สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน

กิจกรรมที่สามารถเข้าร่วมแคมเปญ
ประเภทกิจกรรมที่สามารถรับสิทธิ์ ได้แก่

  • การประชุม
  • การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล
  • สัมมนา
  • กิจกรรมการอบรม
  • กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์
  • กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR)
  • การศึกษาดูงาน
  • การจัดงานเทศกาล
  • การจัดบูธหรืองานแสดงสินค้า

กติกาและเงื่อนไขการรับสิทธิ์

ผู้จัดงานต้องดำเนินกิจกรรมในประเทศไทย และจองบริการผ่านเว็บไซต์ www.thaimiceconnect.com อย่างน้อย 1 บริการ หรือจัดกิจกรรมจากเส้นทางไมซ์ 16 Ignite Route

กิจกรรมต้องมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 30 คน (ไม่รวมเด็ก เยาวชน นิสิต และนักศึกษา)

ยื่นสมัครรับสิทธิ์พร้อมเอกสารประกอบการสมัครก่อนการจัดกิจกรรมไม่น้อยกว่า 5 วัน 

กิจกรรมจัดขึ้นภายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 และส่งหลักฐานหลังการจัดกิจกรรมภายในวันที่ 3 มีนาคม 2568

สมัครเข้าร่วมแคมเปญได้แล้ววันนี้

ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมแคมเปญ “จองจัดประชุมไมซ์ ลุ้นรับคูปองไปจอย” 

ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่านเว็บไซต์ https://www.thaimiceconnect.com/campaign/detail/14

Share:

EggTrack 2024 ชี้เป้า! ใครนำ-ใครตามในการปรับตัวสู่การใช้ไข่ไก่ปลอดกรง (Cage -Free Egg)ในไทย

2025 โค้งสุดท้ายสำหรับพันธสัญญาการใช้ไข่ไก่ปลอดกรง ในระดับโลก ภูมิภาค และท้องถิ่น โดยรายงาน EggTrack 2024 จากองค์กร Compassion in World Farming เผยถึงความคืบหน้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ชี้ให้เห็นถึงทั้งบริษัทที่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและบริษัทที่ยังล้าหลัง ในส่วนของประเทศไทยยังคงเผชิญความท้าทายอย่างมากในการพัฒนาระบบการเลี้ยงไก่ไข่แบบปลอดกรง

รายงาน EggTrack ปีนี้เน้นการจัดอันดับความคืบหน้าของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) ผ่าน “Spotlights” ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ระดับภูมิภาคและรายประเทศ เพื่อแสดงให้เห็นว่าแต่ละบริษัทได้ดำเนินการตาม พันธสัญญาในการใช้ไข่ไก่ปลอดกรง มากน้อยเพียงใด โดยจะแบ่งบริษัทออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่  'กลุ่มผู้นำ' (บริษัทที่มีความคืบหน้าชัดเจนหรือเปลี่ยนมาใช้ไข่ไก่ปลอดกรง 100% แล้ว) 'กลุ่มที่อยู่ระหว่างดำเนินการ' (บริษัทที่แม้ยังมีการใช้งานไข่ไก่ปลอดกรงในสัดส่วนต่ำ แต่มีการรายงานความคืบหน้าอย่างโปร่งใส) 'กลุ่มที่มีความเสี่ยง' (บริษัทที่ไม่เปิดเผยข้อมูลความคืบหน้าหรือไม่มีการแสดงความมุ่งมั่นอย่างชัดเจน) และ 'กลุ่มที่ล้าหลัง' (บริษัทที่ถอนตัวจากพันธสัญญาเดิมหรือไม่มีความคืบหน้าในการเปลี่ยนแปลง)

ความคืบหน้าของประเทศไทยกับช่องว่างในการพัฒนา

 สำหรับประเทศไทยการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบไข่ไก่ปลอดกรงยังมีความล่าช้าในขณะที่บริษัทระดับโลกอย่าง McDonald’s และ Burger King ในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เปลี่ยนมาใช้ไข่ไก่ปลอดกรง 100% แล้ว อย่างไรก็ตาม หลายบริษัทในประเทศไทยยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ "มีความเสี่ยง" หรือ At Risk เนื่องจากขาดการอัปเดตความคืบหน้าของนโยบายด้านนี้ ส่งผลให้เกิดช่องว่างในการพัฒนาเมื่อเทียบกับมาตรฐานระดับสากล

แม้ว่าบางบริษัทในประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างผู้ถือหุ้นหรือการควบรวมกิจการแต่หลายบริษัทในประเทศไทยยังคงไม่มีการประกาศแนวทางที่ชัดเจนในการเปลี่ยนไปใช้ไข่ไก่ปลอดกรง นอกจากนี้บางบริษัทที่ให้ข้อมูลจำกัดเกี่ยวกับแผนงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ ยังสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มความโปร่งใส การขับเคลื่อนให้เกิดความเปลี่ยนแปลงนี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมถึงการสนับสนุนจากผู้บริโภคในการเลือกสินค้าที่ผลิตจากระบบที่คำนึงถึงสวัสดิภาพสัตว์ เพื่อเร่งให้เกิดความก้าวหน้าที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในประเทศไทย 

EggTrack Spotlight 2024 เผยถึงความสำเร็จและความท้าทาย โดยระบุว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีการเติบโตของการใช้ไข่ไก่ปลอดกรงเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 73.6% ต่อปี และเพิ่มขึ้นอีก 9.9% เมื่อเทียบกับปี 2023 ตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเร่งการเปลี่ยนผ่านได้ หากมีการสนับสนุนและความร่วมมือที่ชัดเจนจากทุกฝ่าย

เพื่อผลักดันความก้าวหน้าด้านไข่ไก่ปลอดกรงในไทย องค์กร Compassion in World Farming เตรียมจัดงาน Cage-Free Forum Thailand 2025 ในวันที่ 21 มกราคม 2568 ที่กรุงเทพฯ งานนี้จะรวบรวมผู้นำในอุตสาหกรรมไข่ไก่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้กำหนดนโยบาย มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบที่ยั่งยืน

สำรองที่นั่งสำหรับ Cage-Free Forum Thailand 2025 ได้แล้ววันนี้!

หมดเขตจอง: วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2025

ลงทะเบียนที่นี่: https://forms.office.com/e/Pm8C2NFdXC

อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่: https://www.eggtrack.com/en/eggtrack-asia-pacific/

Share:

เกมมือถือ Yulgang คัมแบ็กพร้อมกิจกรรมปีใหม่สุดพิเศษสนุกจัดเต็ม กับพรีเซนเตอร์ เผือก และ เต๋อ มันส์สุดเหวี่ยงในยุทธภพ!

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการกลับมาสุดยิ่งใหญ่ของ Yulgang: จุติยุทธภพเลือดใหม่ กับกิจกรรมสุดพิเศษที่มาพร้อมความสนุก ภายใต้ธีม “ปีใหม่ สไตล์ยุทธภพ”! ความพิเศษของกิจกรรมนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2568 ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 โดยจะนำพาผู้เล่นทุกคนเข้าสู่บรรยากาศแห่งความสุข และความตื่นเต้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน

ความพิเศษของกิจกรรมครั้งนี้คือการดึงสองนักแสดงชื่อดังอย่างเผือก-พงศธร จงวิลาส พิธีกร/ดีเจ/นักแสดงสายฮาผู้มากความสามารถที่มีผลงานล่าสุดในภาพยนตร์เรื่อง “หลานม่า” และ เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี พระเอกอารมณ์ดีที่ครองใจแฟนๆ จากภาพยนตร์ กวน มึน โฮ และผลงานล่าสุด “404 สุขีนิรันดร์...RUN RUN” มาร่วมเป็นพรีเซนเตอร์และสร้างสีสันให้กับโลกยุทธภพในธีม “พี่น้องยุทธภพขี้เล่นสุดฮา” ด้วยบุคลิกที่สนุกสนานและความสามารถในการสร้างเสียงหัวเราะของทั้งคู่ เผือก และ เต๋อ จึงถูกเลือกให้เป็นตัวแทนของสองฝ่ายในกิจกรรมพิเศษ “การโหวตระหว่างฝ่ายธรรมะและฝ่ายอธรรม”

โดย เต๋อ จะมารับบทเป็นตัวแทนของ "ฝ่ายธรรมะ" ส่วน เผือก จะรับบทตัวแทนของ "ฝ่ายอธรรม" สำหรับกิจกรรมการโหวตฝ่ายธรรมะและอธรรม จะเริ่ม ตั้งแต่วันที่ 15-28 มกราคม 2568 การเผชิญหน้าครั้งนี้จะถูกตัดสินโดยพลังของผู้เล่นทุกคนผ่านการโหวตเพื่อชี้ชะตาจากฝ่ายที่ตนเองชื่นชอบให้เป็นผู้ชนะ นอกจากความสนุกสุดเร้าใจในการเลือกข้างแล้ว ยังมีของรางวัลเจ๋ง ๆ ที่รอทุกคนอยู่! เพียงแค่เข้าร่วมกิจกรรมการโหวต หรือ สร้างสำนักให้คนเข้าร่วมก็สามารถรับ รางวัล ไปสะสมกันได้ทุกวันแบบจัดเต็มตลอดระยะเวลากิจกรรม และที่เด็ดกว่านั้นคือโอกาสปลดล็อกชุดแฟชั่น ลิมิเต็ดสุดพิเศษที่จะเปลี่ยนลุคตัวละครให้โดดเด่นไม่ซ้ำใคร แถมยังมีสิทธิ์คว้ารางวัลแบบ 100% กลับบ้านไปอีกด้วย บอกเลยว่ากิจกรรมนี้ไม่มีคำว่ามือเปล่าแน่นอน!

ในโอกาสสุดพิเศษนี้ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2568 ถึง 4 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้เล่นที่ล็อกอินเข้าสู่เกมจะได้รับฟรี "สัตว์เลี้ยงฮิปโป" ซึ่งเป็นไอเทมสุดพิเศษที่จำกัดเฉพาะช่วงเวลานี้เท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมโหวตฝ่ายธรรมะ-อธรรม ซึ่งมีโอกาสลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ เช่น ชุดแฟชั่นและฉายาปีใหม่สุดลิมิเต็ด นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการกลับมาสร้างตำนานในยุทธภพอีกครั้ง! สำหรับผู้เล่นใหม่ การเข้าร่วมยุทธภพในช่วงปีใหม่นี้นับว่าคุ้มค่าสุด ๆ เพราะนอกจากจะได้รับรางวัลปีใหม่สุดพิเศษแล้ว ยังมีรางวัลเด็ด ๆ อย่างสัตว์ขี่ฮัสกี้ ชุดแฟชั่นไดโนเสาร์ และฉายาสุดหายากที่พร้อมแจกให้แบบจัดเต็ม ทั้งหมดนี้ช่วยให้คุณได้สนุกกับการผจญภัยในยุทธภพได้อย่างเต็มอรรถรส!

หวังว่ากิจกรรมสุดพิเศษในครั้งนี้จะมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนเดิมให้กับโลก ยุทธภพ ของผู้เล่นทุกคน เปลี่ยนประสบการณ์ในยุทธภพให้สนุกสนานและเต็มไปด้วยสีสันแห่งปีใหม่ที่อบอวลด้วยกลิ่นอายของ เทศกาลตรุษจีน

ย้อนความทรงจำวัยเด็กกับ Yulgang จุติยุทธภพเลือดใหม่ เกมลิขสิทธิ์แท้จากการ์ตูนดัง ที่มาพร้อม 5 อาชีพหลักและแผนที่คลาสสิก ให้ผู้เล่นสัมผัสบรรยากาศศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิม พร้อมกราฟิกและระบบที่ทันสมัย สนุกกับการเปลี่ยนคลาสอิสระ แต่งตัวตามสไตล์ และผจญภัยในโลกที่ไร้ขีดจำกัด ร่วมต่อสู้กับผู้เล่นนับหมื่น นอกจากการเปิดศึกระหว่าง "ฝ่ายธรรมะ" และ "ฝ่ายอธรรม" ที่เป็นไฮไลต์สำคัญแล้ว ผู้เล่นยังจะได้พบกับกิจกรรมสุดพิเศษ การกลับมาของตำนานในรูปแบบใหม่ และประสบการณ์ที่จะทำให้ยุทธภพเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความทรงจำแสนประทับใจ 

ล็อกอินเข้าเกม Yulgang ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม นี้ แล้วสนุกไปกับโลกยุทธภพที่ไม่เหมือนใคร!

Download now :https://bit.ly/3YjwWry

Official Fanpage:https://www.facebook.com/Yulgang.9ring/

Share:

“สร้างรอยยิ้มให้เด็กๆ” โดย สมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ ในพระบรมราชูปถัมภ์

“สร้างรอยยิ้มให้เด็กๆ”

นำโดย ดร.ชินวัฒน์ สกุลตั้งไพศาล นายกสมาคม มอบเงินให้กับ ครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ ประธานมูลนิธิดวงประทีป 

เพื่อเป็นทุนพัฒนาเด็กนักเรียนอนุบาลด้อยโอกาสในชุมชนคลองเตย ...

พร้อมทั้งมอบของเล่น สมุดดินสอ และอาหารกลางวัน ขนมและไอสครีมให้กับเด็กๆ โดยมี ดร.สุเมธ-สุทธินี และดร.จินดารัตน์ ชุมสาย ณ อยุธยา ,เอิร์ธ สายสว่าง,จันทิมา-ภาวิณี นะวิโรจน์ ,

กมลวัน บุณยัษฐิติ ,

ณัฐพัชร รัตนกนกวัฒน์ ,

ฐิิติภูมิ จามิกรานนท์ ,

ศุภนิดา สกุลตั้งไพศาล 

และ พญ.รุ่งไพลิน รัตนชีวร เข้าร่วมสร้างรอยยิ้ม และความประทับใจให้กับเด็กๆอีกด้วย

Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก