รีวิวร้านอาหาร Kalamansi Kafe ( คาลามันซิ คาเฟ่)

วันนี้ Insight ได้รับหมายเชิญร่วมรับประทานอาหาร ฟิลิปิโน ขนานแท้ต้นตำรับ ดีใจได้มาเปิดประสบการณ์ ครั้งแรกที่จะได้ลิ้มลองอาหารฟิลิปินส์ ตื่นเต้นแล้วค่ะ เราไปชมบรรยากาศ และรสชาติอาหารร้านกันเลย

Kalamansi Kafe (คาลามันซิ คาเฟ่) เป็นร้านอาหารฟิลิปปินส์แท้ๆ ที่ตั้งอยู่ในซอยสวนพลู เขตสาทร กรุงเทพฯ ร้านนี้นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารในบรรยากาศสบายๆ และเป็นกันเอง โดยKalamansi หมายถึงส้มจี๊ด หรือส้มลูกเล็กๆ มีชื่อเรียกหลายอย่างเช่นส้มปานามา หรือมะนาวฟิลิปปินส์นั่นเองค่ะ  ดังนั้นหลายเมนูจะมีการจัดจานประดับลูกส้มจี๊ดอย่างสวยงามค่ะ 

บรรยากาศร้านตกแต่งให้นั่งสบายๆ ด้วยกลิ่นอายของความเป็นฟิปิโนสไตล์ ผนังห้องด้านขวามือ ประดับด้วยภาพวาดสัตว์และรถบรรทุก อันเป็นเอกลักษณ์ของชาวฟิลิปปินส์ 

ร้านถูกแบ่งเป็น2 โซน  คือด้านนอกเป็นเอาท์ดอร์ และด้านในเป็นห้องแอร์เย็นฉ่ำ ด้านในมีชั้นสอง เหมาะสำหรับลูกค้าที่อยากนั่งแบบไพรเวทก็มีจัดไว้ให้ลูกค้าได้เลือกตามสะดวกอีกด้วย

ร้านนี้ บริหารงานโดย พี่น้อง2 สาวชาวฟิลิปินส์ คือ คุณแซนดี้ และคุณ เกลซี่ โลเปซ ได้เปิดให้บริการครั้งแรกตั้งแต่ยุคหลังโควิด  

การตกแต่งภายในของร้านมีความเรียบง่ายและอบอุ่น ด้วยการใช้โทนสีธรรมชาติและเฟอร์นิเจอร์ไม้ ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกผ่อนคลาย และเหมือนรับประทานอาหารที่บ้านเพื่อนชาวฟิลิปปินส์  

ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเองและการบริการที่เป็นมิตร Kalamansi Kafe จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงหรือครอบครัว พร้อมสัมผัสรสชาติอาหารฟิลิปปินส์ต้นตำรับในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย 

ในร้านเสิร์ฟอาหารฟิลิปิโน ขนานแท้และดั้งเดิม ใช้เครื่องปรุงเป็นผลิตภัณฑ์โฮมเมดทั้งหมด โดยเชฟชาวฟิลิปิโนผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ เพราะเป็นเชฟเจนเนอเรขั่นที่ 3 ของตระกูลเชฟฝีมือดีจากฟิลิปปินส์ โดย เชฟ Chang  

วัตถุดิบที่ใช้ในการ Cooking ทุกเมนูล้วนสดใหม่ เลือกเฟ้นและคัดสรรแล้วว่ามีคุณภาพเกรดพรีเมียม ในร้านมีเมนูให้เลือกนับร้อยเมนู ตั้งแต่เมนู Appitzer สำหรับทานเล่นหรือเรียกน้ำย่อย กระทั่ง Main Dish หรือจานหลักที่เชฟบรรจงรังสรรค์ขึ้นมาให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง ไปจนเมนูขนมหวานสำหรับปิดท้ายของมื้ออร่อยแบบสไตล์ฟิลิปิโน

ร้านนี้นำเสนออาหารฟิลิปปินส์ต้นตำรับในบรรยากาศสบายๆ และเป็นกันเอง

เมนูของทางร้านมีความหลากหลาย และยังคงรสชาติดั้งเดิมของฟิลิปปินส์ไว้ได้อย่างดี เช่น หมูสามชั้นย่าง (Liempo) หมี่ผัด (Pancit) และของหวานอย่าง Halo-Halo ที่เป็นที่นิยม

เมนูของทางร้านมีหลากหลาย  เมนูแนะนำ ได้แก่ หมูสามชั้นย่าง หมี่ผัด และของหวาน Halo-Halo ซึ่งเป็นขนมหวานรวมมิตรสไตล์ฟิลิปปินส์ 

Free Appetizer 

  • Pandesal with chicken liver Pate and chicken flakes.

เปิดด้วยเมนู ขนมปังสไตล์ฟิลิปิโน  Pandesal กับฟองดูว์ตับไก่และไก่หยอง เมนูนี้เสิร์ฟฟรีทุกโต๊ะ เป็นการทานขนมปังแบบดั้งเดิมของฟิลิปปินส์

ขนมปังสไตล์ฟิลิปิโน (Pandesal) เป็นขนมปังที่มีความนุ่มและกรอบ เนื้อขนมปังมีรสชาติหวานอ่อนๆ และสัมผัสเนียนละมุน เหมาะสำหรับการทานในมื้อเช้า หรือเป็นขนมทานเล่น ขนมปังชนิดนี้มักจะมีรสชาติไม่จัดมาก ทำให้สามารถจับคู่กับส่วนผสมอื่นๆ ได้หลากหลาย

เสิร์ฟพร้อมฟองดูว์ตับไก่และไก่หยอง จะเพิ่มมิติให้กับรสชาติของขนมปังอย่างมาก ฟองดูว์ตับไก่มีรสชาติเข้มข้น มันส์นุ่มๆ และครีมมี่ เมื่อจิ้มขนมปังที่อบใหม่ๆ ลงไป รสชาติจะเข้ากันได้ดี ขณะที่ไก่หยองที่เพิ่มมาจะให้ความกรุบกรอบ และรสเค็มๆ อ่อนๆ ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับรสชาติ

เริ่มกันที่เมนูแนะนำของวันนี้เลยค่ะ 

  • Tuna Kinilaw

Tuna Kinilaw เป็นเมนูปลาดิบหมักสไตล์ฟิลิปปินส์ คล้ายกับ Ceviche ของลาตินอเมริกา โดยใช้ปลาทูน่าสดมาหั่นเป็นชิ้น แล้วหมักกับน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว เติมรสชาติด้วยขิง หอมแดง พริก และน้ำส้มจี๊ด หรือบางสูตรอาจเพิ่มกะทิและผลไม้ เช่น มะม่วงดิบหรือแตงกวา เพื่อความสดชื่น  เรียกได้ว่าเป็นเมนูเรียกน้ำย่อยก่อนมื้อหลัก!

  • Shrimp Tamarind Soup

Shrimp Tamarind Soup/ ซุปกุ้งน้ำมะขาม เป็นเมนูที่มีความเป็นเอกลักษณ์และรสชาติกลมกล่อมจากการผสมผสานของรสเปรี้ยวจากน้ำมะขามและรสหวานจากกุ้งสด ๆ ซึ่งเป็นการนำวัตถุดิบที่สดใหม่มาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

  • Pinoy Ako! Big set กับ 8 เมนูเด็ด ชุดใหญ่วันนี้จัดรวมอิ่มแบบจุกๆ
รับจบที่เซตนี้ก็ว่าได้ คือรวบรวมเมนูเด็ดของร้านมาจัด วางรองมาบนใบตองพร้อมเสิร์ฟ รสชาติอาหารที่นี้อร่อยมากถ้าได้มาลอง ต้องกลับมาอีกรอบแน่นอนค่ะ 

  1. Garlic rice : ข้าวผัดกระเทียม
  2. Morning glory with small dried fish : ผัดผักบุ้งใส่ปลาแห้งตัวเล็ก
  3. Barbecue sticks of chicken and pork : ไก่ย่าง/หมูย่างบาร์บีคิว
  4. Seafood Kare-Kare Peanut sauce with shrimp paste (“kapi”) : ซีฟู้ดราดซอสถั่วลิสงเสิร์ฟพร้อมกะปิฟิลิปิโน
  5. Fried Lumpia Springrolls with pork/chicken : ปอเปี๊ยะกุ้ง/ปอเปี๊ยะหมู
  6. Chicken Adobo(with vinegar, bay leaves and soysauce) : ไก่หมักน้ำส้มสายชูและใบกระวานย่าง
  7. Pancit Bihon : ผัดหมี่ฟิลิปิโนกุ้งสดและผัก
  8. Pork Sisig : เครื่องในหมูย่าง

มาต่อเซตทะเลเผาเบาๆ แต่อร่อยแซ่บซีฟู้ดส์

  • Grilled Seafood Platter

Grilled Seafood Platter เป็นเมนูรวมซีฟู้ดย่างที่มักมีส่วนประกอบหลักอย่าง กุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ และปลา เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน หรือซอสต่างๆ เช่น กระเทียมเนย หรือบาร์บีคิว

จุดเด่นของเมนู
ความสดของวัตถุดิบ – รสชาติของซีฟู้ดที่ดีต้องมาจากความสดใหม่ของวัตถุดิบ กุ้งเด้ง หอยฉ่ำ ปลาหมึกกรุบๆ และเนื้อปลานุ่มๆ
การย่างที่พอดี – ความหอมของกลิ่นควันไฟช่วยเพิ่มรสชาติให้กับซีฟู้ด โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้เครื่องเทศหรือซอสหมักก่อนย่าง
น้ำจิ้มรสจัดจ้าน – บางร้านเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเฉพาะ หรือซอสกระเทียมเนยที่เข้ากับซีฟู้ดได้ดี

  • Ribeye steak served with Salad, 2 eggs and fried garlic rice

เมนูนี้เป็น อาหารจานเดียวที่ครบเครื่องทั้งโปรตีน คาร์บ และผัก เหมาะสำหรับมื้อหนักที่ต้องการความอิ่มอร่อยและพลังงานเต็มที่ ถ้าเนื้อย่างมาในระดับความสุกที่พอดี และข้าวกระเทียมมีรสชาติกลมกล่อม ไม่มันหรือเค็มเกินไป บอกเลยว่าเป็นเมนูที่ไม่ควรพลาด!

🥩 Ribeye Steak – เนื้อริบอายขึ้นชื่อเรื่องลายไขมันแทรกที่ช่วยให้เนื้อมีความนุ่มและฉ่ำ เมื่อย่างแบบมีเดียมแรร์หรือมีเดียม ไขมันจะละลายเพิ่มรสชาติ หอมกลิ่นเนื้อย่างและเครื่องเทศที่หมักไว้ (ขึ้นอยู่กับร้านว่าหมักหรือใช้เกลือ-พริกไทยแบบคลาสสิก)

🥗 Salad – สลัดเป็นตัวช่วยให้มื้ออาหารสมดุล ถ้าเป็นแบบสดกรอบ คลุกกับเดรสซิ่งที่ลงตัว เช่น ซีซาร์หรือบัลซามิก จะช่วยตัดเลี่ยนจากเนื้อได้ดี

🍳 Eggs (2 ฟอง) – ไข่ดาวหรือไข่ลวกเป็นตัวเลือกที่เข้ากันได้ดี โดยเฉพาะไข่แดงเยิ้มๆ ที่สามารถนำมาคลุกกับข้าวกระเทียม เพิ่มรสชาติให้กลมกล่อมขึ้น

Signature Dessert ขนมหวาน 🍧✨

  • Halo Halo

เริ่มที่ เมนูของหวานซิกเนเจอร์

Halo-Halo เป็นของหวานยอดนิยมจากฟิลิปปินส์ที่ชื่อมีความหมายว่า "ผสมผสาน" ซึ่งสะท้อนถึงส่วนผสมหลากหลายที่รวมกันอย่างลงตัวในถ้วยเดียว

ความหลากหลายของวัตถุดิบ  ถั่วแดงหวาน, กล้วยเชื่อม, เผือกกวน, วุ้นมะพร้าว, ขนุน, ข้าวโพด, มะพร้าวอ่อน และอื่น ๆ ตามแต่ละร้านจะเลือกใช้ ที่เพิ่มเติมวันนี้ คือ สังขยา สไตล์ฟิลิปินส์ค่ะ  เกล็ดน้ำแข็งและนมข้นหวาน – ให้ความเย็นสดชื่นและรสหวานมัน  ท็อปปิ้งสุดฟิน วันนี้ทางร้านเลือกไอศกรีมเผือก  ที่ช่วยเพิ่มความหอมหวานกำลังดี

  • Cassata Cake 
Cassata Cake เป็นขนมหวานที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอิตาลี มีลักษณะเด่นด้วยชั้นเค้กนุ่ม ๆ สลับกับครีม ricotta ที่เข้มข้นและผลไม้แห้งหรือผลไม้หวานที่เคลือบด้วยน้ำเชื่อม ทำให้รสชาติของมันมีความหอมหวานและเปรี้ยวเล็กน้อยจากผลไม้ รสสัมผัสที่หลากหลายจากความนุ่มของเค้กและความเข้มข้นของครีม ทำให้ Cassata Cake เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบขนมหวานที่มีความพิถีพิถันในการจัดเตรียมและมีรสชาติที่ซับซ้อน
  • Turon ( Fried Spring Roll with Banana Jackfruit 

Turon เป็นขนมฟิลิปปินส์ยอดนิยมที่มีความกรอบ หวาน และหอม ด้วยไส้ที่ทำจากกล้วย saba และขนุน (jackfruit) ห่อด้วยแป้งปอเปี๊ยะ (spring roll wrapper) แล้วนำไปทอดจนเป็นสีเหลืองทอง เคลือบด้วยน้ำตาลคาราเมลบางๆ ให้ความกรอบและรสชาติที่ลงตัว

เมนู เครื่องดื่ม

  • Gin Pom Pom
Gin Pom Pom เป็นเครื่องดื่มค็อกเทลที่มักจะได้รับความนิยมในช่วงที่คุณต้องการดื่มอะไรสดชื่นและมีรสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ โดยใช้ Gin เป็นฐานหลักและผสมกับ น้ำทับทิม ซึ่งทำให้ได้รสชาติที่สดชื่นและกลมกล่อม โดย Gin Pom Pom อาจจะมีการตกแต่งด้วยการใส่ผลไม้สดหรือสมุนไพรเพิ่มความหอม เช่น เปลือกมะนาวหรือมินต์
  • Kalamansi Juice (Cold) 

 Kalamansi Juice เมนุนี้เรียกได้ว่าชื่นใจ เปรี้ยวจี๊ด ช่วยให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า นอกจากจะสดชื่นแล้ว  ยังมีประโยชน์ด้านสุขภาพ ด้วยผลของ คาลามันซี หรือ ส้มจี๊ดฟิลิปปินส์ ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติเปรี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์ 

  • Frozen Margarita Kalamansi 
Frozen Margarita Kalamansi เป็นค็อกเทลที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบรสชาติเปรี้ยวสดชื่นและมีความซ่าเบา ๆ จากมะนาวกาลามันซี ผสมกับเตกีล่าและลิเคียวร์ส้ม มาดูกันว่าเครื่องดื่มนี้มีจุดเด่นอะไรบ้าง
  • Pina Colada 
เป็นค็อกเทลที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักดื่มทั่วโลก Pina Colada เป็นค็อกเทลที่ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในวันพักผ่อนที่ชายหาด หวาน หอม และสดชื่น เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มง่ายและไม่หนักเกินไป เหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติหวานและไม่ชอบความแรงของแอลกอฮอล์มากนักค่ะ
  • Green Mango Shake 
Green Mango Shake หรือ "มะม่วงเขียวปั่น" เป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติสดชื่นและเปรี้ยวอมหวาน ซึ่งเป็นที่นิยมในหลายๆ แถบเมืองร้อน โดยเฉพาะในไทย เนื่องจากมะม่วงเขียวมักมีรสชาติที่เปรี้ยวมากกว่ามะม่วงสุก ทำให้มันให้รสชาติที่แตกต่างจากสมูทตี้หรือเชคมะม่วงที่ทำจากมะม่วงสุก

ร้านสวย อาหารรสชาติดีเกรดพรีเมี่ยม จากรีวิวลูกค้าหลายท่านชื่นชมในคุณภาพและรสชาติของอาหารที่เสิร์ฟ นอกจากความอร่อยแล้ว ยังมีปริมาณที่คุ้มค่า นอกจากนี้ บรรยากาศของร้านยังน่านั่งและพนักงานให้บริการอย่างเป็นมิตร 

Kalamansi Kafe (คาลามันซิ คาเฟ่)

  • ที่ตั้ง: 101, 11 ถนนสวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 
  • เวลาเปิดทำการ: เปิดทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร ตั้งแต่เวลา 10:00 น. ถึง 21:00 น. 
  • สำรองโต๊ะได้ที่: +66 88 952 2509 
  • Web : http://www.kalamansi.group/
  • FB: kalamansikafe
  • สถานที่จอดรถ:  โรงแรม Sommerset ซึ่งอยู่
  • ติดกับร้านอาหาร
  • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณสันติสุข( ต้อย) 089 4405842

Share:

กระทรวงสาธารณสุข เปิดตัว “โครงการขับเคลื่อนภารกิจการจัดการความขัดแย้งในระบบสาธารณสุข ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562

สร้างสังคมสาธารณสุขสมานฉันท์ ด้วยวัฒนธรรมการไกล่เกลี่ย เพื่อประโยชน์ของประชาชนและส่วนรวม

กรุงเทพฯ – กระทรวงสาธารณสุข เปิดตัวโครงการใหม่ “โครงการขับเคลื่อนภารกิจการจัดการความขัดแย้งในระบบสาธารณสุข ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562” ด้วยช่องทางการบริการการไกล่เกลี่ยที่เข้าถึงได้ง่าย สะดวก กระบวนการขั้นตอนที่มีมาตรฐาน ใช้เวลาไม่มาก มีกฎหมายรองรับผล

การไกล่เกลี่ย โดยกระทรวงสาธารณสุขมีเป้าหมายสำคัญเพื่อยุติข้อพิพาทในระบบสาธารณสุขด้วยความ

พึงพอใจของทุกฝ่าย ช่วยลดปริมาณคดีทางการแพทย์ที่จะขึ้นสู่ศาล ซึ่งการฟ้องคดีบุคลากรทางการแพทย์

ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น และศรัทธาของประชาชนที่มีต่อบริการทางการแพทย์ ในขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความมุ่งมั่นในการตั้งใจให้บริการประชาชนอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐและค่าใช้จ่ายของประชาชนในการดำเนินคดีอีกด้วย

และในพิธีเปิดงาน ได้รับเกียรติจากนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีพร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ร่วมถึง ผู้แทนสำนักงานศาลยุติธรรม, ผู้แทนแพทย์สภา, ผู้แทนสภาการพยาบาล, ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการไกล่เกลี่ย สคบ., ผู้บริหารกระรวงสาธารณสุข และตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์ เข้าร่วมงานจำนวนกว่า 300 ท่าน

ตลอดระยะเวลาที่กว่า 20 ปี กระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการหลายรูปแบบเพื่อแก้ไขปัญหาการฟ้องคดีต่อบุคลากรทางการแพทย์ แต่ยังไม่สามารถลดจำนวนการฟ้องคดีได้เท่าที่ควร ด้วยเหตุนี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักมาตรฐานวินัยและระบบคุณธรรม จึงได้ริเริ่มโครงการขับเคลื่อนภารกิจด้านการจัดการความขัดแย้งในระบบสาธารณสุข ตามพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 โดยนำกลไกการไกล่เกลี่ย

ข้อพิพาทตามกฎหมาย มาช่วยในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยสันติวิธี มีกฎหมายรองรับผลการเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อลดปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและถูกฟ้องคดี ลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ลดงบประมาณแผ่นดิน โดยคำนึงถึงความสมัครใจ และความพึงพอใจของคู่กรณีเป็นสำคัญ โครงการนี้ฯ ไม่เพียงแต่จะสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในระบบสาธารณสุขไปสู่ประชาชนในวงกว้าง แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมให้หน่วยบริการทางการแพทย์ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสังคมสันติสุข รวมถึงเพิ่มศักยภาพให้หน่วยบริการด้านการไกล่เกลี่ยสามารถให้บริการได้อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน และเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานให้กับบุคลากรทางการแพทย์ให้เพิ่มขึ้นด้วย 

 กระทรวงสาธารณสุข มั่นใจว่าโครงการนี้ฯ จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสังคมแห่งความสมานฉันท์ และช่วยลดปัญหาความขัดแย้งในระบบสาธารณสุขได้อย่างยั่งยืนในอนาคต พร้อมกับเปิดโอกาสให้ประชาชนและทุกภาคส่วนเข้ามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ระบบสุขภาพที่ดีขึ้น ภายใต้ความสมานฉันท์สำหรับทุกคน


สามารถติดต่อสอบถามและติดตามข่าวสารได้ที่ : 

📌 สำนักมาตรฐานวินัยและระบบคุณธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

โทร 0 2590 2174 หรือ 0 2590 2492

📌Facebook & TikTok : สำนักมาตรฐานวินัยและระบบคุณธรรม

Share:

สจล. พร้อมขับเคลื่อน โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เดินหน้าผลักดัน โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ด้วยองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมการแพทย์ที่สอดคล้องกับความต้องการของสังคมไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็น “ผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลก” ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการแพทย์และสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีรากฐานองค์ความรู้ที่แข็งแกร่ง พร้อมมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะของบุคลากรให้เป็น นักนวัตกรรม นักคิดสร้างสรรค์ และนักปฏิบัติ ที่สามารถนำองค์ความรู้ไปต่อยอดสู่การพัฒนาทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมไทยในอนาคต 

 รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)  กล่าวในพิธีรับมอบอาคารโรงพยาบาลว่า โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างสำเร็จเรียบร้อยแล้วต่อจากนี้คือการขับเคลื่อน และเดินหน้าให้บริการทางด้านการแพทย์ โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ของสังคมไทย สอดรับไปกับเป้าหมายของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลก “The world master of innovation” ซึ่งการจะขับเคลื่อนในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ การสาธารณสุขให้สำเร็จนั้น จำเป็นต้องมีรากฐานขององค์ความรู้ทางด้านการแพทย์สุขภาพที่เข้มแข็ง ซึ่งในวันนี้ สจล. มีความพร้อมอย่างเต็มที่และขับเคลื่อนผ่านบุคลากรคณาจารย์นักวิจัย นักศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทย์ พยาบาลศาสตร์รวมถึงคณะและวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม 

การขับเคลื่อนและการให้บริการโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาให้โรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารเป็นโรงพยาบาลต้นแบบด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ของไทย และเป็นที่พึ่งของชุมชนโดยรอบและพร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และการสาธารณสุขผ่านการวิจัยและองค์ความรู้ที่เข้มแข็ง ต่อไป 

ปัจจุบัน สจล. ได้ผลิตบัณฑิตคณะแพทยศาสตร์สำเร็จเป็นรุ่นแรก พร้อมเดินหน้าพัฒนาองค์ความรู้ทางการแพทย์และสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้ก่อตั้งคณะทันตแพทยศาสตร์และคณะพยาบาลศาสตร์ ซึ่งเตรียมผลิตทันตแพทย์นวัตกรและพยาบาลนวัตกรรุ่นแรกในอีกไม่กี่ปี โดยเฉพาะในด้านการดูแลและส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรองรับสังคมผู้สูงวัยของประเทศ เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี  


โดยที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี พ.ศ.2563 สถาบันได้ดำเนินการก่อตั้งโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร โดยได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากชาวพระจอมเกล้าลาดกระบัง ผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสร้างโรงพยาบาล เป็นเงินบริจาคกว่า 300 ล้านบาท รวมถึงการได้รับสนับสนุนจากภาครัฐด้วยมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในการอนุมัติเงินจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 665.5 ล้านบาท ทำให้สามารถดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลได้สำเร็จเรียบร้อยในวันนี้ โดยมีมูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารในพระสังฆราชูปถัมภ์ นำโดยศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตอธิการบดี สจล. ประธานมูลนิธิ และกรรมการมูลนิธิทุกท่าน ช่วยขับเคลื่อน ด้วย


และในวันรับมอบอาคารโรงพยาบาลฯยังได้รับเกียรติจากท่านเจ้าคุณ พระเทพภาวนาวชิรคุณ เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร มอบเงินจำนวน 50,000,000 บาท (ห้าสิบล้านบาท) ให้กับโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. และรองศาสตราจารย์ นพ.ประเสริฐ ตรีวิจิตรศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร เป็นผู้รับมอบ เพื่อดำเนินการจัดสร้างศูนย์โรคหัวใจสำหรับให้บริการผู้ป่วยต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้อาคารโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร เตรียมพร้อมเปิดทดลองใช้อาคารในเร็ว ๆ นี้ ติดตามรายละเอียดต่าง ๆ ของโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารได้ที่ https://kmch.kmitl.ac.th  และ https://www.facebook.com/KMCHbyKMITL  ติดตามความเคลื่อนไหวของ สจล. ได้ทาง https://www.kmitl.ac.th  และ https://www.facebook.com/kmitlofficial  หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000

   


Share:

เปิดตัวโครงการ “Unleashing the Art of Thai Ghosts วิญญาณแห่งศิลป์ ตำนานท้องถิ่นผีไทย” เปลี่ยนตำนานผีไทยให้กลายเป็นงานศิลป์และคาแรคเตอร์สร้างสรรค์ สู่เวทีระดับโลก

บริษัท ซิกเนเจอร์ มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด ร่วมกับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดตัวโครงการ “Unleashing the Art of Thai Ghosts วิญญาณแห่งศิลป์ ตำนานท้องถิ่นผีไทย” เพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับเรื่องราวลี้ลับของไทย นำตำนานผีท้องถิ่นมาถ่ายทอดผ่านศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ พร้อมเปิดโอกาสให้ศิลปิน นักออกแบบ และผู้ที่สนใจ ได้มีส่วนร่วมในโครงการกับกิจกรรม ประกวดออกแบบคาแรคเตอร์และสินค้าสร้างสรรค์ "Spirit of Art: Thai Ghost Creator" ที่นำตำนานความเชื่อเรื่องผีมาออกแบบใหม่ให้กลายเป็นคาแรคเตอร์ร่วมสมัย สร้างมูลค่าทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ

"ผีไทย" ไม่ใช่เพียงเรื่องเล่าลี้ลับ แต่เป็นรากฐานของวัฒนธรรมและประเพณีที่สะท้อน ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิถีชีวิตและความเชื่อของคนไทย ซึ่งได้รับการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นผ่านนิทานพื้นบ้าน พิธีกรรม และประเพณีต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ยังมีตำนานท้องถิ่นที่น่าสนใจจำนวนมากที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และกำลังจะเลือนหายไป โครงการนี้จึงมุ่งส่งเสริมให้นักออกแบบ นำความเชื่อและเรื่องเล่าผีไทยมาสร้างสรรค์เป็นคาแรคเตอร์และผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ แฟชั่น ของที่ระลึก ของตกแต่ง ในรูปแบบที่เข้ากับยุคสมัย เพื่อสะท้อนเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่และสร้างเป็น Soft Power ที่สามารถนำไปพัฒนาเป็นสินค้า สร้างมูลค่าและเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และขยายไปสู่ตลาดโลกได้

โดยกิจกรรมหลักในโครงการ Unleashing the Art of Thai Ghosts นี้ประกอบด้วย การประกวดออกแบบคาแรคเตอร์และสินค้าสร้างสรรค์ โดยผู้เข้าประกวดสามารถส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม – 17 เมษายน 2568 โดยผลงานที่ได้รับเลือกรอบ 10 อันดับจะได้นำผลงานไป Showcase ที่ศูนย์การค้าไอคอนสยามเป็นระยะเวลา 10 วัน รวมถึงได้เดินทางไปร่วมงาน Symposium เพื่อฟังการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมความเชื่อเรื่องผีและตำนานประจำถิ่น และได้ทำกิจกรรม Workshop ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น    

การประกวดออกแบบคาแรคเตอร์ "Spirit of Thai Ghosts" มีเป้าหมายเพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และสร้างโอกาสให้นักออกแบบไทยได้แสดงศักยภาพสู่ระดับโลก เปิดเวทีให้ศิลปิน นักออกแบบ และนักสร้างสรรค์ได้ใช้ศิลปะและจินตนาการในการเล่าเรื่องราวของผีไทยในมุมมองใหม่ โดยร่วมออกแบบตัวละครผีไทยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องเล่าตำนานความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบที่ร่วมสมัย มีเอกลักษณ์ และสามารถต่อยอดสู่สินค้าทางวัฒนธรรม ที่นอกจากจะเป็นการสืบสาน ต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรมแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับศิลปินไทยอีกด้วย 

ร่วมปลุกตำนานผีไทยให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง!

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และส่งผลงานเข้าประกวดได้ที่: https://thaighosts.com

ติดตามข่าวสารและกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่: Facebook Page Unleashing the Art of Thai Ghosts 

Share:

“แนน ชิดชนก” มั่นใจแฟชั่นผ้าไทยตอบโจทย์ทุกเจนเนอเรชั่นชวนช้อปเป็นของฝากเทศกาลสงกรานต์ในงาน Colors of Burriram 2025

สมกับเป็นอีกหนึ่งบิ๊กอีเว้นท์ของเมือบุรีรัมย์ Colors of Buriram 2025 นิทรรศการจัดแสดงผ้าทอนานาชนิด และงานหัตถกรรมผ้าไทยกว่า 2,000 ชิ้น ที่คัดสรรคจาก 23 อำเภอของจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งตอนนี้ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชน ทั้งคนในพื้นที่ และหลายจังหวัดที่สนใจเข้าร่วมชมงานหลายหมื่นคนต่อวัน 

ในการจัดแสดงผ้าไทยในครั้งนี้ คุณแนน ชิดชนก ชิดชอบ ในฐานะคณะผู้จัดงาน Colors of Burriram ได้เปิดใจการจัดแสดงนิทรรศการ วิวัฒนาการอันพลิ้วไหวของผ้าไหมไทยในโลกแฟชั่นร่วมสมัย โดยเน้นการผสมผสานเข้ากับการออกแบบสมัยใหม่ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และสร้างเสน่ห์ให้กับแฟชั่นยุคปัจจุบัน

รอยเส้นไหมสู่แฟชั่น เมื่อผ้าไหมกลายเป็นแรงบันดาลใจ The Cultivation in Fashion “ในการจัดแสดงโชว์ในห้องที่ 2 นี้ ได้โฟกัสเรื่องแฟชั่นมากขึ้น มาจาก inspire ของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตน์ราชกัญญา ที่ชื่อว่า ”ผ้าไทยใส่ให้สนุก“ ตรงคอนเซ็ปเลยค่ะ เราอยากจะให้คนได้เห็นว่าผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าไทย เป็นลายที่เป็นเอกลักษณ์เหล่านี้ สามารถใส่ในชีวิตประจำวันได้ ให้เหมาะสมกับบริบทของทุกวันนี้มากขึ้น ไม่ใช่แค่ใส่ไปงานบุญ งานบวช เข้าวัด เท่านั้น แต่ยังสามารถใส่เป็นชุดที่ใส่ได้ในชีวิตประจำวัน 

แล้วน้องๆ ที่เราเลือกมาให้ออกแบบ ก็เป็นนักศึกษาจบใหม่ ในคณะแฟชั่น จากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ซึ่งเราก็ให้น้องๆ ได้มาเลือกผ้าจากบุรีรัมย์ทั้งหมด ทำให้เป็นแรงบันดาลใจให้ทั้งผู้ทอผ้า ผู้ตัดเย็บ ในชุมชน แล้วก็อยากให้คนรุ่นใหม่ที่สนใจอยากจะใส่ผ้าไทยมาชม มาเลือกซื้อเป็นของฝากให้ญาติผู้ใหญ่ในเทศกาลสงกรานต์นี้กันได้ค่ะ

ท้ายนี้อยากจะเชิญชวนผู้ที่สนใจทางด้านแฟชั่น หรือการแต่งตัว ได้เข้ามาดูผ้าไทยจริงๆ การออกแบบดีไซน์ผ้าไทยแบบใหม่ๆ จะได้มีแรงบันดาลใจ เราในฐานะคนรุ่นใหม่ จะได้มีแรงผลักดันใส่ผ้าไทยได้ทุกวัน ทุกโอกาส มากขึ้นค่ะ”

ในส่วประชาชนที่เข้าร่วมงาน คุณวันเพ็ญ ชะอุ่มผล ได้กล่าวถึงผ้าไหมไทยในงานอย่างประทับใจ “รู้สึกว่าผ้าไหมแต่ละผืนทำอย่างพิถีพิถัน ทอด้วยความตั้งใจ ส่วนตัวเป็นคนชื่นชอบผ้าไทยอยู่แล้ว พอมาเห็นการออกแบบ เห็นได้ว่าสามารถนำผ้าไทยแต่ละผืน มาประยุกต์การตัดเย็บได้หลากหลายรูปแบบ ที่สามารถใส่ได้อย่างสวยงามค่ะ ก็อยากเชิญชวนพี่น้องจังหวัดใกล้เคียง พี่น้องทั่วประเทศ มาเที่ยวงานนี้กันค่ะ ช่วงสงกรานต์นี้ก็มากันได้ มาชมงาน มาซื้อของฝาก ของที่ระลึกกันค่ะ”

และ คุณสิริกาญจน์ ธรรุกขสนธิ์ ได้กล่าวเสริมว่า ”เดินชมผ้าไทยในงานนี้แล้ว รู้สึกงานนี้โมเดิร์น เหมือนเอาคนยุคเก่ากับคนยุคใหม่มารวมกัน เราก็ค่อนข้างเป็นคนรุ่นเก่านะ เรายังอยากใส่เลย การออกแบบต่างๆสามารถไปต่อได้อีก ชอบมากค่ะ อยากเชิญชวนคนทุกๆวัย ให้มาสวมใส่ผ้าไทยกัน นี่คือความภาคภูมิใจของคนบุรีรัมย์ ใส่ผ้าไทยแล้วมีความสุขค่ะ

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน Colors of Burriram 2025 สามารถ มาชม มาช้อป ได้ที่ สนามฟุตบอล ช้างอารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันนี้เวลา 10.00 - 21.00 น. นอกจากมีผ้าไทย เสื้อผ้าสำเร็จรูปผ้าไทยอีสานใต้ และยังมีร้านดีร้านเด็ด OTOP จากทั่วประเทศ อีกด้วย



Share:

ถนนชีวิตของนักพูด...จะเป็นอย่างไร พบกับผู้กำเนิดทอล์คโชว์"คนแรกของเมืองไทย"ท่านอาจารย์ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์

 

อาจารย์ ทินวัฒน์ มฤคพิกษ์

เรื่อง“ถนนชีวิตของ นักพูด”

-------------------

เข้าสู่ถนนชีวิตของนักพูด...จะเป็นอย่างไร

พบกับผู้กำเนิดทอล์คโชว์"คนแรกของเมืองไทย"ท่านอาจารย์ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ มีลูกศิษย์ทั่วประเทศ มาบรรยายพิเศษเรื่อง "ถนนชีวิตของนักพูด"

(ณ ห้อง Centenary Hall) มูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย

( ทองหล่อ 25 )นับเป็นโอกาสอันทรงคุณอย่างยิ่ง ว่าพรแสวงสู่ถนนชีวิตของนักพูดได้ จึงขอเรียนเชิญทุกท่าน 

(และชักชวนเพื่อน พี่น้อง ลูก หลาน มาพบกัน)


ในวันเวลาและสถานที่ดังกล่าว:-

 พ.อ.พิเศษ เกษม รัตนปราณี

นายกสมาคมฝึกก

ารพูดแห่งประเทศไทย

Share:

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการร่วมมือภาครัฐและเอกชนช่วยเหลือชุมชนอย่างยั่งยืน ระหว่าง องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย(อต.) กับ บริษัท อัครพันธุ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

วันพฤหัสบดีที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 องค์การตลาด สำนักงานใหญ่ (ตลิ่งชัน) 

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการร่วมมือภาครัฐและเอกชนช่วยเหลือชุมชนอย่างยั่งยืนระหว่าง องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย และ บริษัท อัครพันธุ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

กรุงเทพฯ – วันที่ 20 มีนาคม 2568 องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย และบริษัท อัครพันธุ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการร่วมมือภาครัฐและเอกชนเพื่อช่วยเหลือชุมชนอย่างยั่งยืน ณ องค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนและกลุ่มเปราะบาง ผ่านการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนและการสร้างอาชีพ

วัตถุประสงค์สำคัญของความร่วมมือ:ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนและกลุ่มเปราะบางสนับสนุนผลิตภัณฑ์และสินค้าชุมชนผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายสร้างอาชีพและเสริมสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในชุมชน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชน

ขอบเขตความร่วมมือ: ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อสร้างรายได้และโอกาสทางการค้า ตลอดจนการสนับสนุนด้านทรัพยากรบุคลากร และข้อมูลทางเทคนิคที่จำเป็นต่อการดำเนินงาน โดยการบูรณาการกระบวนการพัฒนา

ฐานข้อมูล พัฒนาแพลตฟอร์มการจัดหาสินค้าชุมชน การประชาสัมพันธ์ และการหาช่องทางจัดจำหน่ายไปยัง

ผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมาย ตลอดจนผลักดันให้เกิดการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพและสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน

Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 095 469 4415
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก