DKSH ประเทศไทย เปิดตัว “Mossimo®” แบรนด์สตรีทชื่อดังจากแคลิฟอร์เนียอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

Mossimo® แบรนด์สตรีทชื่อดังระดับโลกจากแคลิฟอร์เนียเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้า Gen Z ผู้ชื่นชอบไลฟ์สไตล์แนวสตรีท รวมถึงผู้ที่หลงใหลในกีฬาเอ็กซ์ตรีม ตั้งเป้าขึ้นแท่นแบรนด์สตรีทแฟชั่นอันดับ 1 ในประเทศไทย

แบรนด์สตรีทอย่าง Mossimo® เริ่มก่อตั้งในยุค 90 และได้รับความนิยมในกลุ่มผู้หลงใหลในแฟชั่นสไตล์สตรีทอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ทุกวันนี้แฟชั่นสไตล์สตรีทได้กลายมาเป็นกระแสหลัก 

Mossimo® จึงได้นำเสนอคอลเลคชั่นที่ผ่านการออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากไลฟ์สไตล์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและสีสัน โดยมีทั้งชุดสไตล์ลำลอง แอคทีฟแวร์ และชุดว่ายน้ำ ทั้งนี้ คอลเลคชั่นต่าง ๆ ถูกออกแบบมาเพื่อเอาใจกลุ่มคนที่รักสตรีทแฟชั่นโดยเฉพาะ

มร. ปีเตอร์ ฮอร์นบี รองประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “Mossimo® เป็นมากกว่าแบรนด์แฟชั่น โดยผ่านการหลอมรวมวัฒนธรรมที่แพร่หลายตลอดสามทศวรรษทางการตื่นรู้ด้านวัฒนธรรม และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในแต่ละยุคสมัย Mossimo® เป็นแบรนด์ที่ครอบคลุมทุกความแตกต่าง ทำให้ดึงดูดผู้คนได้จากหลากหลายไลฟ์สไตล์ เนื่องจากแบรนด์ได้รับแรงบันดาลใจและสร้างขึ้นจากวัฒนธรรมสตรีท และผู้คนที่อยู่ในแวดวงสตรีท ยิ่งไปกว่านั้นแบรนด์ยังช่วยให้ผู้คนสามารถแสดงตัวตนออกมาได้อย่างอิสระมากขึ้น”

บริษัท DKSH (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้นำด้านการให้บริการขยายตลาด มีวิสัยทัศน์การพัฒนาแบรนด์  Mossimo® ในระยะยาว ซึ่งได้วางแผนการสร้างแบรนด์อย่างจริงจังร่วมกับพันธมิตร โดยเปิดโอกาสให้กับแบรนด์และบริษัทได้ร่วมงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งศิลปินไทยและต่างชาติเพื่อก้าวเป็นผู้นำของตลาด ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเปิดโอกาสให้กับศิลปินไทยและศิลปินนานาชาติช่วยพัฒนาเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างโดดเด่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังร่วมสร้างสรรค์และจัดกิจกรรมมากมายเพื่อช่วยขับเคลื่อน Mossimo®  ให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น”


ภายในงาน “The Element Competition by Mossimo®”
ถือเป็นศูนย์รวมความเชื่อมโยงจิตวิญญาณและความเชี่ยวชาญของเหล่าคนที่มีไลฟ์สไตล์แบบสตรีท ตลอดจนเป็นเวทีที่เปิดโอกาสใหรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถในรูปแบบการแสดงต่าง ๆ ทางศิลปะ ทั้งการเต้น สตรีทอาร์ท และการเล่นสเก็ตบอร์ด ผ่านการแข่งขันที่ได้นำองค์ประกอบทั้งหมดเหล่านี้มาผนวกกัน


งาน “The Element Competition by Mossimo®” จัดขึ้นที่ Mossimo® แฟล็กชิพสโตร์ สาขาเมกาบางนา  โดยมี 2 อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้แก่ หนุ่มหล่อมาดเซอร์ เฟย-ภัทร เอกแสงกุล และยูทูปเบอร์สาวฮอต 

นัตตี้-นันทนัท ฐกัดกุล มาร่วมพูดคุยและสัมผัสประสบการณ์งานแข่งขันที่เปิดพื้นที่ให้ชาวสตรีทออกมาแสดงตัวตนและความสามารถอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีอินฟลูเอนเซอร์อีกหลากหลายท่านที่มาร่วมเติมสีสันให้กับงาน นำโดย ธีระยุทธ พืชเพ็ญ หรือ เติ้ล (TRK) ศิลปินชื่อดัง โจเซฟ – สิรินัฎฐ์ อภิจันทร์เดช โปรสเก็ตบอร์ด และ ป๊อป-อภิวัฒน์ ชินอักษร หรือที่รู้จักในนาม SIRPOPPA แห่งวง J$R ที่จะมาเพิ่มอรรถรสให้กับงาน 

การแข่งขันได้แบ่งออกเป็น 3 Elements ซึ่งเป็นอัตลักษณ์โดดเด่นของโลกสตรีท ได้แก่ การแข่งขันสเก็ตบอร์ด (Skateboard) การแข่งขันเต้นแบบฟรีสไตล์ (Open Style Dance Battle) และ การแข่งขันศิลปะ (Art) 

“The Element Competition by Mossimo®” เปิดรับสมัครผ่านระบบออดิชันออนไลน์ สำหรับผู้ที่สนใจสมัครสามารถลงทะเบียนได้ที่ www.mossimoth.com พร้อมโพสต์ผลงานหรือคลิปวิดีโอลงในช่องทางโซเชียลมีเดีย 

สำหรับกฏและกติกาในแต่ละการแข่งขันสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิมเติมได้จากเว็บไซต์ ผู้ชนะการแข่งขันจะมีโอกาสได้รับเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท และยังได้รับการสนับสนุนเสื้อผ้าจากทางแบรนด์ Mossimo® รวมถึงโอกาสในการร่วมออกแบบคอลเลคชั่นพิเศษกับทางแบรนด์อีกด้วย

ร่วมสัมผัสจิตวิญญาณชาวสตรีทไปกับ Mossimo® ได้แล้ววันนี้ที่ Mossimo® ทุกสาขา ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: MossimoTH, Instagram: MossimoTH และ LINE: @ MossimoTH พร้อมช้อปออนไลน์ได้ที่ https://www.mossimo.co.th

Share:

ท่องโลกในจินตนาการของคุณไปกับนิทรรศการภาพจาก Artstory by Autistic Thai ที่โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ – 11 พฤษภาคม 2565: โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ ขอเชิญท่านมาสัมผัสโลกในจิตนาการของน้องออทิสติก ที่สื่อสารออกมาทางภาพวาดบนผืนผ้าใบ ภายใต้ความคิด Forest in our imagination ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 กรกฎาคม 2565

Artstory By Autistic Thai คือโครงการของมูลนิธิออทิสติกไทย ซึ่งใช้ศิลปะเข้ามาบำบัดและสร้างอาชีพให้กับเด็กออทิสติกในโครงการ ร่วมกันรังสรรค์ด้วยพรสวรรค์และจินตนาการผ่านผลงานศิลปะ สู่ผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ โดยการสนับสนุนของศูนย์ฝึกอาชีพออทิสติกไทย ที่มุ่งมั่นส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กพิเศษอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน กล่าวโดยคุณวรัท จันทยานนท์, ผู้อำนวยการ Artstory by Autistic Thai ผลงานทุกชิ้นเกิดจากจินตนาการณ์ของน้องๆ ที่พวกเค้ามีมุมมองของสัตว์แตกต่างจากสัตว์บนโลก เค้ามองว่าสัตว์พวกนี้ จะไม่ดุร้าย และเป็นเพื่อนที่ดีให้กับมนุษย์อย่างเรา อีกทั้งยังใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับพวกเราได้อีกด้วย

เรเชล เดวิดสัน, ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ และดับเบิ้ลทรี บายฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ กล่าว “ดิฉันและทีมงานมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสและให้พื้นที่น้องๆได้แสดงผลงานที่สร้างสรรค์ของพวกเค้า และสนับสนุนผลิตภัณท์ของพวกเค้าด้วย ซึ่งรายได้จากการขายสินค้าทั้งหมดจะถูกนำเข้ามูลนิธิออทิสติก แห่งประเทศไทย” 

“ถือเป็นโอกาสที่ดีที่แขกผู้เข้าพักหรือผู้ใช้บริการโรงแรมจะได้ร่วมสัมผัสบรรยากาศพิเศษนี้ ทั้งนี้ ทางโรงแรมได้ออกแบบอาหารและเครื่องดื่มที่เข้ากันกับนิทรรศการครั้งนี้ด้วย ที่ห้องอาหารมอนโด” กล่าวเสริมโดนคุณเรเชล  

โดยนิทรรศการจะเปิดให้ชมตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม ถึง 31 กรกฎาคม 2565 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย บริเวณล้อบบี้ของโรงแรมและห้องอาหารมอนโด พบกับ pop-up store ของ Artstory ได้ที่บริเวณล้อบบี้ในวันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน 2565 ตลอดทั้งวัน

ห้องอาหารมอนโดตั้งอยู่ที่ชั้นล็อบบี้ โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ ซอยสุขุมวิท 24 (สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์) มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มมากมาย พร้อมให้บริการตลอดทั้งวัน

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ 02 620 6666 หรืออีเมล์ bkksu.fb@hilton.com, Line ID @hiltonskbkk


Share:

บำรุงราษฎร์ เปิดตัว Radiology AI ปัญญาประดิษฐ์ทางรังสีวิทยา ผู้ช่วยรังสีแพทย์ในการวิเคราะห์ และระบุตำแหน่งภาวะความผิดปกติของปอด – มะเร็งเต้านม

 

ปัจจุบันเรียกได้ว่ากระแสของปัญญาประดิษฐ์ Artificial intelligence (AI) ถือเป็นเทคโนโลยีที่ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสนใจและจับตามอง จนทุกวันนี้ AI ได้เข้ามามีส่วนสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่จำนวนมหาศาล เพื่อช่วยพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ และเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ในหลากหลายด้านมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือด้านการแพทย์ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า AI ถือเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับทางการแพทย์ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น    

โดยในงานแถลงข่าว The Evolution of Medical Imaging Technology เภสัชกรหญิงอาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์และทิศทางของบำรุงราษฎร์ ที่มุ่งให้ความสำคัญด้านนวัตกรรมทางการแพทย์มาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา บำรุงราษฎร์ได้เปิดรับเอานวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เหมาะสมเข้ามาใช้ในโรงพยาบาลเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ  ทั้งในส่วนของการศึกษาวิจัย และการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงเข้ามาใช้ โดยเฉพาะเรื่อง AI, Big Data, การศึกษาเกี่ยวกับยีน (Genomics) และ การส่งเสริมสุขภาพเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Wellness)  เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อทั้งแพทย์ผู้ให้การรักษา บุคลากรทางการแพทย์ สหสาขาวิชาชีพ ในการบริบาลผู้ป่วยอย่างครอบคลุมทุกมิติในทุกกระบวนการของการรักษาเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นสำคัญ

สำหรับการนำ AI มาใช้ในด้านรังสีวิทยาที่บำรุงราษฎร์นั้น ถือว่ามีความโดดเด่นมาก เนื่องจากมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นแผนกแรก ๆ ในโรงพยาบาล เรียกได้ว่า ‘รังสีแพทย์’ เป็นแถวหน้าด้านการแพทย์ในยุคดิจิทัล ซึ่งหากมองย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 2543 หรือ 22 ปีก่อน บำรุงราษฎร์ได้เริ่มใช้งานระบบ Picture Archiving and Communication System (PACS) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการจัดเก็บรูปภาพทางการแพทย์ (Medical Images) หรือภาพถ่ายทางรังสี โดยมีการรับส่งข้อมูลภาพในรูปแบบดิจิทัลเป็นครั้งแรก ต่อมาในปี 2544 นับเป็นปีแรกที่เริ่มนำเทคโนโลยีการถ่ายภาพแบบ Computed Radiography คือการใช้แผ่นรับภาพหรือเรียกว่า image plate แทนการใช้ฟิล์ม โดยมีเครื่องอ่านภาพ (image reader) เพื่ออ่านข้อมูลบนแผ่นก่อนนำส่งผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยแพทย์สามารถอ่านผลได้ทั้งการสั่งพิมพ์ฟิล์มหรือบนคอมพิวเตอร์และต่อมาในปี 2550 ได้พัฒนาเป็นดิจิตัลเต็มรูปแบบ โดยใช้ระบบเซ็นเซอร์หรือตัวรับภาพขนาดใหญ่ (detector) แทนการใช้แผ่นรับภาพแบบเดิม โดยประมวลผลและทราบผลภาพในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์อ่านข้อมูล 

นพ. อลงกรณ์ เกียรติดิลกรัฐ รองหัวหน้าแผนกรังสีวิทยา และแพทย์ชำนาญการด้านรังสีวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า “ล่าสุด บำรุงราษฎร์ได้มีการนำ Radiology AI ปัญญาประดิษฐ์ทางรังสีวิทยาเข้ามาใช้ในโรงพยาบาล เสมือนเป็นผู้ช่วยรังสีแพทย์ทั้งในส่วนของการคัดกรอง การวิเคราะห์ และการวินิจฉัย พร้อมระบุตำแหน่งภาวะความผิดปกติของปอด และมะเร็งเต้านมระยะแรกเริ่ม โดย Radiology AI ถือเป็น Deep Learning AI ซึ่งเป็นโมเดลการเรียนรู้ในเชิงลึก เป็นอัลกอรึทึมที่ใช้โครงข่ายใยประสาทเสมือน ด้วยการเลียนแบบการทำงานระบบประสาทของมนุษย์ที่มีเซลล์ประสาทเชื่อมต่อกัน ฉะนั้น Radiology AI จะสื่อสารโดยการประมวลผลที่ละเอียดลึกซึ้งกว่า Machine Learning รวมถึงสามารถประมวลผลต่อได้เอง ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาในปี 2564 ที่สำคัญ Radiology AI มีความล้ำทันสมัยในการวินิจฉัย มีความเสถียร แม่นยำ และรวดเร็ว ด้วยการใช้ Microsoft Azure แพลตฟอร์มคลาวด์คอมพิวติ้ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลก  

ทั้งนี้ บำรุงราษฎร์ได้ใช้เทคโนโลยี Radiology AI ในศูนย์ตรวจสุขภาพ แผนกผู้ป่วยวิกฤต (ICU)  แผนกฉุกเฉิน และแผนกอื่น ๆ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. Radiology INSIGHT CXR จะใช้ในการวิเคราะห์ภาพเอ็กซ์เรย์ทรวงอก เฉลี่ย 100,000 ภาพต่อปี และ 2. Radiology INSIGHT MMG จะใช้วิเคราะห์มะเร็งเต้านมจากภาพถ่ายแมมโมแกรม โดยบำรุงราษฎร์มุ่งหวังที่จะส่งมอบการบริการแก่ผู้ป่วยอย่างมีคุณค่าที่สุด โดยการตรวจหามะเร็งในเวลาที่เหมาะสมเพื่อความสำเร็จในการรักษา ซึ่งนอกจากความชำนาญการและประสบการณ์ของรังสีแพทย์แล้ว Radiology AI ยังมีส่วนช่วยสนับสนุนให้บำรุงราษฎร์ขับเคลื่อนนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ก้าวล้ำสู่ระดับโลกอีกด้วย

พญ. พัชรี ประสิทธิ์วรนันท์ แพทย์ชำนาญการด้านรังสีวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า “จากข้อมูลสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ในปี 2563 พบหญิงไทยป่วยด้วยมะเร็งเต้านมรายใหม่ ประมาณ 18,000 คนต่อปี และมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็งเต้านม ประมาณ 4,800 คน หรือเฉลี่ย 13 คนต่อวัน ซึ่งมะเร็งเต้านมเป็นอันดับหนึ่งของมะเร็งที่พบบ่อยในผู้หญิงไทยและจากรายงานยังมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ฉะนั้นผู้หญิงในวัย 40 ปีขึ้นไป จึงควรเข้ารับการตรวจแมมโมแกรมเป็นประจำทุกปี ปัจจุบันบำรุงราษฎร์มีการนำปัญญาประดิษฐ์สำหรับแมมโมแกรม หรือ Radiology INSIGHT MMG ซึ่งมีส่วนช่วยในการคัดกรอง วิเคราะห์ และวินิจฉัยมะเร็งเต้านมบนภาพถ่ายแมมโมแกรม โดยก่อนหน้านี้ รังสีแพทย์ก็มีการอ่าน แปลผล วิเคราะห์ และวินิจฉัยโรคจากภาพถ่ายต่างๆ อยู่แล้ว แต่การนำ AI เข้ามาใช้ทางการแพทย์นั้น ก็เสมือนมีผู้ช่วย มาช่วยวิเคราะห์ โดยในส่วนนี้เองจะช่วยเพิ่มความรอบคอบให้กับแพทย์ได้มากขึ้น ทั้งนี้ รังสีแพทย์จะนำผลของ Radiology AI มาประกอบการวินิจฉัย มะเร็งเต้านมหากได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม และเริ่มการรักษาอย่างเหมาะสมทันท่วงที ก็จะทำให้ผู้ป่วยมีอัตราการรอดชีวิต 5 ปี สูงถึง 99% แต่หากวินิจฉัยช้า ทำให้อัตราการรอดชีวิต 5 ปี จะลดลงเหลือ 86% ลงมาจนถึง 29% ตามระยะของมะเร็งที่สูงขึ้น ดังนั้น หากตรวจพบเร็วจะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยได้มากขึ้น”

ด้าน นพ. กุรุวินท์ ลิ้มสมุทรเพชร แพทย์ชำนาญการด้านรังสีวิทยา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวถึงปัญญาประดิษฐ์สำหรับการเอกซเรย์ปอด หรือ Radiology INSIGHT CXR เสมือนเป็นผู้ช่วยรังสีแพทย์ในการตรวจหาภาวะความผิดปกติของภาพเอกซเรย์ปอด เช่น ก้อนมะเร็งปอด ซึ่งรวมถึงจุดเล็กๆ ในตำแหน่งที่ยากต่อการวินิจฉัย วัณโรคในระยะที่แสดงอาการ รวมถึงช่วยวินิจฉัยภาวะฉุกเฉินได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่น ภาวะลมรั่วในปอด ซึ่งหากเกิดลมรั่วน้อยๆ ผู้ป่วยบางรายอาจยังไม่แสดงอาการใด ๆ หรืออาจมาด้วยอาการเจ็บหน้าอก แต่หากรังสีแพทย์สามารถวินิจฉัยได้เร็วและทราบผลตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะทำให้ผู้ป่วยไม่พลาดโอกาสในการรักษา โดยมีงานวิจัยพบว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด หากได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม จะทำให้มีอัตราการรอดชีวิต 5 ปี ถึง 73% แต่หากวินิจฉัยช้า อัตราการรอดชีวิต 5 ปีจะเหลือเพียง 18% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม Radiology AI  ไม่ได้เข้ามาเพื่อทดแทนที่รังสีแพทย์ แต่จะเป็นเครื่องมือสนับสนุนสำหรับกระบวนการวินิจฉัยและตัดสินใจของรังสีแพทย์ โดยจะเป็นรูปแบบการให้ “ความเห็นที่สอง” (Second Opinion) ซึ่งจากผลการสำรวจความคิดเห็นของรังสีแพทย์ส่วนใหญ่มากกว่า 60% ระบุว่าได้รับประโยชน์จากการนำ Radiology AI  มาใช้ในการช่วยวิเคราะห์ภาพเอกซเรย์ปอด สำหรับในส่วนของซอฟต์แวร์ Radiology AI นั้น ยังมีโอกาสการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกัน ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของรังสีแพทย์ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ มีความสำคัญและมีส่วนช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของ Radiology AI ให้ดียิ่งขึ้นแก่บริษัทผู้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ นอกจากนี้ Radiology AI นี้ ยังช่วยเสริมให้การทำงานร่วมกันระหว่างรังสีแพทย์, AI และแพทย์ผู้รักษาผู้ป่วย มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลในการรักษาสูงสุดต่อผู้ป่วย อีกทั้งยังเป็นตัวเร่งการเรียนรู้ของรังสีแพทย์รุ่นใหม่ ๆ ในเวลาจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

นพ. อลงกรณ์ เกียรติดิลกรัฐ กล่าวปิดท้ายถึงความร่วมมือในอนาคต บำรุงราษฎร์มีแนวโน้มที่จะร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนา Radiology AI ในประเทศเกาหลีใต้ และโรงพยาบาลชั้นนำ 20 แห่งทั่วโลก เพื่อร่วมกันพัฒนา Radiology AI เพื่อให้มีความฉลาดมากยิ่งขึ้น ตรวจพบโรคได้เร็วขึ้น มีความแม่นยำมากขึ้น และสามารถขยายขอบข่ายการทำงานในการตรวจวินิจฉัยโรคให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยแนวทางความร่วมมือนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอย่างมากต่อระบบการแพทย์ยุคใหม่ ซึ่ง AI ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะยกระดับความสำเร็จให้กับวงการแพทย์ในทุกภาคส่วน อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้คนทั่วโลกอีกด้วย  

Share:

GIT จัดแถลงข่าว เปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่ ยก GIT Standard สู่ระดับมาตรฐาน ดันอุตสาหกรรมกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย แข่งขันเวทีโลกอย่างยั่งยืน

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT เปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่ จัดงาน GIT Open House โชว์ศักยภาพงานบริการ มุ่งมั่นสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นเลิศให้อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย (Creating Trust and  Excellence) พร้อมเปิดตัว GIT Standard ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับให้แข่งขันได้ในเวทีโลกอย่างยั่งยืน 

นายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบัน กล่าวว่า สถาบันได้จัดกิจกรรม GIT Open House เพื่อเปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่ มุ่งมั่นสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นเลิศให้อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย (Creating Trust and  Excellence) โดย GIT ได้มีการออกแบบและใช้โลโก้ใหม่ที่สะท้อนภาพลักษณ์ที่ทันสมัย จดจำง่ายและเป็นสากล 

โดยการออกแบบโลโก้สื่อความหมายถึงภารกิจหลัก 6 ประการ ได้แก่ 

1. การเป็นผู้วิเคราะห์ ตรวจสอบ และกำหนดมาตรฐานด้านต่างๆ ในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ 
2. การเป็นผู้นำด้านมาตรฐานการตรวจสอบและออกใบรับรองคุณภาพอัญมณีและเครื่องประดับ 
3. การเป็นผู้ วิจัย และ พัฒนาระบบฐานข้อมูลอัญมณีและเครื่องประดับ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทย 
4. การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการอัญมณีและเครื่องประดับในทุกภาคส่วน 
5. การเป็นสถาบันหลักของชาติ และการมีห้องปฏิบัติการที่มีคุณภาพและมาตรฐานในระดับสากล 
6. การเป็นศูนย์กลางในการร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

โดยสัญลักษณ์ที่ใช้เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด (Diamond Shape) ที่สะท้อนถึงการเจียระไน ความเฉียบคม  และความเป็นไทย จัดเรียงในรูปแบบแนวคลื่นที่สื่อให้เห็นถึงความพร้อมที่จะขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยอย่างไม่หยุดยั้ง

กิจกรรม GIT Open House ไม่เพียงแต่เปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดตัว GIT Standard มาตรฐานห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณี เครื่องประดับและโลหะมีค่า ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับในประเทศให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากลโดยใช้ GIT Standard ประกอบด้วย 

1. มาตรฐานด้านอัญมณีและเครื่องประดับ 
2. มาตรฐานด้านโลหะมีค่า 
3. มาตรฐานด้านบุคลากรของห้องปฏิบัติการ 

นอกจากนี้ สถาบันยังผลักดันให้มีการนำมาตรฐานไปใช้กับห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับห้องปฏิบัติการในทุกด้าน 

ภายในงานยังมีการแนะนำนวัตกรรมในงานบริการต่างๆ ของสถาบัน ได้แก่ การพัฒนามาตรฐานสีสำหรับทับทิม ไพลิน และพัดพารัชชา ซึ่งเป็นอัญมณีที่สำคัญและได้รับความนิยมในตลาด การพัฒนา AI เพื่อระบุแหล่งกำเนิด (Origin Determination) สำหรับพลอยคอรันดัมและอัญมณีอื่นๆ ที่สำคัญ เพื่อสามารถให้บริการตรวจสอบที่รวดเร็วและแม่นยำ การแนะนำระบบฐานข้อมูลวิชาการและศูนย์เรียนรู้ด้วยตนเองที่เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ด้านอัญมณีและเครื่องประดับอย่างครบวงจร มีทรัพยากรสารสนเทศในรูปแบบสิ่งพิมพ์ และสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ ที่พร้อมที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย 

ศูนย์ฝึกอบรมที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมเนื้อหาครอบคลุมทุกมิติในธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ ทั้งรูปแบบ Online และ Onsite นอกจากนี้ ยังมีผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการด้านต่างๆ อาทิ นักอัญมณีศาสตร์ นักวิชาการโลหะมีค่า นักออกแบบ ได้ร่วมพูดคุยให้คำแนะนำกับผู้ที่เข้าร่วมงาน


การจัดกิจกรรมในวันนี้ จะมีส่วนช่วยในการต่อยอดธุรกิจและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทย  ซึ่งเราชาว GIT ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักของประเทศด้านอัญมณีและเครื่องประดับ จะมุ่งมั่นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และเป็นเลิศให้อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทย (Creating Trust and Excellence) ในฐานะศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับโลกอย่างยั่งยืนต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง นายสุเมธ กล่าวปิดท้าย

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02 634 4999 ต่อ 635-642

Share:

15 จี-เอิร์นนิ่ง เปิดตัวผู้ชนะ The 15 Game Idols Project สร้างปรากฏการณ์ “เปลี่ยนการเล่นเกม ให้เป็นอาชีพ สู่รากฐานใหม่ทางสังคม”

สิ้นสุดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับงานแถลงข่าวเปิดตัว บริษัท 15 จี-เอิร์นนิ่ง จำกัด โดยมี             ดร.ภัฏฐกรณ์ วรายนต์พินิจ ผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง นั่งแท่นบริหาร สร้างปรากฏการณ์ เขย่าวงการเกมส์   ด้วยการจัดกิจกรรม “The 15 Game Idols Project” เฟ้นหา Presenters, KOLs และ Gamers ที่อยากมีรายได้ ด้วยการ “เปลี่ยนการเล่นเกม ให้เป็นอาชีพ สู่รากฐานใหม่ทางสังคม” ผ่านแพลตฟอร์มสร้างอาชีพในอนาคต ซึ่งจะมีเกมท้าทายความสามารถมากมายให้เหล่า GAMERS คนเก่งได้เข้ามาประลองฝีมือ นอกจากจะสนุกแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง และยั่งยืนไปพร้อมๆกันได้ด้วย โดยงานแถลงข่าวได้จัดขึ้นไปเมื่อ วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ณ The Street รัชดา บริเวณ E-Sport Arena ชั้น 5

ภายในงาน ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน และ GAMERS กว่า 300 ชีวิต ที่ให้ความสนใจในการ        สร้างอาชีพจากการเล่นเกมให้มีรายได้อย่างยั่งยืน รวมถึงนักลงทุนที่สนใจธุรกิจ NFT & GAMEFi อาทิ อ.ศุภณัฐ จินตวัฒน์สกุล หัวหน้าสาขาคอมพิวเตอร์เกมและอีสปอร์ต มหาวิทยาลัยรังสิต, คุณพราวทัศน์ อริยพัฒน์ดำรงด์ CTO บริษัท 15จี-เอิร์นนิ่ง จำกัด, คุณกัณจ์ พัฒนเสรี ผู้บริหาร บริษัท เก็ทฟิน จำกัด, คุณบวรรัตน์ กาญจนรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท 15จี-เอิร์นนิ่ง จำกัด, คุณอภิชัย เรืองศิริปิยะกุล CEO บริษัท บริษัท เทโรซอฟท์ แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด, คุณอุมาพร อรรคทัย รองประธานกรรมการ บริษัท 15จี-เอิร์นนิ่ง จำกัด, ดร.ภัฏฐกรณ์  วรายนต์พินิจ COO บริษัท 15จี-เอิร์นนิ่ง จำกัด และ อาจารย์สุเมธ ผ่องพรรณแข รองคณบดีฝ่ายวางแผนและสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยรังสิต 

นอกจากนี้ ยังมีการประกาศผู้ชนะการแข่งขันจากกิจกรรม “The 15 Game Idols Project”  ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้หลายคนคงจับตามองว่าพรีเซ็นเตอร์กลุ่มนี้จะพาวงการเกมไปได้ไกลและสร้างรายได้ได้มากมายขนาดไหน คงต้องรอติดตาม  

สำหรับผู้ที่สนใจอยากมีรายได้อย่างยั่งยืน จากการเล่นเกมพร้อมต่อยอดอาชีพในอนาคต สามารถเข้ามาสมัครได้ที่ www.15g-earning.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ FB: 15G-EARNING ,LINE OFFICIAL : @15G-EARNING

Share:

InterContinental Hotels & Resorts จับมือ “Claire Luxton” เปิดตัวห้องสวีทสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 30 พฤษภาคม 2565: InterContinental Hotels & Resorts ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ IHG Hotels & Resorts Luxury and Lifestyle Collection ได้ร่วมมือกับศิลปินชื่อดังชาวอังกฤษอย่าง Claire Luxton เนรมิตประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟที่ InterContinental London Park Lane, InterContinental New York Barclay และ InterContinental Dubai Festival City ในการร่วมเฉลิมฉลองความสวยงามของโลกและความมหัศจรรย์ของการเดินทางในมุมมองของ Claire Luxton ซึ่งจะเปิดจองห้องพักตั้งแต่วันนี้จนถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2565 

ผู้เข้าพักจะได้สัมผัสประสบการณ์ Claire Luxton ที่โรงแรม InterContinental ตามมหานครที่มีชื่อเสียงของโลก ซึ่งถูกออกแบบและถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน จนกลายเป็น InterContinental Hotels & Resorts ในแบบฉบับที่เป็นเอกลักษณ์และตัวตนของศิลปิน ด้วยแรงบรรดาลใจจากการเดินทางรอบโลก เธอได้เนรมิตห้องสวีทให้มีชีวิตชีวาด้วยเอกลักษณ์ทางธรรมชาติของสัตว์และพันธุ์ไม้ตามสไตล์การวาดรูป ผสมผสานกับประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสและรายละเอียดต่างๆ ที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเธอ เช่น งานศิลปะที่สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ เฟอร์นิเจอร์นุ่มๆ และผีเสื้อยักษ์สายพันธ์ Purple Emperor และ Emerald Swallowtail ที่ห้อยลงมาจากเพดาน ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของโรงแรม InterContinental ที่ประเทศญี่ปุ่นและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ประสบการณ์การอาบน้ำที่มาพร้อมกับการฟังเสียงจากธรรมชาติรอบตัวและกลิ่นอายความหอมจากดอกกล้วยไม้ในตระกูล Boat Orchid อันน่าหลงไหล เพื่อบอกเล่าถึงโรงแรม InterContinental กว่า 50 แห่งทั่วประเทศจีน นอกจากนี้ห้องสวีท Claire Luxton Experience ยังมาพร้อมกับมินิบาร์ที่รวบรวมเครื่องดื่มและของว่างจากจุดหมายปลายทาง InterContinental จากนานาประเทศทั่วโลก อย่างบราซิลและฝรั่งเศสพร้อมเพลย์ลิสต์และหนังสือโต๊ะกาแฟที่สะท้อนถึงการเดินทางของ Luxton

Claire Luxton กล่าวว่า “ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับ InterContinental Hotels & Resorts อีกครั้ง โดยครั้งนี้ฉันได้ตีความเรื่องราวของแบรนด์ในเรื่องความเจนโลก การเดินทางทั่วโลกเป็นแรงบันดาลใจให้งานของฉัน และฉันหวังว่ามันจะเปล่งประกายในทุกๆรายละเอียด ตั้งแต่ดอกไม้ในห้องโถงและผ้าพันคอที่ออกแบบโดยทีมงานของโรงแรม ไปจนถึงประสบการณ์การอาบน้ำที่ย้อนกลับไปในอดีต ดอกไม้นานาพันธ์และสัตว์ต่างๆ ในงานของฉันที่ InterContinental สะท้อนถึงโรงแรมหรือรีสอร์ททั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต โดยการออกแบบห้องสวีทและประสบการณ์เหล่านี้ ฉันพยายามที่จะสำรวจความสมดุลที่ละเอียดอ่อนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติพร้อมกับเฉลิมฉลองความมหัศจรรย์แห่งการท่องเที่ยว”

นอกจากนี้ Luxton ยังได้มีส่วนร่วมในการออกแบบส่วนอื่นๆ ของโรงแรม เช่น:

• โซนล็อบบี้ที่ถูกแปลงโฉมด้วยผีเสื้อและดอกไม้ที่ประดับประดาไปด้วยสีสันเพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อสถานที่ที่โดดเด่นของของ InterContinental ทั่วโลก โดย InterContinental London Park Lane ได้ร่วมมือกับ Moyses Stevens ซึ่งเป็นร้านดอกไม้ประจำของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เพื่อนำเสนอความงามของชนบทในอังกฤษและเฉลิมฉลอง InterContinental Park Lane ในฐานะบ้านในวัยเด็กของพระองค์

• InterContinental New York Barclay และ Dubai Festival City มีบริการอาหารและเครื่องดื่มที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Claire Luxton รวมทั้งค็อกเทล ม็อกเทล และน้ำชายามบ่ายที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี

• นอกจากนี้ยังมีการคัดสรรอุปกรณ์เครื่องแบบของพนักงานโรงแรมให้สวมผ้าพันคอไหมลายดอกไม้และกระเป๋าสี่เหลี่ยมที่มีนกยูงอินเดีย ที่เป็นการระลึกถึง InterContinental Chennai Mahabalipuram Resort ที่ประเทศอินเดีย

• Claire Luxton ยังสร้างฟิลเตอร์ Instagram สุดพิเศษจากองค์ประกอบของงานศิลปะที่ได้รับมอบหมายจาก InterContinental

ความร่วมมือกับ Claire Luxton ในครั้งนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อการเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีของแบรนด์ ในเดือนธันวาคมนี้ Claire Luxton ได้สร้างรูปประกอบสำหรับฉายบนด้านหน้าของ InterContinental London Park Lane ซึ่งเป็นผลงานศิลปะที่บรรยายการเดินทางทั่วโลกของแบรนด์โรงแรมหรูผู้บุกเบิก โดยเริ่มต้นจากลวดลายนกแก้วมาคอว์สีน้ำเงินและสีเหลือง ซึ่งเปรียบเป็นตัวแทนของโรงแรม InterContinental แห่งแรกในเมืองเบเลม ประเทศบราซิล ไปจนถึงโรงแรม Moluccella Mediterranean ที่ตอกย้ำความสำเร็จของแบรนด์ในการขยายพอร์ตโฟลิโอในประเทศอิตาลี และจบลงที่ InterContinental Rome Ambasciatori Palace ที่กำลังจะเปิดตัวในปลายปีนี้

Tom Rowntree รองประธานฝ่ายการตลาดฝ่ายลักซ์ชัวรี่แบรนด์ของ IHG Hotels & Resorts กล่าวว่า: “InterContinental สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักเดินทางทั่วโลก ด้วยการนำประสบการณ์ความหรูหรามาให้ทั่วทุกมุมโลกได้สัมผัสมานานกว่า 75 ปี ถึงตอนนี้เรายังคงมองหาความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพื่อส่งมอบความหรูหราในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนให้กับแขกของเรา รวมถึงผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง โดยเริ่มจากการร่วมมือกับ Claire Luxton ศิลปินมากความสามารถที่ใช้ประสบการณ์การเดินทางทั่วโลกของเธอ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดมรดกอันยาวนานและจิตวิญญาณของแบรนด์ ผลลัพธ์ที่ได้คือประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งรวบรวมความสง่างามของจุดหมายปลายทางต่างๆ ของ InterContinental”

Claire Luxton Experience เปิดให้จองแล้ววันนี้ที่ InterContinental London Park Lane, InterContinental New York The Barclay และ InterContinental Dubai Festival City ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2565 ราคาที่ InterContinental London Park Lane เริ่มต้นที่ 3,950 ปอนด์ พร้อมรับคะแนนผ่านโปรแกรม IHG One Rewards โฉมใหม่ ผู้สนใจสามารถทำการจองได้ที่นี่

Share:

ททท.กระตุ้นเที่ยวภาคกลางหวังเงินสะพัด 6 แสนล้าน


ททท. ภูมิภาคภาคกลาง เปิดตัวโครงการ "Central See You เสน่ห์กลางใจ" ส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคกลางในรูปแบบแคมป์ปิ้ง เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่​ ​ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ 

โดยนางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง เป็นประธานในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ “Central See You เสน่ห์กลางใจ” กระตุ้นการเดินทางด้วยกระแสนิยมแห่งเทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ตอบโจทย์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่เน้นออกเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ เป็นการท่องเที่ยวมิติใหม่แบบแคมป์ปิ้ง
โดยจัดกิจกรรม “Bliss Camp เพิ่มพลังชีวิต ติดธรรมชาติ” ระหว่างวันที่ 24- 26 มิถุนายน ณ แก่งลานรัก สระบุรี ภายในงานมีการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น กิจกรรมเด็ด 17 จังหวัดภาคกลาง, กิจกรรมสาธิต ใช้ชีวิตแคมป์ปิ้ง, ร้านค้าชุมชน อาหารและเครื่องดื่ม
ทั้งนี้ ททท. หวังว่า การจัดงานครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ กระตุ้นอัตราการจ้างงาน เพิ่มการพักค้าง และสร้างรายได้หมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ ตลอดจนผลักดันเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวไทย ปี 2565 อยู่ที่ 160 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ 626,000 ล้านบาท นำสู่การขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้กลับมาเดินหน้าอย่างเต็มกำลังอีกครั้ง


Share:

งาน "รางวัลมณีเมขลา 2565" สุดปัง! เปิดตัว "พิงกี้ สาวิกา" นางมณีเมขลา

นายชาตรี ศรียาภัย นายกสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย และ นายมานิต สมมาตร ประธานผู้อำนวยการโครงการของสมาคม ได้จัดงานแถลงข่าวการประกาศผลรางวัลมณีเมขลา ครั้งที่ 3 ประจำปี พ.ศ.2565 ณ หอประชุมใหญ่ โทรคมนาคมแห่งชาติ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ โดยมีทัพดารา นักแสดงเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

 ทั้งนี้ รายนามศิลปินดารานักแสดงผู้เข้าชิงรางวัลสำคัญ สำหรับปีนี้ มีด้วยกันถึง 4 รางวัลมหานิยมในสาขาละครประกอบด้วย 1.ดาราชายมหานิยมมหาชน 2.ดาราหญิงมหานิยมมหาชน 3.ดาราดาวรุ่งชายมหานิยมมหาชน 4.ดาราดาวรุ่งหญิงมหานิยมมหาชน และรวมถึงรางวัลสาขาอื่นๆ

อย่างไรก็ดี งานประกาศผลรางวัล "มณีเมขลา ครั้งที่ 3 " ประจำปี พ.ศ.2565 จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 20 สิงหาคมพ.ศ 2555 เวลา 17.00 นเป็นต้นไป ณ หอประชุมใหญ่ โทรคมนาคมแห่งชาติ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ (TOT)

Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก