หอการค้าไทย-อิตาเลียน จัดพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติ Ospitalità Italiana ครั้งที่ 11 เชิดชูร้านอาหารอิตาเลียนทั่วไทยที่สะท้อนวัฒนธรรมอิตาเลียนอันโดดเด่นและเป็นเลิศ

5 พฤศจิกายน 2567, กรุงเทพฯ ประเทศไทย - เมื่อเร็ว ๆ นี้ หอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) ร่วมกับสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวอิตาลี ISNART (Istituto Nazionale Ricerche Turistiche) จัดพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติ Ospitalità Italiana 2024 ครั้งที่ 11 เพื่อการยกย่องร้านอาหารอิตาเลียนทั่วประเทศไทยเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความโดดเด่นด้านรสชาติที่ดั้งเดิมและความเป็นเลิศด้านอาหาร โดยค่ำคืนสุดพิเศษครั้งนี้จัดขึ้น ณ The Crystal Box, Gaysorn Urban Resort ชั้น 19 Gaysorn Tower

โดยตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 รางวัลอันทรงเกียรติ Ospitalità Italiana ได้กลายเป็นสัญลักษณ์และการการันตีแห่งคุณภาพที่ยกย่องร้านอาหารอิตาเลียน ร้านพิซซ่า ร้านไอศกรีมเจลาโต้ ที่สะท้อนความมุ่งมั่นตั้งใจและมีแนวทางปฏิบัติที่ส่งเสริมวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนที่เป็นเลิศในประเทศไทย

ในปีนี้ พิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติมีเเขกผู้มีเกียรติตบเท้าเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งกว่า 600 ท่าน ประกอบด้วย ผู้สนับสนุนในอุตสาหกรรมกว่า 60 ราย ไม่ว่าจะสปอนเซอร์ต่าง ๆ แบรนด์ร้านและอาหารและเครื่องดื่ม ผู้เชี่ยวชาญของวงการด้านการบริการและการท่องเที่ยว แขกผู้มีเกียรติจากหลากหลายวงการ อีกทั้งแขกผู้ที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียน ซึ่งทุกท่านร่วมมาเป็นสักขีพยานในการเฉลิมฉลองร้านอาหารอิตาเลียนที่โดดเด่นชั้นนำ วัฒนธรรมอิตาเลียนที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงกิจกรรมเน็ตเวิร์คกิ้งกับแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานชั้นนำในวงการอาหาร

ซึ่งค่ำคืนอันทรงเกียรตินี้ได้เริ่มขึ้นด้วยการกล่าวเปิดงาน โดย คุณ มัลลิกา มาการิต้า รองประธานหอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) ที่ได้ขอบคุณถึงความมุ่งมั่นตั้งใจและแนวทางปฎิบัติที่ส่งเสริมวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนที่เป็นเลิศของผู้ประกอบการ ตามด้วย คุณ จาโคโม อิบิซซี่ เลขาธิการของ กล่าวถึงผลงานอันโดดเด่นของหอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) ที่ผ่านมา และปิดท้ายด้วยคุณ มิเคเล่ โทเมอา ผู้จัดการทั่วไปของหอการค้าไทย-อิตาเลียน ที่มาให้ของข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Ospitalità Italiana ทั้งในด้านการโปรโมทวัฒนธรรมอิตาเลียนและการส่งเสริมสินค้า รวมถึงแบรนด์คุณภาพจากประเทศอิตาลี

ทั้งนี้แขกผู้มีเกียรติที่ตบเท้าเข้าร่วมงานยังได้ดื่มด่ำไปกับค่ำคืนอันแสนประทับใจด้วยการจัดแสดงอาหารอิตาเลียนต้นตำรับที่ปรุงโดยเชฟชั้นนำที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ ที่นำเสนอเมนูอาหารอิตาเลียนอันเป็นเอกลักษณ์และสะท้อนถึงวัฒนธรรมอันโดดเด่น อาทิ เจลาโต้ต้นตำรับและพิซซ่าแบบดั้งเดิมอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นระหว่างงานพิธีครั้งนี้ หอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC)  ยังได้มอบรางวัลแก่ร้านอาหารถึง 30 แห่ง ที่ได้ผ่านเกณฑ์การตัดสินและมาตรฐานระดับประเทศที่ได้มีการกำหนดไว้ในโครงการ Ospitalità Italiana รวมทั้งการกล่าวถึง รางวัลกิติมาศักย์จากทางหอการค้าในปีนี้ทั้ง 8 ท่าน และผู้ชนะ 2 ท่านจากการแข่งขันในโครงการ The Best Tiramisu  โดยค่ำคืนของงานพิธีมมอบรางวัลในครั้งนี้จบลงด้วยกิจกรรมเน็ตเวิร์คกิ้ง และ "Aperitivo Italiano" (อาเปรีติโว อิตาเลียโน) การดื่มเครื่องดื่มก่อนมื้ออาหารในวัฒนธรรมอาหารของอิตาลี ซึ่งทำให้แขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมงานได้พูดคุยกันและเฉลิมฉลองวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนที่น่าประทับใจปิดท้ายค่ำคืนได้อย่างประทับใจ

คุณ มัลลิกา มาการิต้า รองประธานหอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ตอนรับผู้มีชื่อเสียงในวงการอาหารของประเทศไทยสู่งานพิธีมอบรางวัล Ospitalita’ Italiana ครั้งที่ 11 นี้ ซึ่งงานในครั้งนี้สะท้อนถึงความทุ่มเทของเราในการรักษาความยิ่งใหญ่และความเป็นเลิศของวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียน อีกทั้งเฉลิมฉลองร้านอาหารที่แสดงความมุ่งมั่นตั้งใจและมีแนวทางปฏิบัติที่ส่งเสริมวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนที่เป็นเลิศในประเทศไทยอย่างเป็นรูปธรรม ค่ำคืนนี้ตอกย้ำถึงความสำคัญของการรักษามาตรฐานที่เข้มงวดและส่งเสริมคุณค่าต่อประสบการณ์ 'Made in Italy' ที่ช่วยให้นักชิมชาวไทยได้มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอย่างแท้จริง และสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับมรดกอันล้ำค่าทางวัฒนธรรมอิตาเลียน”

รางวัล Ospitalità Italiana นั้นคือหนึ่งในพันธกิจที่ยั่งยืนของหอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) โดยเป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมอิตาเลียนที่ต่างแดน ยกย่องความมุ่งมั่นอันเป็นเลิศของเจ้าของร้านอาหารและบุคลากรในอุตสาหกรรมร้านอาหารที่ส่งมอบประสบการณ์อันน่าประทับใจของอาหารอิตาเลียนในประเทศไทย

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ หอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) และกิจกรรมที่น่าสนใจต่าง ๆ สามารถติดตามอัพเดทได้ที่เว็บไซต์ https://www.thaitch.org

เกี่ยวกับ หอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC)

หอการค้าไทย-อิตาเลียน (TICC) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2521 เป็นองค์กรเอกชนอิสระที่ไม่แสวงหาผลกำไรของนักธุรกิจและผู้ประกอบการชาวอิตาลีและไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นและจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามข้อบังคับทางกฎหมายในประเทศไทย และได้รับการยอมรับจากกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจและความร่วมมือระหว่างประเทศในประเทศอิตาลี

หอการค้าซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพฯ (ประเทศไทย) มีความภูมิใจที่ได้ต้อนรับเครือข่ายบริษัทและผู้ประกอบการจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจจากประเทศอิตาลีและไทย ซึ่งช่วยให้ TICC สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้าระหว่างอิตาลีและไทย  โดยทางหอการค้ามีการจัดกิจกรรม การประชุม สัมมนา ภารกิจ และกิจกรรมสร้างเครือข่ายอย่างต่อเนื่องเพื่อโปรโมทและส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และวัฒนธรรม

Share:

เนลลี คอร์ดา" คว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี แอลพีจีเอ ทัวร์ 2024

เนลลี คอร์ดา โปรกอล์ฟสาวชาวอเมริกันมือ 1 ของโลก คว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี (Rolex Player of the Year) ของแอลพีจีเอ ทัวร์ ประจำปี 2024 เป็นการคว้านักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีครั้งแรกของเธอ 

หลังจากจบการแข่งขันรายการโตโต เจแปน คลาสสิก ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แอลพีจีเอ ทัวร์ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ เนลลี คอร์ดา นักกอล์ฟสาวชาวอเมริกัน คว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี (Rolex Player of the Year) ต่อจาก ลีเลีย วู ซึ่งทำได้เมื่อปีที่แล้ว และเป็นครั้งแรก ที่นักกอล์ฟอเมริกา คว้ารางวัลนี้ติดต่อกัน 2 ปี นับตั้งแต่ เบ็ตซี คิง ในปี 1993 และเบธ แดเนียล ในปี 1994 

เนลลี วัย 26 ปี มือ 1 ของโลก พูดถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัล นักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี ว่า "การได้รับรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี มีความหมายสำหรับฉันมาก ฤดูกาลนี้มีทั้งช่วงเวลาที่ดี และช่วงที่ยากลำบาก ฉันรู้สึกขอบคุณผู้คนรอบตัว ที่ช่วยให้ฉันมาถึงจุดนี้ได้ มันเป็นความพยายามของทีม และฉันภูมิใจที่ได้แบ่งปันเวลานี้กับพวกเขา"

สำหรับผลงานของเนลลี คอร์ดา ในปี 2024 คว้าแชมป์ 6 รายการ และจบใน 10 อันดับแรก 3 ครั้ง เธอเริ่มต้นฤดูกาลแอลพีจีเอ ทัวร์ เป็นฤดูกาลที่ 8 ด้วยการจบอันดับ 16 ร่วม รายการทัวร์นาเมนท์ ออฟ แชมเปียนส์ จากนั้นคว้าแชมป์ 5 รายการติดต่อกัน ได้แก่ รายการแอลพีจีเอ ไดรฟ์ ออน แชมเปียนชิพ, เฟอร์ ฮิลล์ส เซรี พัก แชมเปียนชิพ, ฟอร์ด แชมเปียนชิพ, ที-โมบาย แมทช์ เพลย์ และ เชฟรอน แชมเปียนชิพ ซึ่งเป็นแชมป์เมเจอร์ที่สองในอาชีพของเธอ และจบอันดับ 7 ร่วม ค็อกนีแซนท์ ฟาวเดอร์ส คัพ ก่อนจะคว้าแชมป์ครั้งที่ 6 ในรายการ มิซูโฮ อเมริกา โอเพ่น และยังจบใน 5 อันดับแรก อีก 2 รายการ ใน วีเมนส์ โอเพ่น เมเจอร์สุดท้ายแห่งปี และ โครเกอร์ ควีน ซิตี แชมเปียนชิพ รวมทั้งยังเป็นตัวแทนของสหรัฐอเมริกาในกีฬาโอลิมปิกปารีส 2024 และร่วมทีมโซล ไฮม์ คัพ 2024 ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์อีกด้วย

นอกจากนี้  เนลลี คว้ารางวัลอันนิกา เมเจอร์ อวอร์ด (Rolex ANNIKA Major Award) นับเป็นการได้รับรางวัลนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน และเธอจะเข้ารับรางวัลทั้งสองนี้ ในงานเลี้ยงประกาศรางวัลประจำปีของแอลพีจีเอ ทัวร์ ในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน ที่รัฐฟลอริดา ระหว่างแข่งขัน รายการ ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ 

ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.lpga.com 

เครดิตภาพ: LPGA/Getty Images




Share:

Paulaner Garden จัดงาน Happy halloween Oktoberfest 2024 ฉลองต้อนรับวันฮาโลวีน

 

ร้านอาหาร Paulaner Garden ศรีนครินทร์ นำโดย คุณกานต์พิชชา คงสมบัติ ประธานกรรมการ บริษัท โพลว์ อินเตอร์ จำกัด ผู้จำหน่ายเบียร์ พอลาเนอร์ ประเทศไทย จัดกิจกรรมพิเศษต้อนรับเทศกาลวันฮาโลวัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Happy halloween Oktoberfest 2024  ดื่มด่ำความสุขกับเทศกาลแห่งความสุข Oktoberfest และฮาโลวีนไปพร้อมกัน โดยมี คุณชิสา คงสมบัติคุณภูมินทร์ เลิศรัฐการคุณภูมินทร์ เลิศรัฐการคุณสุทธิ นวภัทรพงศ์คุณเอิร์ธ สายสว่างคุณภูเบศร์ คงสมบัติ ร่วมงาน

บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ผู้เข้าร่วมงานแต่งกายในธีมผีนานาชาติ พร้อมเพลิดเพลินไปกับเมนูซิกเนอร์เจอร์สไตล์เยอรมันแสนอร่อยของร้าน เคล้าดนตรีสดจาก บางเขี้ยว สวีสตี้พี นอกจากนี้ ยังมีเกมส์ในธีมฮาโลวีนมาให้ผู้ร่วมงานได้ร่วมสนุกชิงของรางวัลสุดพิเศษจากประเทศเยอรมันที่ร้านอาหาร Paulaner Garden ศรีนครินทร์

ภายหลังทำพิธีตอกถังเบียร์เปิดงานอย่างเป็นทางการ คุณกานต์พิชชา คงสมบัติ ประธานกรรมการ บริษัท โพลว์ อินเตอร์ จำกัด ได้เผยทิศทางการดำเนินงานของธุรกิจในปีนี้กล่าวว่า สำหรับร้าน Paulaner Garden เรามีแผนที่จะขยายสาขาในลักษณะของแฟรนซ์ไชน์ ร้านขนาดใหญ่และขนาดเล็กใช้พื้นที่ไม่มาก เมนูอาหารเป็นเมนูไฮไลท์ โดยเฉพาะเมนูเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันเอาใจคนรักเบียร์เยอรมันและเบียร์อังกฤษ ซึ่งเป็นแผนงานในปี 2025-2027 ปีนี้กับการขยายสาขาไปตามหัวเมืองใหญ่ๆ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังจะมีการจัดแคมเปญเบียร์ตามฤดูกาล ที่เราได้ประเดิมไปแล้ว Winter Beer คืองาน Happy halloween Oktoberfest 2024 ที่เป็นการรวมเทศกาลฮาโลวีนและออกโทเบอร์เฟสเข้าไว้ด้วยกัน นำเสนอเบียร์รสชาติที่เหมาะกับฤดูหนาว เพื่อเป็นการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มาให้เบียร์เลิฟเวอร์ได้ลิ้มรสที่เรามีโปรดักส์กว่า 30 ไอเทม ในซีซั่นถัดไปก็จะเป็น Summer Beer จะเป็นเบียร์รสชาติที่เหมาะกับฤดูร้อนในบ้านเรา แต่ไม่มีเบียร์สำหรับหน้าฝน ซึ่งในปีหน้าเทรนด์เบียร์ Non Chemical และ Alcohol Free จะมาแรง รวมถึงเบียร์แอลกอฮฮล์ต่ำ หรือเบียร์ที่มีการผสมกลิ่น รสผลไม้ ดื่มง่ายเหมาะกับบ้านเราที่มีอากาศร้อน ก็จะได้รับความนิยมมากขึ้น

ท้ายที่สุด คุณกานต์พิชชา ยังกล่าวอีกว่า สำหรับช่วงปลายปี เป็นการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ร้าน Paulaner Garden ยังคงมีข้อเสนอโปรโมชั่นดีๆ มาให้นักชิมนักดื่ม รวมถึงพื้นที่สำหรับการงานเลี้ยงในราคาพิเศษสำหรับทุกท่าน เรียกว่ามาที่ พอลาเนอร์ การ์เด้น ทุกท่านจะได้ประสบการณ์การกินดื่มที่พิเศษได้รับความประทับใจกลับไปอย่างแน่นอน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร 082-790-1782 และเยี่ยมชมได้เพจ paulanergardenRestaurant เว็บไซต์ www.paulaner-garden.com

Paulaner Garden, Oktoberfest Festival 2024, ร้านอาหาร Paulaner Garden ศรีนครินทร์อาหารเยอรมันเบียร์เยอรมันไทยแลนด์ไลค์,  thailand LIKEประชาชื่นนิวส์, prachachuen news, สาธรสัญจรทั่วทิศ

Share:

สคส. ตอกย้ำความมั่นใจภาครัฐ เอกชน และประชาชน ชูศูนย์ PDPA Center รับเรื่องร้องเรียน ช่วยแก้ไขปัญหาการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ได้ตอกย้ำ “ศูนย์บริการรับเรื่องร้องเรียนและให้คำปรึกษาการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA Center” เป็นช่องทางเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ และดำเนินการยื่นเรื่องร้องเรียนด้านการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลอย่างรวดเร็ว และครบวงจร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในการยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมเสริมสร้างความมั่นใจ และความเชื่อมั่นในกระบวนการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบและกำกับดูแล สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC เปิดเผยว่า ตั้งแต่เปิดศูนย์ PDPA Center มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาทั้งหมด 823 เรื่อง แบ่งออกเป็น 12 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจธนาคาร ประกันภัย สินเชื่อเงินสด โทรคมนาคม ขนส่งและโลจิสติกส์ การขายของออนไลน์ สื่อสังคมออนไลน์ หน่วยงานภาครัฐ โรงพยาบาลและสาธารณสุข และด้านการวิจัย โดยประเภทที่มีจำนวนเรื่องร้องเรียนมากที่สุดคือ “ประเภทอื่น ๆ” จำนวน 347 เรื่อง ซึ่งส่วนมากเกี่ยวข้องกับกรณีประชาชนร้องเรียนกันเอง หรือร้องเรียนร้านค้าทั่วไปที่ไม่ใช่ช่องทางออนไลน์ รวมถึงกรณีร้องเรียนนิติบุคคลที่เป็นคอนโด หอพัก หรือเอกชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับประเภทอื่น ๆ

นอกจากนี้ PDPA Center ได้ดำเนินการพิจารณาและแก้ไขเรื่องร้องเรียนเสร็จสิ้นแล้ว 181 เรื่อง จากเรื่องร้องเรียนทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 21.99 โดยแบ่งเป็นการมีคำสั่งทางปกครองจำนวน 180 เรื่อง และการไกล่เกลี่ยจำนวน 1 เรื่อง ส่วนเรื่องที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเสนอให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณามีจำนวน 450 เรื่อง และอีก 192 เรื่องถูกจำหน่ายเนื่องจากเอกสารไม่ครบถ้วน

ศูนย์ PDPA Center ได้รับเรื่องร้องเรียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเดือนละ 5-10 เรื่อง ในบางเดือนพบการเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกรณีที่มีผู้เสียหายหลายรายจากผู้ถูกร้องเรียนรายเดียวกัน สะท้อนถึงปัญหาการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องการการคุ้มครองอย่างเข้มงวดมากขึ้น

พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ กล่าวต่ออีกว่า บทบาทของ PDPA Center ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงแต่เป็นจุดรับเรื่องร้องเรียนเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษา และแนะนำแนวทางปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA แก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงดำเนินการด้านการเสริมสร้างความเข้าใจในกฎหมาย PDPA และการปฏิบัติตามข้อกำหนดให้สอดคล้องกับกฎหมาย อีกทั้งเป็นตัวกลางในการแก้ไขข้อขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการให้คำแนะนำฉุกเฉินในกรณีที่เกิดการโจมตีทางไซเบอร์อีกด้วย

“และเพื่อเพิ่มช่องทางช่วยเหลือประชาชนในต่างจังหวัด สคส. ได้ขยายศูนย์บริการฯ ไปยังจังหวัดต่าง ๆ ครอบคลุม 6 จังหวัด ในหัวเมืองใหญ่ เชียงใหม่ ชลบุรี นครราชสีมา นครสวรรค์ สงขลา และสมุทรปราการ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องทางในการยื่นเรื่องร้องเรียน และให้คำปรึกษาด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแก่ประชาชนได้สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งศูนย์บริการนี้จะทำหน้าที่สำคัญในการสนับสนุนให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายอย่างถูกต้อง ทั้งยังสามารถจัดการเรื่องร้องเรียนได้ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการเสริมสร้างการรับรู้ถึงสิทธิ และหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลในชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย” พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ กล่าวทิ้งท้าย

ช่องทางการติดต่อ PDPC หรือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) 

โทร. 02 1118800

📞 กด 0 โอเปอเรเตอร์

📞 กด 1 ขอรับคำปรึกษาด้านกฎหมาย

📞 กด 2 เรื่องร้องเรียน

📞 กด 3 สอบถามเพิ่มเติมการแจ้งเหตุละเมิด

📞 กด 4 การเงิน บัญชี และพัสดุ

📞 กด 5  งานสารบรรณ

    Line ID: @pdpcthailand

💻  ส่งหนังสือราชการ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ดังนี้

📧  e-mail : saraban@pdpc.or.th 🌐 เว็บไซต์ : www.pdpc.or.th

#PDPC #PDPA #สคส #PDPACenter #ข้อมูลส่วนบุคคล


Share:

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน เปิดตัว 40 ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ฝีมือดีจากทั่วประเทศ ร่วมชิงชัยรอบตัดเชือก การประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ ระดับประเทศ

ประกาศผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ การประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่   ประจำปี 2567 “New Gen Young Designer 2024” รอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ เวทีในการ เฟ้นหาดีไซเนอร์หน้าใหม่จากทั่วประเทศ ให้ได้มีโอกาสแสดงฝีมือในการออกแบบเสื้อผ้าแฟชั่นจากผืนผ้าไทยอันทรงคุณค่า ให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสนุก สำหรับ ทุกเพศ ทุกวัย ในทุกโอกาสของชีวิตประจำวัน  ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ กระทรวงมหาดไทย โดย กรมการพัฒนาชุมชน ได้น้อมนำแนวพระดำริ  “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มาขับเคลื่อน  ในการพัฒนายกระดับคุณภาพ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าไทย เมื่อวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2567 ณ สุราลัยฮอล์                 ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประธานในพิธี และนางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมกล่าวเปิดงานแสดงแบบ “ชุดผ้าไทยใส่ให้สนุก” และมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวด พร้อมด้วย 

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบตัดเย็บ นายศิริชัย ทหรานนท์ นักออกแบบและเจ้าของแบรนด์ THEATRE คุณอารยา อินทรา ที่ปรึกษาด้านแฟชั่น อาจารย์พิเศษด้านแฟชั่น และสไตลิสต์   คณะกรรมการการตัดสินการประกวดฯ ระดับประเทศ ได้แก่ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นางอรจิรา ศิริมงคล   ประธานชมรมแม่บ้านพัฒนาชุมชน ดร.ศรินดา จามรมาน นักวิชาการอิสระด้านการจัดการความรู้และการศึกษา นายภูภวิศ  กฤตพลนารา  นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ ISSUE ผศ.ดร.รวิเทพ มุสิกะปาน   ประธานหลักสูตรแฟชั่น สิ่งทอและเครื่องตกแต่ง วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร      วิโรฒ อาจารย์ ดร.กรกลด คำสุข รองคณบดี ฝ่ายวิชาการและรักษาการแทน ผู้อำนวยการสำนักวิชาการสร้างสรรค์วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นายวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข   นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ WISHARAWISH และนายธนาวุฒิ ธนสารวิมล นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ TANDT ร่วมด้วย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย และอุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ตลอดจนดีไซเนอร์รุ่นใหม่จากทั่วประเทศ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน

กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ ระดับประเทศ (รอบ Final) เพื่อตัดสินผลงานการออกแบบตัดเย็บชุดผ้าไทยของผู้เข้าประกวด จำนวน 40 ราย/ทีม  ให้เหลือผู้ชนะ จำนวน 9 ราย/ทีม โดยพิจารณาจาก 1) แนวคิดและแรงบันดาลใจในการออกแบบสอดคล้องกับแนวคิด “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” 2) รูปแบบและความสวยงามของชุดที่ตัดเย็บ 3) ความประณีต และ คุณภาพของชุด และ 4) การนำเสนอผลงานของชุดที่ออกแบบตัดเย็บ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแฟชั่นโชว์  การแสดงแบบ “ชุดผ้าไทยใส่ให้สนุก” สุดยิ่งใหญ่ จากผลงานการออกแบบของ 40 ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ที่เข้าประกวดผ่านการสวมใส่ โดยนายแบบ นางแบบมืออาชีพ จำนวนทั้งสิ้น 40 คน  

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกนี้ เป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่พระองค์ท่านได้ทรงทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้สินค้าที่ออกแบบโดยคนไทย หรือ 'ผ้าไทย' ได้ถูกประทับตราไว้ว่า "เราไม่เป็นที่สองรองใคร" ซึ่งทุกครั้งที่ตนได้มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท จะไม่ทรงรับสั่งเรื่องอื่นใดนอกจากเรื่อง "ผ้าไทย" เพราะพระองค์ท่านทรงฝากความหวังไว้กับพวกเราทุกคน   ในการที่จะจรรโลงรักษา สืบทอด ต่อยอด ให้ผ้าไทยซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทยเป็นที่แพร่หลายไม่เฉพาะ  ในประเทศไทยเท่านั้น แต่พระองค์ท่านทรงฝากความหวังไว้ว่า "จะต้องทำผ้าไทยของเราเป็นที่นิยมของ คนทั่วโลก" กระทรวงมหาดไทยจึงได้น้อมนำพระดำริและพระดำรัส มอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชน เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ "คำว่า "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" ตนได้รับพระราชทานคำอรรถาธิบายจากพระองค์ท่านว่า ไม่ใช่ชุดผ้าไทยแบบคอตั้งแขนยาวใส่แล้วร้อน แต่ผ้าไทย คือ ผ้าที่ทำจากผ้าคนไทย วัตถุดิบไทย   ดีไซเนอร์ไทย จะใส่เป็นเสื้อเชิ้ตก็ได้ ชุดซาฟารีก็ได้ เสื้อแจ็กเกตก็ได้ กระโปรงแบบญี่ปุ่นก็ได้ ออกเป็นเสื้อใส่ตามสบายก็ได้ แต่ขอให้เป็นผ้าไทย จนทำให้ตนเข้าใจแล้วว่า ผ้าไทยนั้นมีเอกลักษณ์ คือ วัสดุที่ผลิตขึ้นมาเป็นของไทย ดังนั้น พวกเราทุกคนถือว่าเป็นข้าทูลละอองพระบาทของพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และเรามีเจ้านายที่ทรงทุ่มเทในเรื่องของผ้าไทยให้กับพวกเรา จึงเป็นความภาคภูมิใจและเป็นวาสนาอย่างยิ่งที่เราได้มีโอกาสรับสนองพระดำริพระองค์ท่าน ดังที่นายแบบและนางแบบทั้งหลายที่ได้สวมใส่ผ้าไทยจากการออกแบบโดยคนไทยมาเดินแบบในที่นี้ ทำให้เราได้เห็นความสวยงามของผ้าไทย รูปแบบการออกแบบตัดเย็บของ  ดีไซเนอร์ไทยมีความสวยงามจริง ๆ ตนอมยิ้มอยู่ในใจและภาคภูมิใจอยู่ในใจว่า เราใส่ผ้าแบรนด์หรูต่างประเทศมาเยอะแล้ว วันนี้เราเห็นคนต่างชาติที่เป็นนางแบบนายแบบมาใส่เสื้อผ้าไทยของเรา ดีไซน์ของเรา ดูแล้วไม่เห็นว่า ผ้าไทยสวยกว่าด้วยซ้ำ เข้ากับประเทศเมืองร้อนอย่างเรา ออกแบบดีไซน์มาอย่างมีสีสันตระการตา จึงอยากให้พวกเราทุกคนโดยเฉพาะลูก ๆ หลาน ๆ ได้มีความภาคภูมิใจ ไม่มีชุดไหนไม่สวยเลย สวยทุกชุด ดังนั้นเราต้องภูมิใจที่เราได้แสดงเอกลักษณ์ของประเทศไทยให้ต่างชาติได้ชื่นชม"

นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอแสดงความชื่นชมบรรดานักออกแบบ ช่างตัดเย็บ ที่ตัดเสื้อผ้าให้มีความงดงามอย่างยิ่ง ตลอดถึงอาจารย์ที่ปรึกษา คณะกรรมการ แม้กระทั่งผู้หลักผู้ใหญ่ของกระทรวงมหาดไทยทั้งในปัจจุบันและในอดีต ที่ได้ทุ่มเทเสียสละและทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น ซึ่งตนมั่นใจว่าเราจะสามารถทำให้ผ้าไทยของเราเป็นที่ยอมรับในทั่วโลกในระยะเวลาอีกไม่นานนี้ และตนขอมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการใช้ผ้าไทย                       ของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ด้วยการใส่ผ้าไทย ใช้ผ้าไทย ให้ชาวบ้านของพวกเรามีรายได้ ให้เอกลักษณ์ของประเทศเราได้รับการยอมรับ ให้สินค้าของประเทศไทยของเราโดยเฉพาะ "ผ้าไทย" ได้ส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศและประชาชนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเราจะยกระดับให้เพิ่มมากขึ้นด้วยความร่วมไม้ร่วมมือ น้อมนำพระปณิธานสู่การขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่ ทำให้มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ใส่ใจ ใส่ฝีมือ ใส่สิ่งที่ดีที่สุดในเซลล์ของเรา ในเลือดของเรา เพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีงาม เกิดเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคง พี่น้องประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน

นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อวงการผ้าไทยที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีแนวพระดำริ   "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมให้คนไทยทุกคนได้สวมใส่ผ้าไทยหลากหลายรูปแบบที่มี   ความทันสมัยสู่สากล เป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัย ทุกโอกาส โดยการสวมใส่ผ้าไทยได้ในทุกโอกาสนั้น รูปแบบของการออกแบบตัดเย็บที่สวยงาม และทันสมัย มีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างความมั่นใจ    แก่ผู้สวมใส่ "การจัดประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ ระดับประเทศ ที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินการในครั้งนี้ จะนำไปสู่การพัฒนาเทคนิคการออกแบบตัดเย็บ และการผลิตชิ้นงานชุดผ้าไทยที่ร่วมสมัย เกิดการรังสรรค์การออกแบบตัดเย็บผืนผ้าไทยให้เป็นที่ต้องการของตลาด สอดคล้องกับแฟชั่นสมัยนิยม ตามแนวพระดำริ "ผ้าไทยใส่ให้สนุก" 

นางสาวซาบีดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอขอบคุณท่านผู้เชี่ยวขาญด้านผ้าไทยและการออกแบบตัดเย็บ ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิทุกท่าน ที่ได้ให้เกียรติมาเป็นคณะกรรมการตัดสินการประกวดในวันนี้ ขอขอบคุณ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้มีกิจกรรมที่ดีเช่นนี้เกิดขึ้น ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับผู้เข้าประกวด ทั้ง 40 ราย และคาดหวังว่าทุกท่านจะมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเป็นนักออกแบบตัดเย็บผ้าไทยหรือดีไซเนอร์ผ้าไทยที่มีชื่อเสียง สามารถยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล อันจะนำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้ เกิดความเข้มแข็งของวงจรเศรษฐกิจต่อไป

นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดการประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ ตามโครงการนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ 2567 (New Gen Young Designer 2024) เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้า 

เครื่องแต่งกาย นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ศึกษาหลักสูตรแฟชั่นดีไซน์ และประชาชนที่สนใจและมีใจรัก ด้านการออกแบบตัดเย็บผ้าไทยทั่วทุกภาคของประเทศได้มีพื้นที่ในการแสดงผลงาน โดยได้คัดเลือกตัวแทนผู้เข้าประกวดจากทั่วประเทศจำนวน 285 ราย ให้เหลือจำนวน 40 ราย เพื่อเข้าประกวดในระดับประเทศ

ในวันนี้ และคาดหวังว่าโครงการนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ทุกท่านมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเป็นนักออกแบบตัดเย็บผ้าไทยหรือดีไซเนอร์ผ้าไทยที่มีชื่อเสียงในอนาคต เพื่อสามารถยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล อันจะนำไปสู่การสร้างงาน สร้างายได้ เกิดความเข้มแข็งของวงจรเศรษฐกิจต่อไป"

สำหรับผู้ชนะเลิศการประกวดนักออกแบบผ้าไทยใส่ให้สนุกรุ่นใหม่ (New Gen  Young Designer 2024) โดยผู้ที่ชนะการประกวดฯ ตำแหน่งต่าง ๆ ประกอบด้วย 

รางวัลชนะเลิศ นายรุจ กล้ำศรี ได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท พร้อมจักรเย็บผ้า และ iPad จำนวน 1 เครื่อง , 

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 นายนูรดีน แวกะจิ จากกลุ่มทำผ้าค่ายสิรินธร ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท 

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 นางสาวธนัชพร วรธงไชย ได้รับเงินรางวัล 75,000 บาท และ   

รางวัลชมเชย จำนวน 6 รางวัล รางวัลละ 40,000 บาท ได้แก่ นายนภัต ตันสุวรรณ, นางสาวมยุรี แซ่ท้าว, นายภาวิต ประวัติ, นางสาวชนาธินาถ ไชยภู, นายรัฐพล ทองดี และ นายอนาวิล ทองน้อย

Share:

จบไปแล้วกับงานโยคะครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศ Thailand Yoga Art & Dance ปี 2567 ซึ่งจัดเป็นปีที่ 8 ในวันที่ 25-27 ตุลาคม 2567 ที่ โรงแรมเดอะซายน์ พัทยา – นาเกลือ

ปีนี้ ทุกคนเต็มอิ่มกับกิจกรรมมากมายทั้งใน Indoor และ Out door ทั้งคลาสโยคะบนบก และ  ในน้ำ Aqua Yoga  , คลาสเต้นทุกรูปแบบ ,คลาสฟิสเนต ,คลาสทำกับข้าว yoga Fly , Sup Yoga, Stand up Paddle Board, บำบัดด้วยน้ำแข็ง (Ice Bath), พอกโคลนจากเนปาล,  Singing Bowl   คลาสกลองบำบัด   คลาสโยคะหัวเราะ  โยคะหน้า  และอีกหลากหลายหลาส จัดเต็มถึง 117 คลาสใน 3 วัน กับ 11 ห้องเรียน จากครูผู้สอน 66 ท่าน ทั่วโลก   

งานนี้มีคนเข้าร่วมจำนวน 1020 คน จาก 13 ประเทศ อาทิเช่น เกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงค์โปร์ เวียดนาม ไต้หวัน จีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อเมริกา  เบลเยี่ยม ฮ่องกง และไทย  งานนี้ จัดขึ้นโดยบริษัท เมคเฟรนส์ ฟอร์ยู จำกัด และได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชน อาทิเช่น เมืองพัทยา  ททท เมืองพัทยา  สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฯ  AIA VAtality   True Corporation   บุญรอด บริวเวอร์รี่  vannesse   

พบกับกิจกรรมโยคะดีๆ เช่นนี้ในงาน Thailand Yoga Art & Dance ที่พัทยา   วันที่ 31 ต.ค -2 พ.ย 2568 

สอบถามเพิ่มเติม : Line Official : makefriendsforu/Page:thailandyogaart&dance/IG:thailand_yogaartanddance

The biggest yoga event, Thailand Yoga Art & Dance 2024 has ended, which will be held for the 8th year on 25-27 October 2024 at The Zign Hotel Pattaya - Na Kluea. This year, everyone was full of activities. Plenty both indoor and outdoor. There are yoga classes on land and in water- Aqua Yoga , all types of dance classes, fitness classes, cooking classes, yoga Fly, Sup yoga, stand up paddle board, Ice Bath, Mud Therapy, Singing Bowl, therapy drum classes.   Laughter Yoga, Facial Yoga and many more classes, complete with 117 classes.in 3 days with 11 classrooms from 66 teachers around the world, the event was attended by 1020 people from 13 countries including Korea, Japan, Malaysia, Singapore, Vietnam, Taiwan, China, Philippines, Indonesia, America, Belgium, Hong Kong and Thailand. This event was organized by Make Friends For U Co.,Ltd and received cooperation and support from both the government and private sectors such as Pattaya City, TAT- Pattaya , Tourism Industry Council, AIA Vatality, True Corporation, Boon Rawd,  Vanesse   

Meet great yoga activities like this at the Thailand Yoga Art & Dance event in Pattaya, next year on 31 Oct. - 2 Nov. 2025.  

More info:  Line Official : makefriendsforu/Page:thailandyogaart&dance/IG:thailand_yogaartanddance

Share:

"สถาบันมรดกสยามเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต" โดยท่านชายวัชเรศร วิวัชรวงศ์ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยตลอดจนทุกชาติพันธุ์

ท่านชายวัชเรศร วิวัชรวงศ์ มีดำริร่วมกับผู้อาวุโสและคนรุ่นใหม่ ประสานทุกรุ่นวัย ให้จัดตั้ง 📜"สถาบันมรดกสยามเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต"🔭 โดย ท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และให้ นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ทำหน้าที่ประธานสถาบันฯ โดย รวบรวมบุคคลากรทุกรุ่นวัยทุกองคาพยพ ทุกภาคีเครือข่ายเเห่งภาคประชาสังคม รัฐ เอกชน เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยตลอดจนทุกชาติพันธุ์ภายใต้พระบรมโพธิสมภารภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในลักษณะของการดำเนินกิจการงาน 'สืบสาน รักษาเเละต่อยอด' โดยน้อมนำพระราโชบายในรัชกาลที่ 9 สืบสานถึง รัชกาลบัจจุบัน ตลอดจนราโชบายของบูรพกษัตริย์เเห่งสยามทุกพระองค์ มาสืบสานร่วมสมัย ผ่านขบวนการการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ผ่านหลักพื้นฐานแห่ง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม(STI) ของศาสตร์ตามเเขนงต่างๆ 
เพื่อก้าวข้ามการจำกัดด้วยเงื่อนไขของกฎเกณฑ์ ระเบียบ หรืองบประมาณที่ระบบราชการไม่สามารถดำเนินการได้ทันที จนเป็นเหตุให้การแก้ไขปัญหาไม่สอดคล้อง หรือทันกับสถานการณ์ที่จำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องกระทำโดยเร็ว การที่สถาบันมรดกสยามฯ เข้ามาดำเนินการเช่นนี้ หวังจะส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์โดยตรงอย่างแท้จริง รวดเร็วฉับพลัน โดยไม่ตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น อาจกล่าวได้ว่าการดำเนินงานของสถาบันมรดกสยามฯ เป็นการช่วยให้กระบวนการต่างๆเกิดความสมบูรณ์เเละรวดเร็วยิ่งขึ้น

โดยมีวัตถุประสงค์และเป้าหมาย คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างคนไทยกับมรดกของชาติในทุก ๆ ด้าน ร่วมสร้างผู้ดูแลรุ่นใหม่ ผ่านขบวนการต่าง ๆ เพื่ออนาคตของลูกหลาน โดยนำประวัติศาสตร์มารับใช้ปัจจุบันและอนาคต 

ผ่านขบวนการขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจปากท้อง สังคมน่าอยู่ และการดำเนินชีวิตประจำวัน อย่างพอเพียงและเป็นสุข

****************

Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก