สศศ. ร่วมกับ มทร.ธัญบุรี จัดเสวนาทางวิชาการ หัวข้อ “ความสำคัญของหลักสูตรทักษะชีวิต สำหรับเด็กพิการ และเด็กด้อยโอกาส”

รองศาสตราจารย์ ดร.กล้าหาญ ณ.น่าน คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานเสวนาทางวิชาการ หัวข้อ “ความสำคัญของหลักสูตรทักษะชีวิต สำหรับเด็กพิการ และเด็กด้อยโอกาส” โดยความร่วมมือจาก สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ กับ ศูนย์ความเป็นเลิศด้าน Human and Business Development คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี  

เพื่อนำเสนอแนวคิดและความสำคัญของทักษะชีวิตในบริบทของสภาพแวดล้อมในยุคดิจิทัล แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับทักษะชีวิตที่จำเป็นและเหมาะสม และเพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณครูในกาบูรณาการหลักสูตรทักษะชีวิตกับการสอนสำหรับนักเรียนในกลุ่มโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ และนักเรียนในกลุ่มโรงเรียนเฉพาะความพิการ ณ โรงแรม ทีเค พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น แจ้งวัฒนะ จังหวัดนนทบุรี

Share:

Hero’s Land เป็นเกม multiplayer survival ที่ผสมผสานความน่ารักของตัวละคร ภายใต้ศิลปะการ์ตูน มีฉากฮาร์ดคอร์ "ตายแล้วอุปกรณ์ของคุณจะหายไป" ระบบการเล่นแนว Rouguelike ทำให้เกมนี้น่าติดตาม และเหมาะสำหรับผู้เล่นที่ค้นหาความตื่นเต้นท้าทายและจากการเสียงตอบรับของผู้เล่นทีมผู้พัฒนาได้มีการปรับเปลี่ยนหลายอย่าง แต่ยังมีการคงคอนเซ็ปต์ของความน่าตื่นเต้นเอาไว้โดยปรับใหม่ให้ภายในเกมนอกเหนือ จากสนามประลอง PVP จะไม่มีการลงโทษผู้เล่นที่ต้องสูญเสียชุดและอาวุธเมื่อตายซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้ผู้เล่น ได้สนุกสนานกับเกมมากขึ้นโดยไม่ต้องกังวล ถึงแม้ Hero’s Land จะเป็นเกมฟรี แต่ทีมผู้พัฒนาก็ไม่หยุด พัฒนาเกมอย่างต่อเนื่องโดยมีการอัปเดตเกมรายสัปดาห์เพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆของผู้เล่นด้วยระบบเกมที่น่าสนใจงานภาพที่แสนน่ารักรวมเข้ากับทีมงานที่ใส่ใจทำให้เกิดเสียงตอบรับที่ดีเป็นวงกว้างส่งผลให้ปัจจุบันเกม Hero’s Land มียอดผู้เล่นรายวันกว่า 24,000 คนทั่วโลก

 

Hero’s Land เป็นเกม multiplayer survival ที่ผสมผสานความน่ารักของตัวละคร ภายใต้ศิลปะการ์ตูน มีฉากฮาร์ดคอร์ "ตายแล้วอุปกรณ์ของคุณจะหายไป" ระบบการเล่นแนว Rouguelike ทำให้เกมนี้น่าติดตาม และเหมาะสำหรับผู้เล่นที่ค้นหาความตื่นเต้นท้าทายและจากการเสียงตอบรับของผู้เล่นทีมผู้พัฒนาได้มีการปรับเปลี่ยนหลายอย่าง แต่ยังมีการคงคอนเซ็ปต์ของความน่าตื่นเต้นเอาไว้โดยปรับใหม่ให้ภายในเกมนอกเหนือ จากสนามประลอง PVP จะไม่มีการลงโทษผู้เล่นที่ต้องสูญเสียชุดและอาวุธเมื่อตายซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้ผู้เล่น ได้สนุกสนานกับเกมมากขึ้นโดยไม่ต้องกังวล ถึงแม้ Hero’s Land จะเป็นเกมฟรี แต่ทีมผู้พัฒนาก็ไม่หยุด พัฒนาเกมอย่างต่อเนื่องโดยมีการอัปเดตเกมรายสัปดาห์เพื่อตอบสนองความต้องการต่างๆของผู้เล่นด้วยระบบเกมที่น่าสนใจงานภาพที่แสนน่ารักรวมเข้ากับทีมงานที่ใส่ใจทำให้เกิดเสียงตอบรับที่ดีเป็นวงกว้างส่งผลให้ปัจจุบันเกม Hero’s Land มียอดผู้เล่นรายวันกว่า 24,000 คนทั่วโลก

Hero’s Land แตกต่างจาก MMO อื่นๆทั่วไปแบบดั้งเดิมเพราะไม่มีภารกิจประจำวันที่น่าเบื่อ และไม่จำเป็นต้องเล่นอยู่แค่เนื้อเรื่องหลัก ผู้เล่นสามารถเข้าเซิร์ฟเวอร์เพื่อเริ่มต้นรอบได้เลย เมื่อผู้เล่นสิ้นสุดรอบหรือตายในรอบหนึ่งชุดและอาวุธในเป้ของคุณจะถูกเก็บไว้ ทุกครั้งที่ ผู้เล่นเริ่มรอบใหม่ผู้เล่นสามารถขายชุดและอาวุธในเป้ที่ไม่ต้องการเก็บภายใน 1 นาทีแล้ว ผู้เล่นสามารถเริ่มการเดินทางใหม่!

เสน่ห์ของเกม Hero’s Land คือ ความเป็น Open World ที่ให้ผู้เล่นได้ผจญภัยในโลกแฟนตาซี โดยไม่จำเป็นจะต้องมีกฏเกณฑ์มากมายอิสรภาพแบบจัดเต็มจะหาของสร้างฐานทัพ ล่ามอนสเตอร์ ตีบอสเพื่อรับไอเทมสุดแรร์ SSR หรือจะไปตีกับผู้เล่นคนอื่นที่สนามประลอง PVP เพื่อเอาชุดและอาวุธ SSR ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามออกก็สามารถสร้างสรรค์เรื่องราวแบบของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเล่นคนเดียวหรือแบบเป็นทีม

เดิมทีความสนุกและท้าทายของเกมนี้ คือ "ตายแล้วชุดและอาวุธจะหายไป" ทำให้ผู้เล่นจะต้องไปตีกับ มอนสเตอร์ บอส และผู้เล่นคนอื่นๆเพื่อรับไอเทมที่ดีขึ้น “จากชัยชนะ” สิ่งนี้ทำให้ Hero’s Land เป็นเกมที่ไม่ว่าใครที่ได้ลองก็ติดใจในสนามประลอง PVPที่เป็นเซิร์ฟเวอร์ยอดนิยมที่ผู้เล่นทุกคนจะมีเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ในการเข้าร่วมสนามโดยจะถูกสุ่มให้เจอกับผู้เล่นจากทั่วทุกมุมโลกบรรยากาศ ในสนามประลองแบบPVPที่ออกแบบมาให้มีความมันด้วยการใช้ทักษะไหวพริบโดยเหล่าฮีโร่ต่อสู้เพื่ออัพเกรดอาวุธและอุปกรณ์ของพวกเขา และเพิ่มโอกาสในการต่อสู้อย่างไม่หยุดยั้งเพื่อการดำรงอยู่ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นสนาม ประลองแบบ PVP หรือ PVE มีกล่องสมบัติให้ผู้เล่นได้ลุ้นสำหรับการรับของรางวัล

ทีม Hero’s Land พร้อมจะมอบประสบการณ์ความสนุกที่ไม่ซ้ำจึงทำให้ทุกๆสัปดาห์จะมีการอัปเดตฟีเจอร์ใหม่จากทีมผู้พัฒนาทำให้ผู้เล่นเกมนี้ได้รับประสบการณ์ใหม่ตลอดเวลาและสามารถมีตัวเลือกหลากหลายไอเทมให้ได้เล่น ใครจะรู้ฟีเจอร์หน้าอาจจะกลายเป็นฟีเจอร์สุดโปรดของคุณเลยก็ได้

 เพื่อน ๆ ที่สนใจสามารถเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ได้ที่ https://store.steampowered.com/app/2349820/Heros_Land/TH

Share:

ฮีลใจสุด! จิม ทอมป์สัน เปิดบ้านจัดคลาสพิลาทีส Glow & Flow สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ “The Moonlight Hall” ห้องจัดอีเวนต์เปิดใหม่ไวบ์ดีกับวิวสวยริมน้ำใจกลางกรุงเทพฯ

กรุงเทพฯ 26 เมษายน 2567 — จิม ทอมป์สัน แบรนด์ไอคอนิกไลฟ์สไตล์ระดับโลกจากเมืองไทย จัดอีเวนต์ดีต่อใจ ชวนครูพิลาทิสชื่อดัง คุณเดือน-พิยะดา นันทะ เจ้าของพิลาทิสสตูดิโอ Didi Pilates Studio เปิดคลาสพิลาทิส Glow & Flow ในแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ The Moonlight Hall ห้องจัดอีเวนต์สุดไอคอนิกในพื้นที่ของแลนด์มาร์กดังใจกลางกรุงเทพฯ “Jim Thompson Heritage Quarter” โดยผู้ที่เข้าคลาสได้เรียนรู้เทคนิคการใช้กล้ามเนื้อและกำหนดลมหายใจในแบบฉบับของพิลาทิส ท่ามกลางสถานที่จัดคลาสที่สวย สงบ กว้างขวาง และร่มรื่น  

The Moonlight Hall เป็นสเปซจัดงานที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกไว้รองรับไพรเวตอีเวนต์หลากหลายโอกาส ทั้งยังโดดเด่นด้วยการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ท่ามกลางบรรยากาศบ้านไทยจิม ทอมป์สันแสนงดงามที่ด้านนอก หน้าต่างบานใหญ่รอบ ๆ ยังให้ความรู้สึกโปร่งสบายตา สามารถรับแสงจากธรรมชาติและวิวระเบียงริมน้ำด้านนอกได้อย่างเต็มตา  

ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ และเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า ลูกค้าสามารถจัดเวิร์กช็อป งานสัมมนา งานประชุม ไพรเวตปาร์ตี้ หรือแม้กระทั่งพิธีการมงคลสมรสได้ในรูปแบบที่ต้องการ โดย The Moonlight Hall พร้อมจัดเตรียมบริการและอุปกรณ์แสงสีเสียงล้ำสมัยไว้สร้างความประทับใจให้แขกทุกคนในงาน

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The Moonlight Hall ได้ที่ https://jimthompsonrestaurant.com/restaurant/the-moonlight/

#JimThompson #MoonlightHall #BeyondSilk

Share:

SACIT ปลุกพลังกระตุ้นผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ GI เชิญชวนผู้ผลิต หรือผู้ประกอบการสินค้าหัตถกรรม GI

“SACIT Concept 2024 : Geographical Indications of Art and Craft” เปิดเวทีงานออกแบบ Craft Design Pitching & Matching 

สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ สศท. ชวนผู้ผลิต หรือ ผู้ประกอบการสินค้าหัตถกรรม GI ได้แก่ ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม กลุ่มสมาชิกของ สศท. ช่างฝีมือ ชุมชนหัตถกรรม ผู้ประกอบการทั่วไป ร่วมกับ นักออกแบบ ได้แก่ นักสร้างสรรค์ และนักออกแบบผลิตภัณฑ์ กลุ่มพันธมิตรเครือข่ายองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยพร้อมบรรจุภัณฑ์ ผสานองค์ความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นกับนวัตกรรมด้วยความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ มีมาตราฐานสินค้าผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย เกิดคุณค่าและความยั่งยืน 

นางสาวนฤดี ภู่รัตนรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรม รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย กล่าวว่า โครงการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดเชิงพาณิชย์ กิจกรรม SACIT Concept 2024 : Geographical Indications of Art and Craft ดำเนินการเป็น Craft Design Matching การจับคู่กันระหว่าง ผู้ผลิต หรือผู้ประกอบการสินค้าหัตถกรรม GI กับ นักออกแบบ โดยร่วมกันออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย พร้อมบรรจุภัณฑ์ ที่เกิดจากการสืบสาน ต่อยอดองค์ความรู้งานศิลปหัตถกรรมแบบดั้งเดิมที่ได้รับการต่อยอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น (From Root to Route) ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของคุณรุ่นใหม่ให้มีความชัดเจนและพัฒนาให้เกิดความร่วมสมัย นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่สอดรับกับภูมิปัญญาท้องถิ่น ในปีนี้ เราได้ออกแบบโครงการภายใต้แนวคิด 

GI Smart Craft Combinations: คราฟต์ ผสมผสาน อย่างชาญฉลาด คือ การสร้างเครือข่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมให้เพิ่มมากขึ้น ระหว่าง กลุ่มผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการด้านศิลปหัตถกรรม และนักออกแบบ เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย ในรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ วัสดุ วัตถุดิบ การทำสี และการพัฒนาศักยภาพให้กับผู้ประกอบการศิลปหัตถกรรมไทย พร้อมยกระดับเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย ให้สามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์ ภายใต้การกำกับดูแลของผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เราคาดหวังจะได้เห็นผลงานศิลปหัตถกรรมการออกแบบใหม่ ๆ ที่ฉีกกรอบเดิม และสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ทุกผลงานที่ผ่านเข้ารอบและพัฒนาจะได้เข้าร่วมแสดงนิทรรศการและทดสอบตลาด รวมถึงจัดทำหนังสือรวบรวมองค์ความรู้ จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์

โครงการนี้ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแต่ละด้านร่วมพิจารณารอบคัดเลือก และรอบจับคู่ Pitching & Matching คณะกรรมการดำเนินการ พิจารณาข้อมูลเพื่อจับคู่ ผู้ประกอบการสินค้าหัตถกรรม จำนวน 3 ราย ต่อนักออกแบบ จำนวน 1 ราย 

ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครและส่งสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ – 1 พฤษภาคม 2567 ผ่านทาง https://www.sacit.or.th/th/detail/2024-04-19-17-44-37?event-project=1 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรม สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) 

ที่อยู่ 59 หมู่ 4 ตำบลช้างใหญ่ อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13290 ; โทรศัพท์. 0 3536 7054-9; โทรสาร. 0 3536 7050-1; สายด่วน. 1289; อีเมล. info@sacit.or.th


Share:

เปิดอาณาจักร “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์”ผู้นำแถวหน้าของโลกธุรกิจ OEM-ODM เครื่องสำอาง และสุขภาพครบวงจร

สินค้าแบรนด์ดังกว่า 1,000 แบรนด์ จาก 300 บริษัททั่วโลก มายาวนานกว่า 35 ปี

​เปิดอาณาจักร “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ จำกัด” ผู้นำแถวหน้าของโลกธุรกิจ OEM-ODM ผลิตภัณฑ์ด้านความงาม และสุขภาพ B2B ครบวงจร ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากว่า 300 บริษัทชั้นนำจากทั่วโลก อาทิเช่น Unilever, Boots, Srichand, IN2IT, DKSH และอื่นๆอีกมากมาย ให้ผลิตสินค้าจำนวนมากกว่า 1,000 แบรนด์ ส่งออกไปยังมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกมายาวนานกว่า 35 ปี โดยล่าสุดทุ่มงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาพื้นที่โรงงาน และนำเข้าเครื่องจักรที่ทันสมัย รองรับการผลิตที่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำบริษัทด้านการผลิตระดับโลก ตั้งเป้าเป็นองค์กรณ์ที่ยั่งยืนโดยมี อัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 หลักในทุกปี

​นางสาวรุ่งระวี กิตติสินชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้นำด้านการผลิตและพัฒนาเครื่องสำอาง และสุขภาพครบวงจร B2B ครอบคลุมประเภทสินค้า Skin Care, Personal Care, Color Cosmetics, Toiletries, Hair Product, Medical Device, Food Supplement, Household Product ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2532 โดยการร่วมทุนกับ        บริษัท ไมลอทท์ คอสเมติค คอร์เปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทรับผลิตสินค้า OEM TOP 3 ของประเทศญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์ด้านการผลิตเครื่องสำอางมายาวนานกว่า 85 ปี โดยผสมผสานความรู้ด้านการผลิตที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น เข้ากับที่ตั้งทางยุทธศาสตร์การผลิตและแรงงานที่มีราคาถูก มีคุณภาพของประเทศไทย ให้บริการแบบ “One Stop Service” ตั้งแต่กระบวนการนำเสนอ Concept จนผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปพร้อมวางจำหน่ายโดยสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ 51% และกลุ่ม ไมลอทท์ ประเทศญี่ปุ่น 49%

​ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการส่งเสริมและสนับสนุน แบรนด์ด้านความงามและสุขภาพทั่วโลก ที่มีนวัตกรรม มีคุณภาพเหนือกว่า รวมถึงการให้บริการที่รวดเร็ว มี Commitment โดยมุ่งมั่นที่จะเสนอโซลูชั่นให้ตรงความต้องการของลูกค้า ซึ่งการขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จและตอบสนองความต้องการของแบรนด์ ต่างๆนั้น ได้จากการผ่านค่านิยมของบริษัท คือ FAITH ขณะเดียวกันเราก็มุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งต่อความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน สิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยเราให้คำนิยามค่านิยมของบริษัทไว้ดังนี้

FAITH​​F คือ Flexible ความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า

​​A คือ Agile ความรวดเร็วที่สนองตอบตามความต้องการลูกค้าในทุกแผนก

​​I คือ Integrate Positive Thinking การบูรณาการความคิดในเชิงบวก

​​T คือ Teamwork การทำงานเป็นทีม

​​H คือ Honesty ความซื่อสัตย์ทั้งต่อตนเอง ลูกค้า คู่ค้าและสังคม

​ตลอด 35 ปี “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์” ไม่เคยหยุดพัฒนาศักยภาพของตัวเอง เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำระดับโลก โดยล่าสุดได้ทุ่มงบประมาณกว่า  1,000 ล้านบาท สร้างโกดังสินค้าและต่อเติมอาคาร บนเนื้อที่กว่า 150,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่สูงถึง 10,000 ตัน หรือประมาณมากกว่า 100 ล้านชิ้นต่อเดือนนอกจากนี้ยังนำเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพรวมถึง AI และระบบบริหารจัดการให้ทันสมัย โดยสัดส่วนการผลิตสินค้าของโรงงานในปัจจุบัน คือกลุ่ม Skin Care, Personal Care, Hair product 65%, Make up 15%, Homecare 10-15%, และอื่นๆ 10%

​เนื่องจากในปัจจุบันการแข่งขันธุรกิจเครื่องสำอางเติบโตขึ้นมาก แม้ทั่วโลกจะประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 แต่วงการความงามกลับมีสินค้าใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย สินค้าเกี่ยวกับความงามมีปัจจัยภายนอกเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเราจะเห็นว่าเครื่องสำอางบางยี่ห้อมีการปรับเปลี่ยนสูตร เปลี่ยนดีไซน์แพคเกจจิ้งอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะสินค้าที่เน้นการขายในช่องทางออนไลน์ บางครั้งปรับเปลี่ยนจนผู้บริโภคตามไม่ทัน ซึ่งตลาดสินค้ากลุ่มนี้ในประเทศต่างๆ ก็มีความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น ประเทศในโซนยุโรบ อเมริกา ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างจะเน้นไปในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่วนโซนเอเชียเน้นสินค้าที่ใช้ได้ผลในราคาที่คุ้มค่า มีความหลากหลายของดีไซน์แตกต่างกันออกไป แต่ประเทศที่มีอิทธิผลต่อการเปลี่ยนแปลงของวงการสินค้าความงามมากที่สุดในขณะนี้ คือ ประเทศเกาหลี

​นางสาวรุ่งระวี กล่าวอีกว่าที่ผ่านมา เราเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดและความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย และเห็นว่ามีผู้ประกอบการ SME จำนวนมาก ที่ต้องการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเองออกมาขาย รวมถึง Global brand ที่ต้องการให้เรานำเสนอสินค้าใหม่ๆ เราจึงผันตัวเองมาลุยธุรกิจ “ODM” เต็มรูปแบบมากขึ้น เพื่อให้บริการลูกค้ากลุ่ม “ODM” แบบ One Stop Service เนื่องจากเรามีทีมงานที่มีคุณภาพ ในทุกส่วน เช่น มี R&D เฉพาะในทุกประเภทสินค้า มีเครื่องจักร มีระบบ IT ที่ใช้ในการบริหารจัดการที่ทันสมัย เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วโลก โดยเราสามารถผลิตสินค้าจำนวนน้อยที่สุดหลักพัน ไปจนถึงมากกว่า 100 ล้านชิ้นต่อเดือน

​บริษัทได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นของยอดขายไว้ที่ 2 หลักในทุกๆปี ด้วยการมุ่งทำการตลาดในต่างประเทศมากขึ้น เช่น ยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง เป็นต้น บริษัทฯ ได้เพิ่มงบประมาณในการโฆษณาและออกงาน Exhibition ต่างๆ รวมถึงการนำเสนอในงานแสดงสินค้า “Cosmoprof CBE ASEAN 2024” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 มิถุนายน 2567 นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสัดส่วนลูกค้าในปัจจุบัน ภายในประเทศอยู่ที่ 45% และต่างประเทศอยู่ที่ 55% ขณะนี้อยู่ในยุคเปลี่ยนผ่าน            สู่ Young Generation ภายใต้การนำของคุณ จิรัชยา วามะศิริ บุตรสาวของท่านประธาน มาร่วมเป็นผู้บริหารในการวางแผนต่อยอดธุรกิจออกสู่ต่างประเทศโดยนอกจากมีพันธมิตรญี่ปุ่นแล้ว ยังร่วมหาพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศ เช่น เกาหลี กลุ่มประเทศในยุโรป อเมริกา เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการศึกษาวิจัย วัตถุดิบต่างๆ เทรนด์ตลาด เพื่อสร้างโซลูชั่นใหม่ให้กับลูกค้าในตลาดต่างประเทศมากขึ้น

​นางสาวรุ่งระวี กล่าวเพิ่มเติมว่า การเป็นโรงงานรับจ้างผลิต OEM – ODM เครื่องสำอางเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับเทรนด์ ความงามในช่วงนั้นๆ ต้นทุน ราคาวัตถุดิบ         ที่ผันผวนตลอดเวลาตามสถานะการณ์โลก ซึ่งเราต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงคู่แข่งที่เราจะต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งในประเทศจีน อินเดีย อินโดนีเซีย หรือแม้แต่เจ้าของแบรนด์ดังที่มีโรงงานผลิตเองดังนั้น ต้นทุนการผลิตจึงสำคัญมาก ทำให้บริษัทมีกำไรน้อยเมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา ด้วยการบริหารอย่างระมัดระวัง การมีวินัยทางการเงินที่เคร่งครัด เราจึงค่อยๆเติบโตได้อย่างมั่นคง ทำให้ยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเดิมด้วยดีเสมอมา และลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นในทุกปี

​คณะผู้บริหารภายใต้การนำของท่านประธาน นิพนธ์ วามะศิริ ผู้ก่อตั้งบริษัท เป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล คิดจริง ทำจริง มีความมุ่งมั่น เป้าหมายคือ องค์กรต้องยั่งยืน ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เราต้องสามารถปรับตัวให้ได้ในทุกสถานการณ์ เน้นการบริการให้ครบวงจรให้มากที่สุด สร้างความพึงพอใจตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละ Segment  ด้วยความซื่อสัตย์และดำเนินธุรกิจแบบมีส่วนร่วม เป็นพันธมิตรทั้งกับลูกค้าและคู่ค้า เช่น Supplier ที่มีทั้งในและต่างประเทศ แบบ WIN – WIN เพื่อสิ่งดีๆที่จะมอบให้กับผู้บริโภค ในแต่ละแบรนด์ ในที่สุดผลลัพธ์ก็จะกลับมาสู่ ลูกค้า คู่ค้า บริษัท พนักงาน และธุรกิจที่ยังดำเนินได้ในประเทศไทย

​สำหรับ”หัวใจสำคัญ ที่ทำให้ “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์” ประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบันคือ “คน” บริษัทถือว่า “คน” เป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุด บริษัทมีความภาคภูมิใจที่มีพนักงานที่ดี มีคุณภาพ ตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์ ร่วมทุกข์ร่วมสุขและรักองค์กร เราเชื่อเสมอว่าการมีทีมงานที่ดี คอยสนับสนุนในทุกๆด้านจึงทำให้เราเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้ และต่อๆไปในอนาคต” นางสาวรุ่งระวี กล่าวสรุปในตอนท้าย

Share:

เทศกาลสงกรานต์นี้มีเมนูพิเศษ!! อาหารไทย 4 ภาค ห้องอาหาร Eat Drink Love สุวรรณภูมิ โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ

วันนี้ Insight ขอแนะนำ ร้านอาหารแนะนำ สนามบินสุวรรณภูมิ ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาทีคะ  ที่ห้องอาหาร Eat Drink Love สุวรรณภูมิ  โรงแรม The Park Nine Suvarnabhumi

โรงแรมฯ ตั้งอยู่บนถนนลาดกระบัง ตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าโรบินสันลาดกระบัง หลังจากพักผ่อนแล้วยังแวะมาช๊อปปื้งที่ห้างได้อีกด้วย  ที่สำคัญที่นี่ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเพียงไม่กี่นาที  บอกได้เลย พักที่นี่ เดินทางสะดวกมากๆๆ  ใกล้ทางด่วนและวงแหวนรอบนอกไปสู่ EEC (ฉะเชิงเทรา/ชลบุรี/ระยอง) 

"โรงแรมเดอะ พาร์ค ไนน์ สุวรรณภูมิ คอนเซปท์ของที่นี่คือ Airport Hotel เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ  ที่นี่จะสบายๆ เก๋ๆ มีสไตล์ ตกแต่งแบบ Modern ล็อบบี้ของเราจะตกแต่งแบบ Minimal ไม่เยอะชิ้นแต่ดูดี ประกอบด้วย ห้องพัก  ร้านอาหาร ฟิสเนต Facility ที่ครบครัน  สามารถจัดเลี้ยง งานแต่ง งานสัมมนา และยังมีธรรมชาติ ด้านหลังเป็นคลองประเวศน์บุรีรมย์ เป็นธรรมชาติมาก โดยเฉพาะชั้นที่ 7 วิวสวยดีมาก ลูกค้าของเราประกอบด้วย 2 ส่วน ลูกค้าระยะสั้น และลูกค้าระยะยาว ภาพรวมของโรงแรมนี้ จะเน้นแบบมีสไตล์ การบริการที่เป็นกันเอง  

ร้านอาหาร Eat Drink Love สุวรรณภูมิ  จ้ดเมนูพิเศษ ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ กับอาหารไทย 4 ภาค  

 

อาหารไทยภาคเหนือ สุวรรณภูมิ

"Sai Oua' Grilled Northern 
Thai Pork Sausage
ไส้อ้่วย่าง
Young Jackfruit Curry 
with Baby Pork Ribs
แกงขนุนชี่ใครงอ่อน
อาหารไทยภาคอีสาน สุวรรณภูมิ
Braised Beef Spicy Soup
ต้มแซ่บเนื้อตุ๋น
เสริฟมาในหม้อดิน  ใช้เนื้อวากิว ตุ๋นจนเปื่อย อร่อยแซ่บ เนื้อนุ่มละมุนลิ้น
Spicy Minced Pork Salad
ลาบหมู
 
อาหารไทยภาคกลาง สุวรรณภูมิ
 "Tom Yum" Spicy & Sour Creamy Soup 
with River Prawn 
กุ้งแม่น้ำต้มยำน้ำข้น
Shrimp Paste Fried Rice with River Prawn Dried Red
ข้าวผัดกะปิกับฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ
อาหารไทยภาคใต้ สุวรรณภูมิ
Southern Stir-Fried Pork 
with Yellow Curry Paste
คั่วกลิ้งหมูสับ
Stir Fried Bitter Beans 
with Ground Pork and Shrimp
ผัดสะตอกุ้งกับหมู
วันนี้ของหวานกับ 
แคร็ปรูว์แชีตเสริฟกับไอศกรีมวนิลา 
Crepe Suzette with Vanilla Ice-cream  
เมนูมื้อพิเศษประจำหน้าร้อนเดือนเมษายนนี้ ถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้นต่ละเมนูเรียกได้เชฟฝีมือดี วัตถุดิบคัดสรรอย่างดี อยากให้มาเปิดประสบการณ์อาหารไทย อร่อยรสชาติแท้อาหารไทย เมนูแนะนำ ห้องอาหาร Eat Drink Love สุวรรณภูมิ 

โรงแรมที่เดินทางสะดวก ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เพียง 10 นาที และ 10 นาทีจากสถานที่รถไฟฟ้า ARL ลาดกระบัง  กับบริการที่เหนือระดับในราคาจับต้องได้ สุดคุ้ม  

Share:

จังหวัดสระแก้ว จัดงานยิ่งใหญ่ “น้อมรำลึกสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” 26–28 เม.ย. 67

พบกับการแสดง แสง สี เสียง เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 

ภายใต้รูปแบบศิลปะกู้ชาติ ศาสตร์คู่แผ่นดิน ตอน ราชาแห่งนักรบ เดอะมิวสิคัล สุดพิเศษ

เชิญชวนมาเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โอกาสสัมผัสเสน่ห์เมืองสระแก้วที่ไม่เหมือนใคร

วันที่ 17 เมษายน 2567 ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว นายภูมิวัชร์ อุดมทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานจัดงานแถลงข่าว “โครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอารยธรรม” กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567” ระหว่างวันที่ 26-28 เมษายน 2567 เวลา 17.00-23.00 น.” โดยมี วัตถุประสงค์กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวและใช้จ่ายในพื้นที่ 

รวมถึงเผยแพร่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสระแก้ว ยกระดับมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว เชื่อมโยงเข้ากับอารยธรรมโบราณ เพิ่มขีดความสามารถสู่แหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนสุขชาติวิถี เพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวและกระตุ้นการกระจายรายได้สู่ชุมชน และเพื่อน้อมรำลึกถึงวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ ซึ่งตรงกับ ๒๕ เมษายน ของทุกปี จึงให้มีการจัดโครงการนี้ขึ้น โดยมี นายณัฐรินทร์ วงศ์ภิรพัทธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสระแก้ว และนายจักรกฤษณ์ ธนะนพรัตน์ นายอำเภอวัฒนานคร รวมถึงส่วนราชการ สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงาน  

สำหรับบรรยากาศในงานแถลงข่าว นายภูมิวัชร์ อุดมทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นำส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีบวงสรวงงาน โดยถือฤกษ์ 17.09 น. ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ในปัจจุบัน วันนั้น ณ ที่สถานแห่งนี้ “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ซึ่งตามตำนานระบุว่า “หลังจากที่พระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์แห่งอาณาจักรพุกาม บุกโจมตีกรุงศรีอยุธยาแตกครั้งแรกเมื่อราวปี พ.ศ. 2112 
สมเด็จพระนเรศวร ซึ่งในขณะนั้นพระองค์ทรงเป็นองค์ประกันอยู่ที่หงสาวดี ได้ทรงเสด็จกลับจากอาณาจักรพุกามมาเป็นพระมหาอุปราชปกครองเมืองพิษณุโลก ต่อมาพระยาละแวกกษัตริย์อาณาจักรขอมเห็นว่ากรุงศรีอยุธยาในขณะนั้นกำลังอ่อนแอลงหลังจากเพิ่งแพ้ศึกสงครามให้กับอาณาจักรพุกาม พระยาละแวกจึงพยายามนำกำลังพลเข้าโจมตีพระนครศรีอยุธยาหลายครั้ง สมเด็จพระนเรศวรจึงได้ทรงนำกองทัพไปทำศึกสงครามกับพระยาละแวก และได้มีการกวาดต้อนผู้คนบริเวณเส้นทางเดินทัพหลายครั้ง โดยพระองค์ทรงโปรดให้ตั้งค่ายและสะสมเสบียงที่ค่ายพระทำนบ (ซึ่งในปัจจุบันคือพื้นที่บริเวณ อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว) ภายหลังมีชัยชนะเหนือพระยาละแวกแล้ว พระนเรศวรทรงรวบรวมกำลังพลและทำศึกกับเมืองต่างๆ ที่พยายามแข็งข้อจนกระทั่งพระองค์ทรงประกาศอิสรภาพจากพม่าที่เมืองแครง และทรงรวบรวมกำลังพลทำการศึกจนกระทั่งกอบกู้เอกราชสำเร็จ” 

สำหรับการจัดงาน “น้อมรำลึกสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ระหว่างวันที่ 26–28 เมษายน 2567 เวลา 17.00-23.00 น. ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้วนั้น ภายในงานมีไฮไลต์ การแสดง แสง สี เสียง เทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายใต้รูปแบบศิลปะกู้ชาติ ศาสตร์คู่แผ่นดิน ตอน ราชาแห่งนักรบ เดอะมิวสิคัล กำกับการแสดงโดย คุณนพพร เพริศแพร้ว นักแสดงนำโดย นายธวัช พรรัตนประเสริฐ (เอิร์ธ) – พระยาละแวก 

ทั้งนี้ ยังมีการแสดงรำบวงสรวงจากหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนทั้ง 9 อำเภอของจังหวัดสระแก้ว รวมกว่า 300 คน รวมถึงมีการแสดงจากนักแสดงมืออาชีพจากทีมสะบัดลาย ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ จำนวน 70 คน ซึ่งการแสดงจะจัดการทำบท และเพลงรวมถึงรูปแบบการแสดงในรูปแบบร่วมสมัยเข้าใจง่าย นักแสดงทุกคน จะตีความผ่านบทกวี ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นของจังหวัดสระแก้ว ผ่านการละครในแบบเดอะมิวสิคัลเธียเตอร์ อย่างยิ่งใหญ่ อีกทั้งยังมีศิลปินมาร่วมสร้างสีสันอย่าง ศาล สานศิลป์, เปา เปาวลี, หลิว อาจารียา และศิลปินอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ภายในงานยังมีนิทรรศการต่างๆ การประกวดไก่ชนสวยงาม ศิลปะการต่อสู้มวยไทยสานสัมพันธ์สองแผ่นดิน ไทย-กัมพูชา และสินค้าจากกลุ่ม OTOP สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสระแก้ว สำนักงานเกษตรจังหวัดสระแก้ว จำนวนมากกว่า 70 บูธ เพื่อกระตุ้นการกระจายรายได้สู่ประชาชนผู้ประกอบการในจังหวัดให้คึกคักอีกด้วย    

จังหวัดสระแก้วขอเชิญเที่ยวชมงาน “น้อมรำลึกสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26–28 เมษายน 2567 เวลา 17.00-23.00 น. ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ห้ามพลาด!

#น้อมรำลึกสมเด็จพระนเรศวรมหาราช #เที่ยวสระแก้ว #ชิมช้อปOTOPสระแก้ว #สนับสนุนสินค้าสระแก้ว

#โครงการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอารยธรรมสระแก้ว

Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก