สุรินทร์ By Gastronomy Tourism


วันนี้เราชวนมาเที่ยวเส้นทางสายกิน อาหารถิ่นในตำนาน สร้างสรรค์และออกแบบสินค้าเส้นทางอาหารไทย (Gastronomy Tourism) เส้นทางสายภูมิปัญญา และผลิตภัณฑ์ชุมชน ให้เกิดการรับรู้ และเป็นไปตาม Lifestyle ของกลุ่มเป้าหมายสำหรับ นักท่องเที่ยว และกลุ่มตลาดในประเทศ เราพบว่าแท้จริงแล้ว หนทางสู่ความเส้นทางท่องเที่ยวแบบสร้างสรรค์ รับรู้ภาพลักษณ์ของประเทศไทย ในการเป็น World Destination ทางด้านอาหาร ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในการเป็น World Destination ทางด้านอาหาร ซึ่งอาหารไทยเป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวที่สำคัญสามารถกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว ทำให้เข้าใจและสัมผัสแต่ละสถานที่อย่างอิ่มเอม เที่ยวอย่างมีคุณค่าและถึงแต่ละสถานที่อย่างแท้จริง


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย แนะนำเส้นทางเที่ยว พาเที่ยวสำรวจและจัดทำเส้นทางสายกิน อาหารถิ่นในตำนาน (Gastronomy Tourism) สัมผัสธรรมชาติให้ชุ่มฉ่ำกันทั้งปี จำนวน 10 เส้นทาง ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ของเราไปกันได้ กระจายไปทุกภูมิภาค ได้แก่ จังหวัดตาก พะเยา สกลนคร สุรินทร์ ตราด ราชบุรี ระนอง สตูล อ่างทอง-สิงห์บุรี และลพบุรี เพื่อขานรับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคของรัฐบาล ด้วยการใช้การท่องเที่ยวมาเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เส้นทางยอดนิยม 10 เส้นทาง ลองมาอยู่ด้วยกัน จะเหลืออะไรอีกไหมที่ต้องปรับ ต้องรู้จัก ครั้งนี้ ททท. พิจารณาเลือก 5 เส้นทางได้แก่ จังหวัดตาก สุรินทร์ ตราด สตูล และลพบุรี มาดำเนินการจัดเป็น กิจรรมท่องเที่ยวนำร่องเพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสประสบการณ์จริง ทริปนี้เจออะไรใน เส้นทางมาดูกันค่ะ อร๊ายยย.. ต้องไปแล้ว!


ปราสาทบ้านพลวง ความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหน มีความสวยงามและล้ำค่าเป็นปราสาทขนาดเล็ก ๑ องค์ ก่อสร้างด้วยหินทรายสีขาว บนฐานศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้างประมาณ ๘ เมตร ยาวประมาณ ๒๓ เมตร ปราสาทมีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีประตูทางเข้าออกด้านทิศตะวันออก ส่วนอีก ๓ ด้านทำเป็นประตูหลอก ทับหลังด้านทิศตะวันออกและทิศใต้สลักเป็นภาพพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ทับหลังด้านทิศเหนือเป็นภาพพระกฤษณะปราบนาคกาลิยะ ส่วนทับหลังด้านทิศตะวันตกไม่ได้สลักภาพ ซึ่งหน้าบันด้านทิศตะวันออกสลักเป็นภาพพระกฤษณะยกเขาโควรรธนะ หน้าบันทิศเหนือสลักภาพพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ และหน้าบันด้านทิศใต้สลักเป็นภาพบุคคลประทับนั่งเหนือหน้ากาล บริเวณรอบปราสาทมีสระน้ำล้อมรอบเว้นทางเข้าด้านหน้า โดยลักษณะของปราสาทบ้านพลวง จะคล้ายกับปรางค์น้อยบนเขาพนมรุ้ง ประกอบกับลวดลายที่พบบนหน้าบันและทับหลัง กำหนดรูปแบบทางศิลปะได้ว่าป็นศิลปะขอมแบบบาปวน อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖


เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาสวาย มีพื้นที่ทั้งหมด 18,145 ไร่


วนอุทยานพนมสวาย สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรม เมืองที่ชนะขาดเรื่องของธรรมชาติ และงานย้อนยุคที่มีร่องรอยอารยธรรมของชาวขอมโบราณ หลอมรวมกลายเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น ความสวยของโบราณสถานที่ยังอนุรักษ์กันไว้ได้เหมือนเดิมเด๊ะ ตั้งแต่อตีดยันปัจจุบัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางพุทธศาสนา ที่มีชื่อเสียง ทุกปีจะมีประเพณีสำคัญในช่วงวันขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 ชาวเมืองสุรินทร์จะชวนกันเดินขึ้นเขาพนมสวาย จนเป็นประเพณีที่ทำสืบทอดกันมาเพื่อเป็นสิริมงคลต่อตนเอง คำว่า พนมสวาย เป็นคำภาษาพื้นเมืองของชาวสุรินทร์ การเดินทาง เที่ยวง่ายๆ เมืองที่มีความหมายว่า ภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ครอบคลุมพื้นที่ตำบลนาบัว อำเภอเมือง และตำบลเชื้อเพลิง อำเภอปราสาท อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาสวาย มีพื้นที่ทั้งหมด 18,145 ไร่ ได้รับการประกาศเป็นวนอุทยานเมื่อ วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ.2527 ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ของจังหวัดสุรินทร์ เต็มไปด้วยป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงาม  นอกจากนี้ยังเป็นวนอุทยานเฉลิมพระเกียรติในประเทศไทย และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธา


ช้อปปิ้งที่ตลาดน้ำราชมงคลสุรินทร์ อยู่บริเวณท่าน้ำลำห้วย หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ถนน สุรินทร์ – ปราสาท ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ห่างจากตัวจังหวัด 3 กิโลเมตร โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ร่วมกับ กองกำลังสุรนารี ร่วมก่อตั้ง เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ภายในจังหวัด แวะชิวหาของกินที่นี่เป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอย ในบริเวณตลาดริมน้ำเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เลาะเลี้ยวริมฝั่งลำน้ำห้วยเสนงแหล่งน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงคนสุรินทร์มายาวนาน รวมถึงกิจกรรมนั่งช้างชมป่า ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยการนั่งช้างไปตามเส้นทางประวัติศาสตร์ 60 ปี การเสด็จประพาสสุรินทร์ ตลาดน้ำราชมงคลสุรินทร์ เปิดเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น.–18.00 น. ตลาดน้ำแห่งนี้จะคึกคักเป็นพิเศษในวันอาทิตย์ เนื่องจากมีตลาดนัดกรีนมอร์ จำหน่ายสินค้าชุมชนในบริเวณเดียวกันด้วย


ผ้าไหมทอบ้านท่าสว่าง ตามแบบฉบับที่ร่ำลือกันว่าหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงหัตถกรรมผ้าไหมแห่งเดียวของประเทศไทย บ้านท่าสว่าง หมู่ที่ 1 ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ลองเที่ยวเมืองที่มีเป็นหนึ่งหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ บ้านท่าสว่างเดิมชื่อบ้านเตรี๊ยะ เป็นภาษาพื้นบ้าน (เขมร) คำว่าเตรี๊ยะ เป็นชื่อพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่ง ภาษาไทยว่าต้นชาด บรรพบุรุษของชาวบ้านเตรี๊ยะ ได้อพยพมาจากบ้านระเภาร์ เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ห่างจากบ้านเตรี๊ยะไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร ในปี พ.ศ. 2485 ได้รวมหมู่บ้านเตรี๊ยะกับหมู่บ้านอื่นๆ เป็นตำบลท่าสว่าง และบ้านเตรี๊ยะ ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นบ้านท่าสว่างตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ลวดลายผ้าไหมสวยเก๋น่าซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ทุกมุมของที่นี่ช่างน่าเก็บภาพความประทับใจเอาไว้ทั้งหมด


สวยเริ่ดเชิ่ดได้! เพราะในปี 2553 บ้านท่าสว่าง ได้รับคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวเชิงหัตถกรรมผ้าไหม แห่งเดียวของประเทศ โดยกรมการพัฒนาชุมชนกรมพัฒนาชุมชนได้ดำเนินงานโครงการหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาหมู่บ้านที่มีจุดเด่น และมีเอกลักษณ์ ให้มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว เป็นการเพิ่มรายได้ให้ประชาชนในหมู่บ้านจากบริการด้านท่องเที่ยว


โลกแห่งความจริง ที่ปราสาทศีขรภูมิ สวยจนแทบหยุดหายใจ ความสวยงามสงบร่มรื่นดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสำรวจและพักผ่อนที่นี่ แม้ว่าการเดินทางอาจจะไกลสักหน่อย ตั้งอยู่ที่ตำบลระแงง ห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ 34 กิโลเมตร ตามเส้นทางหมายเลข 226 โดยอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอไปอีก 1 กิโลเมตร ปราสาทศรีขรภูมิประกอบด้วยปรางค์อิฐ 5 องค์ องค์กลางเป็นปรางค์ประธาน มีปรางค์บริวารล้อมรอบอยู่ที่มุมทั้งสี่บนฐานเดียวกัน ที่ธรรมชาติช่างเสกสรรค์ ก่อด้วยหินทรายและศิลาแลง

ปราสาทหันหน้าไปทางทิศตะวันออก อย่างใกล้ชิดธรรมชาติ มีบันไดทางขึ้นและประตูทางเข้าเพียงด้านเดียวคือด้านทิศตะวันออกปรางค์ทั้งห้าองค์มีลักษณะเหมือนกัน คือ องค์ปรางค์ไม่มีมุข มีชิ้นส่วนประดับทำจากหินทรายสลักเป็นลวดลายต่างๆ ทั้งส่วนที่เป็นทับหลังและเสาประดับกรอบประตู เสาติดผนัง และกลีบขนุนปรางค์ ส่วนหน้าบันเป็นอิฐประดับลวดลายปูนปั้น องค์ปรางค์ประธานมีทับหลังสลักเป็นรูปศิวนาฏราช (พระอิศวรกำลังฟ้อนรำ) บนแท่น มีหงส์แบก 3 ตัวอยู่เหนือเศียรเกียรติมุข มีรูปพระคเนศ พระพรหม พระวิษณุ และนางปารพตี (นางอุมา) อยู่ด้านล่าง เสาประตูสลักเป็นลวดลายเทพธิดาลายก้ามปูและรูป

หมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก ทวารบาล ศูนย์คชศึกษา หรือ หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิถีความเป็นอยู่ ความผูกพันระหว่างคนในชุมชนกับช้าง รวมทั้งประเพณี และวัฒนธรรมที่น่าชื่นชมอย่างใกล้ชิด ชาวบ้านตากลางแต่ละครัวเรือนจะมีช้างที่เลี้ยงไว้อาศัยอยู่รวมกัน จนช้างที่พวกตนเลี้ยงไว้เปรียบเสมือนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของตน ก่อให้เกิดสายใยความผูกพันที่แน่นเฟ้นขึ้น ระหว่างคนกับช้าง ณ บ้านตากลาง จ. สุรินทร์ ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก

ชาวบ้านตากลาง ดั้งเดิมเป็น ชาวส่วย (กูย) หรือ กวย ที่มีความชำนาญในการคล้องช้างป่า ฝึกหัดช้าง และเลี้ยงช้าง ส่วนมากต้องเดินทางไปคล้องช้างบริเวณชายแดนต่อเขตประเทศกัมพูชาประชาธิปไตย ปัจจุบันสภาวะการเมืองระหว่างประเทศทำให้ชาวบ้านตากลาง ไม่สามารถไปคล้องช้างเช่นแต่ก่อนได้ ชาวบ้านตากลางยังคงเลี้ยงช้าง และฝึกช้างเพื่อไปร่วมแสดงในงานช้าง (Thailand Elephant show) บรรยากาศป่าเขตร้อนอันเขียวชอุ่มร่มรื่นของจังหวัดทุกปี

ชีวิตเป็นของเรา..ออกไปใช้มันสะ ที่นี่ควรค่าแก่การไปทำความรู้จัก หมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก ลักษณะการเลี้ยงช้างของชาวบ้านตากลาง เหมือนการเลี้ยงช้างไว้เป็นเพื่อน นอนร่วมชายคาเดียวกับตน ดังนั้นถ้านักท่องเที่ยวได้ไปที่บ้านตากลาง นอกจากจะได้เห็นสภาพโรงช้างดังกล่าวแล้ว ยังจะได้สัมผัสการดำรงชีวิตของ ชาวส่วย โดยเฉพาะในพื้นที่จะได้พบปะพูดคุยกับหมอช้าง ที่มีประสบการณ์ในการคล้องช้างมาแล้วหลายครั้งได้ตลอดเวลา รวมทั้งยังสามารถเดินทางชมจุดบริเวณที่แม่น้ำชีและแม่น้ำมูลไหลมารวมกัน ซึ่งห่างออกไปเพียง 3 กิโลเมตร มีทัศนียภาพที่งดงามน่าพักผ่อนหย่อนใจ ชวนให้ศึกษาในเชิงของธรรมชาติด้วย

สถานที่ : ทีกล้า ฟาร์ม จังหวัดสุรินทร์
รับทานมื้อเย็นในระหว่างเดินนทางท่องเที่ยว เส้นทางสายกิน อาหารถิ่นในตำนาน (Gastronomy Tourism) ทีกล้า ฟาร์ม มีส่วนร่วมในงาน ตามรอยอาหารถิ่น ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศ และ ได้มีโอกาศ ทำอาหารถิ่น อาหารที่ให้ ผลผลิตจากฟาร์ม ชวนชิมอาหารอีสานแซ่บๆ ง่ายๆ กับเมนูอาหารพื้นบ้านจังหวัดสุรินทร์

หมก เป็นอาหารอีสานและอาหารลาวประเภทหนึ่ง เป็นการนำเนื้อสัตว์และผักมาเคล้ากับน้ำพริกแกง ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า ห่อด้วยใบตองทรงสูง นำไปนึ่งหรือย่างให้สุก ใส่ต้นหอมและใบแมงลักซึ่งเป็นเครื่องปรุงสำคัญ บางบ้านใส่ผักชีลาวด้วย ตัวอย่างอาหารประเภท หมก ได้แก่ หมกหน่อไม้ หมกไข่ปลา หมกหัวปลี หมกไข่มดแดง หมกปลา หมกเห็ด หมกฮวก เครื่องแกงส่วนใหญ่ประกอบด้วย พริกขี้หนูแห้ง หอมแดง ตะไคร้ซอย ใบมะกรูด เป็นหลัก หรือบางบ้านก็จะใส่กระชายหรือข่าด้วย

สลอตราว หรือแกงเผือก เป็นอาหารที่มีรสจืด นิยมใส่ปลาเป็นส่วนประกอบ อาจใช้รับประทานเปล่า ๆ คล้ายก๋วยเตี๋ยวก็ได้ ชาวเขมรและชาวกูย ที่มีฐานะ นิยมปรุงให้จืดเพื่อรับประทานเปล่า ๆ เผือกเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรทสูง ใช้รับประทานแทนข้าวได้ ปลาเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง อาจใช้รับประทานเปล่าคล้ายก๋วยเตี๋ยว พร้อมรับประทานขณะร้อนๆ

ซันลอเจก (แกงกล้วย) “ซันลอเจก” เป็นภาษาเขมร หมายถึง “แกงกล้วย” ซันลอ = แกง, เจก = กล้วย เนื่องจากเมื่อก่อน การคมนาคมขนส่งต่าง ๆ ยังไม่สะดวก อาหารการกินต่าง ๆ ล้วนหาได้จากเรือกสวน ไร่นา และรอบ ๆ บริเวณบ้าน เมื่อมีคนตายในหมู่บ้าน เจ้าของงานจะจัดหาอาหารต้อนรับผู้มาร่วมงานศพ ซึ่งมักจะทำแกงกล้วยเป็นอาหารหลัก เพราะบ้านเกือบทุกหลัง นิยมปลูกต้นกล้วย เพราะต้นกล้วยสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง

อันซอมจรุ๊ก “อันซอมจรุ๊ก” ลักษณะเป็นท่อนยาวๆ ข้างในเป็นข้าวเหนียวผสมกับถั่วลิสง เนื้อหมูและมันหมู ปรุงรสให้ออกเค็มๆ หน่อยแล้วห่อด้วยใบตอง ชิมแล้วก็ถือว่ารสชาติไม่เลวเลยได้รสเค็มๆ มันๆ พร้อมกลิ่นหอมจากใบตอง จะว่าไปรสชาติก็ออกจะคล้ายๆ กับ “บ๊ะจ่าง” อยู่หน่อยๆ เพียงแต่ไม่ได้มีเครื่องเคราเหมือนกับบ๊ะจ่างของคนจีน

มอร์นิ่งงงจ้า เรื่องที่พัก อยากได้ที่พักดีๆ อาหารเช้าอร่อยๆ Slive Hotel ที่พักกลางใจเมืองสุรินทร์เมืองช้าง ที่พักแนวใหม่เอาใจลูกค้า Slive Hotel ตั้งอยู่ในเมืองสุรินทร์ ตรงกันข้ามโรงพยาบาลสุรินทร์ การเดินทางสะดวก ใกล้7-11 ใกล้สนามบิน แห่งความหรูหราอลังการ Slive Hotel ลองไปสัมผัสประสบการณ์พิเศษ Slive….สะอาด ทันสมัย มีสไตล์ คุ้มค่าคุ้มราคา บริการ Wifi ฟรี ทั้งพื้นที่โรงแรม ตื่นจากเตียงนุ่มๆ Slive….สะดวก Slive….สบาย Slive Hotel Surin ณ.โรงแรมน่ารักทั้งสถานที่และราคา คุ้มค่าสุดๆ คิดจะพักคิดถึง 

#Slivehotel
169 Luck Muang Rd,
Muang Surin, Surin, Thailand
@slivehotel โทร 044 060 322

ชิลล์แค่ไหนต้องลองไปดู หลายคนบอกว่ากระแสการท่องเที่ยวโลกที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและเชื่อมโยงกันมากขึ้น ส่งผลให้ทุกภาคส่วน ต้องใช้ศักยภาพ ความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์และการขับเคลื่อนกลยุทธ์ความเป็นเลิศทางการตลาด การประชาสัมพันธ์ และการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงจำเป็นต้องกำหนดทิศทาง และสร้างความชัดเจนในกระบวนการส่งเสริม ผลักดัน ปรับเปลี่ยน และสร้างสินค้า บริการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว ความสุขอยางหนึ่งเมื่อได้มาเที่ยวเมืองไทย นั่นคงไม่พ้นการได้เรียนรู้ เปิดรับประสบการณใหม่ๆ กับเรื่องราวการกิน หนึ่งในซิกเนเจอร์ของเมืองไทย ที่ใครก็พลาดไม่ได้ ไม่เพียงแค่เปิดตาให้เห็นถึงความ มหัศจรรย์แห่งอาหารไทยที่ทำให้สัมผัสถึงวิถีชีวิต เรื่องราวความน่าสนใจในศาสตร์และศิลป์แห่งศิลปะ วัฒนธรรม วิถีการดำรงชีวิตในแง่มุมต่างๆ แล้ว ยังสนุกเพลิดเพลิน อิ่มเอมไปกับอรรถรสของรสชาติอาหารที่ แตกต่างกัน ในแต่ละพื้นถิ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสัญลักษณ์ ความโดดเด่นของอาหาร
ในแต่ละภูมิภาคได้อย่างชัดเจน

ด้วยเหตุนี้ เมืองไทยจึงไม่ได้มีดีเพียงแค่อาหารริมทาง เมื่อเราเริ่มจากรู้จัก  สไตลสตรีทฟู้ด อาหารไทยที่ชวนสร้าง ความอะเมซซิ่ง ยังมีอาหารถิ่นจานอร่อย สไตล์วิถีไทยดั้งเดิมแบบพื้นบ้าน และอาหารไทยต้นตำรับ ที่เน้นความ วิจิตรบรรจง ในการปรุงแต่ง จัดจานสไตล์ชาววัง ชวนให้ตื่นตาตื่นใจไปกับรูปแบบการนำเสนอ เช่นเดียวกับการยกระดับการพัฒนา เมนูสตรีทฟู้ดพื้นถิ่นแบบโลคัล สู่การเป็นอาหารไทยเชิงสร้างสรรค์ ผ่านการ ประยุกต์เพื่อเพิ่มคุณค่าและมูลค่าก็ยิ่งทำให้ อาหารไทยครบรส ทั้งอาหารตา อาหารใจ และอาหารที่คุณสัมผัส และรับรู้ถึงรสชาติความอร่อยได้ในแบบที่บางครั้งอาจคาดไม่ถึง สนุกสนานกันได้ทั้งครอบครัว

ชม Review ครั้งนี้แล้ว เชื่อว่าหลายคนน่าจะแพลนทริปในใจกันแล้ว ใครแพลนไปเที่ยวอยู่แล้วลองหาเวลาสักวันสองวันไปชมกัน


ขอบคุณข้อมูล ::  www.toptotravel.com 


Share:

เชิญชวนออเจ้า... สัมผัสความเป็นไทยได้ที่ สวนไทย-พัทยา อาณาจักรแห่งความเป็นไทย

วันนี้ Insightout-story เชิญชวนออเจ้าทั้งหลาย สัมผัสความเป็นไทย ที่หลากหลายครบจบใน 1 วัน ถ้าวันว่างยังไม่มีที่ไปชิว ถ่ายรูปแนะนำ ที่พัทยานี่เลยค่ะ ซึ่งเป็นสถานที่ ที่คุณจะได้สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งความงดงาม อลังการของศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต และประเพณีอันทรงคุณค่า ของชาวไทยทั่วทั้ง 6 ภูมิภาค และเพลิดเพลินไปกับควาอุดมสบูรณ์ของธรรมชาติ บนพื้นที่ กว่า 250 ไร่ 
ด่านแรกเราซื้อตั๋วชมกิจกรรมต่างๆนะค่ะ 
ช่วงนี้โปรโมชั่นพิเศษ สำหรับชาวไทย 
ค่าเข้าชมเด็ก (สูง 90-130 ซม.)     ราคา 50 บาท
ค่าเข้าชมผู้สูงอายุ (อายุ 61-70 ปี)  ราคา 50 บาท
ค่าเข้าชมผู้ใหญ่  ราคา 100 บาท
** ราคาค่าเข้าชมนี้ รวมถึงบริการต่างๆฟรี เช่น นั่งช้าง 
นั่งรถม้าลำปาง ล่องเรือ และชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมต่าง

เรามาดูกันนะค่ะว่ากิจกรรมต่างๆ น่าสนใจและอลังการเพียงใด

น้ำตก และถ้ำพญานาค Phaya Nagas and Waterfall  
สวยงดงามของน้ำตก และองค์พญานาคอันศักดิ์สิทธิ์

ปางช้างสวนไทย Suanthai Elephat Camp  
สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้น 
กับการนั่งช้างชมความสวยงาม

อุโมงค์พรรณไม้ Suanthai Garden Galleary

เพลิดเพลินกับ ต้นไม้และดอกไม้นานาพันธ์
รถม้าลำปาง Horse Carriage

มานั่งรถม้าลำปาง ที่พัทยากัน
ศึกษาเรียนรู้โซน ศาตร์พระราชา...
ตำราของพ่อ เกษตรทฤษฎีใหม่ 
สู่เศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาที่ยังยืน

นาข้าว Rice Field

สะท้อนวิถีความผูกพันธ์วิถี
สวนผลไม้ Fruit Garden 

มีสวนผลไม้ที่ปลูกจริง และนำไปขายเป็นรายได้จริงด้วย
เรือนสวนไทย Suanthai House


ชุมชนวิถีไทย Thai Culural Community


บริการล่องเรือ Thai River Boat Tour
หอพระ Saced Pavilion
สักการะพระ 9 วัด 
ท้าวมหาพรหม
และเทพศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ

ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย Thai Cultural Show

กิจกรรมลอยกระธง Loy Kratong Festival Activities 

ประติมากรรมแผนที่ประเทศไทย Biggest map of Thailand
สุดท้ายเรามีโอกาสได้พบ คุณชัยพร แพรภิรมย์รัตน์ เจ้าของสวนไทย พัทยา  ได้กล่าวถึง จุดมุ่งหมาย ว่าต้องการทำท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ เน้นความเป็นไทย วิถีไทย ประวัติศาตร์  วัฒนธรรม ประเพณี ศาตร์พระราชา และการผสมผสานการเกษตร   ต้องการให้คนไทย ต่างชาติเห็นศิลปวัฒนธรรม อาหาร ประเพณี ทำแบบประยุกต์ สร้างไอเดีย รวมรวมของดี การแสดงทั้ง 6 ภาค ผ่านการแสดงบนเวที รวบรวมอยู่ที่เดียวกัน  และขอฝากสวนไทย-พัทยาไว้ว่า "เราสวนไทย-พัทยา มีความตั้งใจทำขึ้นเพื่อสะท้อนในมุมมองความเป็นไทย โดยจะพยายามทำให้ระลึกถึงบรรยากาศความเป็นไทย รวมทั้งอัตลักษณ์ที่พวกเราหวงแหน และอัตลักษณ์เหล่านี้ มีคุณค่าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เชิญพี่น้องมาเที่ยวพัทยา ที่สวนไทย ราคามิตรภาพ 100 บาท ทุกกิจกรรม "
เสาร์-อาทิตย์นี้ถ้าว่างลองไปเที่ยวแบบไทย ๆ พาคุณพ่อคุณแม่ และคนพิเศษในครอบครัวไปเที่ยวกัน ใส่ชุดไทยได้บรรยากาศดูนะคะ   อยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่นี้เอง ไปเช้า-เย็นกลับได้เลยค่ะ
สวนไทย พัทยา เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน 
ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. 
เส้นทางการเดินทาง 
ขับรถมาทางสายมอเตอร์เวย์ 7 กรุงเทพ-พัทยา 
ออกสาย 36 ป้ายระยอง 
เลี้ยวกลับรถมาทางสัตหีบ 
ประมาณ 4 กิโลจากแยกพัทยา-ระยอง
ใช้เวลาลงจากมอเตอร์เวย์ระยองประมาณ  10 นาที

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊ก สวนไทย พัทยา 
Suanthai Pattaya, suanthaipattaya.com, 
โทร. 0 3811 9075, 08 8099 8788

Share:

เราหลงจันท์ “จังหวัดอะไรก็ไม่รู้ โคตรน่าไปเลย”


    “จังหวัดอะไรก็ไม่รู้ โคตรน่าไปเลย”






    เราหลงจันท์ ที่นี่มีที่เที่ยวที่ดีงาม น่าไป ยิ่งได้รู้ว่ามีทุเรียนที่เป็นของโปรดแล้ว รอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนหน้าบอกเราว่าไปเถ...อะไปตามหาหัวใจตัวเองสิ บุฟเฟ่ต์ทุเรียนรออยู่นะ!! ครบเครื่องจริงๆ ทั้งวัฒนธรรม ที่เที่ยว ที่กิน มิตรภาพของคนพื้นที่ และ วิวยามเย็น ต้องมาลองขนมควยลิงต้นตำรับ มาเดินตลาดโบราณ เที่ยวชุมชนริมน้ำจันทบูร ดูพระอาทิตย์ตกที่เนินนางพญา เข้าสวนผลไม้ แม้จะมาครั้งที่สองแต่เผลอใจให้ "จันท์" ตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว


    ชี้เป้าเดินทาง

    1.งานวิถีจันท์ วิถีไทย ของดีเมืองจันท์วันผลไม้ ประจำปี 2561 ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 19 – 27 พฤษภาคม 2561 ที่ลานขนถ่ายสินค้า องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี
    2.จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม , จุดชมวิวเนินนางพญา และจุดชมวิวหินโคร่ง
    3.ชุมชนริมน้ำจันทบูรี
    4.กินไอศกรีมตราจรวด
    5.ร้านเจ๊อี๊ด ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเลรสแซ่บ เครื่องหนักมาก
    6.ร้านกาแฟบางเวลา
    7.บุฟเฟต์ทุเรียน ที่วิสาหกิจชุมชนรักษ์เขาบายศรี
    8.ตลาดขนมแปลก ชุมชนบ้านหนองบัว
    9.ตลาดทุบหม้อ
    10.บ่อพลอยเหล็กเพชร
    11.ลานหินสีชมพู
    12.ร้านกาแฟ C.A.P หรือ Café and People
    13.ร้านกาแฟ KaysEspressoBar
    14.ฟาร์มหอยป้าหลุยลุงทม
    15.อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล
    16.ปากคลองโฮมสเตย์
    17.ตึกแดง

    ไปเผลอใจให้จันท์กันนะ ที่นี่ "จันทบุรี"

    #ททท.จันทบุรี

    งานวิถีจันท์ วิถีไทย ของดีเมืองจันท์วันผลไม้ ประจำปี 2561 
    ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 19 – 27 พฤษภาคม 2561 ที่ลานขนถ่ายสินค้า องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ชิมฟรี!!! ผลไม้หลากหลายวันละ 2 รอบ คือ รอบ 12.00 น.- 13.30 น. และ 18.00 น. – 19.30 น.ชมการประกวดธิดาชาวสวน ประกวดร้องเพลง การแสดงศิลปวัฒนธรรม ของเด็กเยาวชน และนักศึกษาและกิจกรรมบันเทิงอื่นๆ อีกมากมาย





    จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม , 
    จุดชมวิวเนินนางพญา 
    และจุดชมวิวหินโคร่ง
     โดยมาชมพระอาทิตตกที่จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม มีสะพานไม้เดินเข้าไปกราบเจดีย์ซึ่งอยู่กลางน้ำ บรรยากาศดีมาก และใกล้ๆ เป็นจุดชมวิวเนินนางพญา ซึ่งจุดเด่นของที่นี่ก็จะเป็นถนนที่ขับรถเลาะเขาไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับจุดชมวิวหินโคร่ง จุดเด่นของที่นี่ก็จะเป็นโขดหินใหญ่ๆ หลายก้อน ไปตอนเช้าอากาศดีมาก ห้ามพลาดเด้ออออ




    เนินนางพญา


    งานสตรีทงานจันทบูรก็มา


    ชุมชนขนมแปลกริมคลองหนองบัว  
    ชุมชนที่รวบรวมขนมแปลกโบราณ ( มีมานานกว่าร้อยปี) โด่งดังที่สุดน่าจะเป็นขนมควยลิง  เปิดทุกวันโดยเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ คนค่อนข้างเยอะ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น.

    ไอศกรีมตราจรวด ที่อยู่ : อยู่ในชุมชนริมน้ำจันทบูร
    Tel : 0-3931-1216, 08-1723-3600
    เปิดเวลา 08:00-18:00

    ร้านเจ๊อี๊ด หรือ ร้านป้าอี๊ด ร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเลรสแซ่บ เครื่องเน้นๆ เส้นไม่ต้อง 555 ฟินมาพูดเลย ที่อยู่ : อยู่ในชุมชนริมน้ำจันทบูร 
     เวลาเปิดร้าน ทุกวัน: 09:00 – 16:00 น.
    Tel .039-314-738

    ร้านบางเวลา ร้านกาแฟอาร์ท 
    โปร์สการ์ดเต็มร้าน ร้านน่ารัก เหมาะกับการไปเช็คอินเป็นอย่างยิ่ง


    อิ่มละ 350฿ @สวนรักษ์เขาบายศรี จ.จันทบุรี

    ที่นี่มีทุเรียนถึง4สายพันธุ์ทั้ง พวงมณี ชะนี ก้านยาว และหมอนทองเนื้อดี และผลไม้สดๆ ที่เพิ่งเด็ดจากต้น ไม่ว่าจะเป็นเงาะ สละ ระกำ กล้วย ลองกอง และมังคุด ที่นี่เป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ทำมาอย่างยาวนานกว่า12ปี เราสามารถเดินชมสวน และ ถ่ายรูปได้

    พิกัด: ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ14 กิโลเมตร ถ้ามาอย่าลืมโทรจองก่อนนะที่เบอร์ 086-8349604 ไม่งั้นอาจจะพลาดได้





    ตลาดทุบหม้อตั้งอยู่ในวัดพลับ 


    บรรกาศก็จะออกแนวย้อนยุค พ่อค้าแม่ค้าใส่ชุดย้อนยุค ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าที่นั่นก็เป็นชาวบ้านของที่นั่นนับ 10 ตำบล เปิดมาแล้วประมาณสองปี คนขายอาหารก็จะเป็นคุณป้าคุณลุง มีอาหารและขนมให้เลือกซื้อกินเยอะแยะเลย รับรองอิ่มกลับบ้านแน่ๆ











    บ่อพลอยเหล็กเพชร


    ร้าน C.A.P ร้านสไตล์โมเดิล 

    ตกแต่ด้วยต้นไม้ร่มรื่น น่านั่ง ที่ลองสั่งมาก็จะเป็นกาแฟ เค้กน้ำผึ้งและมะปี๊ด หรือส้มจี๊ด โดยคนที่จันท์มักจะนำมะปี๊ดมาประกอบอาหาร แปลก รสชาติดีทีเดียว










    ลานหินสีชมพู 

    Kays Espresso Bar (เคส์ เอสเปรสโซ่ บาร์)

    ร้านกาแฟชิคๆที่คุณต้องมาเช็คอิน
    FB : Kays Espresso Bar
    เปิด-ปิดเวลา : ทุกวัน 07.00 – 21.00 น.
    Tel . 083-028-3993




    ฟาร์มหอยป้าหลุยลุงทม หอยสดๆ ตัวเป้งๆ ต้องที่นี่เลย

    FB : ป้าหลุยลุงทม โฮมสเตย์
    Tel . 089 803 0020


    อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล

    โบสถ์คาทอลิคใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่อยู่ใกล้กับชุมชนริมน้ำจันทบูร เยี่ยมชมฟรี (กรุณาแต่งตัวสุภาพและสำรวมในการเยี่ยมชม)
    ที่อยู่ : 110 ม.5 ถ.สันติสุข ต.จันทนิมิต 





    ปากคลองโฮมสเตย์

    ของโปรดของชั้นนนน อดข้าวอดน้ำเพื่อสิ่งนี้เลย ชอบ ชอบมากกกกก สด เนื้อแน่น โอ๊ยยยน้ำลายไหล
    ที่อยู่ : 6/2 ม.6 ต.เกาะเปริด อ.แหลมสิงห์
    FB : ปากคลองโฮมสเตย์
    Tel .095 532 8279



    ตึกแดง 

    ห่างจากคุกขี้ไก่นิดเดียว มาที่นี่ต้องถ่ายรูปกับตึกแดง ซึ่งเมื่อก่อนอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสถึง 11 ปี 
    ปัจจุบันเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของจังหวัดจันทบุรี
    อ.เมือง จ.จันทบุรี 22000



    ขอบคุณบทความและภาพจาก A Traveler Blog



Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก