มาแบ่งปันทุกความความรู้สึกที่ “อะคิโยชิ”
秋吉でごゆっくりとお食事のひとときをお愉しみください
วันนี้ อินไซท์ เอ้าท์ สตอรี่ พาเพื่อนมาชิมชิลล์ อาหาร ปิ้งย่าง-สุกี้-ชาบู ที่คงความอร่อยแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ร้าน AKIYOSHI (อะคิโยชิ) สาขาใหม่ที่เพิ่งเปิดไปเร็วๆนี้ ที่จามจุรีสแควร์ แห่งรวมวัยรุ่น และคนทำงาน การเดินทางสะดวก เรามาแบ่งปันความสุขกันค่ะ
ที่มาของชื่อ AKIYOSHI (อะคิโยชิ)
“Aki” คือ ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี และ “Yoshi” คือ ความโชคดี AKIYOSHI (อะคิโยชิ) จึง หมายถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี หลากสีสันของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี คือหลากหลายเมนูที่จะสร้างความสุขสันต์และอิ่มเอมให้กับทุกคนทั้ง ชาบู ชาบู สุกี้ยากี้ ปิ้งย่างอะคิยากิ ซูชิ และอาหารญี่ปุ่นอีกมากมายที่อะคิโยชิ
เมนูแนะนำที่ร้าน AKIYOSHI (อะคิโยชิ)
• SUKIYAKI (สุกี้ยากี้)
จะมีวิธีการปรุงแบบพิถีพิถัน โดยเริ่มจากผัดหอมหัวใหญ่ ต้นหอมญี่ปุ่นและชิตาเกะจนมีกลิ่นหอม จากนั้นนำเนื้อสัตว์ลงไปผัดต่อเพิ่มความหอมให้หอมขึ้นไปอีก แล้วค่อยๆ เทซุปสุกี้ยากี้น้ำดำรสชาติเข้มข้นลงไปเล็กน้อย เติมผักกาดขาว เต้าหู้ เห็ดเข็มทอง และเส้นบุกลงไปก็จะได้สุกี้ยากี้แท้ต้นตำรับญี่ปุ่น ส่วนวิธีการรับประทานคือลวกเนื้อสัตว์จิ้มกับซอสไข่ดิบที่จะช่วยให้เนื้อสัตว์ได้รสละมุน
• SHABU SHABU (ชาบู ชาบู)
เกิดจากเสียงของเนื้อสัตว์ที่แกว่งในน้ำซุปดาชิสีเหลืองทองจนสุกได้ที่ภายในเวลา 6 วินาที เสียงแกว่งเนื้อในน้ำนี่เองเป็นชื่อที่มาของคำว่า ชาบู ชาบูความพิเศษของชาบู ชาบูที่อะคิโยชิ เริ่มจากน้ำซุปใสสไตล์ชาบูชาบูญี่ปุ่น เติมเต็มความกลมกล่อมด้วยสาหร่ายคอมบุ ที่เปรียบเหมือนเครื่องปรุงจากธรรมชาติ จิ้มพอนซึรสเปรี้ยวลงตัว หรือถ้าชอบแบบหอมมันแนะนำให้รับประทานทานคู่กับน้ำจิ้มงาแบบโฮมเมดสูตรลับเฉพาะของอะคิโยชิ
• AKIYAKI (ปิ้งย่างอะคิยากิ)
ปิ้งย่างสไตล์อะคิโยชิที่มาคู่กับเนื้อคุณภาพดี หรือจะซีฟู้ดสดๆ และเข้าขากันเป็นอย่างดีกับน้ำจิ้มปิ้งย่างซึ่งถูกปากคนไทยเพราะสามารถเติมพริกกระเทียมเพิ่มความแซ่บได้ตามใจ
หลายคนคงสงสัย
ความแตกต่างของชาบู ชาบูกับสุกี้ยากี้
ชาบู ชาบูและสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่น มีจุดสังเกตความแตกต่างกันง่ายๆ ดังนี้
กระทะ/หม้อ ชาบูชาบูน้ำซุปสีใสมามาในหม้อในปริมาณพอเหมาะที่จะแกว่งเนื้อ ส่วนสุกี้ยากี้จะถูกผัดในกระทะและเติมน้ำซุปแบบขลุกขลิก
น้ำจิ้ม ชาบู ชาบูจะจิ้มกับพอนซึ หรือซอสงา และสุกี้ยากี้จะจิ้มกับซอสไข่ดิบ
สาขาร้าน AKIYOSHI (อะคิโยชิ)
AKIYOSHI (อะคิโยชิ) เปิดให้บริการ 7 สาขา ได้แก่- พระโขนง: ชั้น 2 อาคารไทยซิน สแควร์ โทร. 02-381-2267
- เอเชียทีค: โกดัง 10 โครงการเอเชียทีค เดอะ รีเวอร์ฟร้อนท์ โทร. 02-108-4310
- สยามสแควร์วัน: ชั้น 5 ฝั่ง Summer สยามสแควร์วัน โทร. 02-115-1491
- เซ็นทรัลเวสต์เกต: ชั้น 3 ฝั่ง Food Park เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต โทร. 02-108-7245
- เซ็นทรัลอีสต์วิลล์: ชั้น 2 ฝั่ง Food forrest zone เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ โทร. 02-041-3098
- สเปลล์: ชั้น 2 สเปลล์ แอท ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต โทร. 02-150-9116
- น้องใหม่ !! จามจุรีสแควร์ ชั้น 3 อาคารจัตุรัสจามจุรี โทร. 02-115-0141
อะคิโยชิรุ่นที่ 3 สานต่อคุณภาพ
และรสชาติแบบญี่ปุ่น
ปัจจุบันผู้บริหารของร้านอะคิโยชินับเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว และยังคงแนวคิดของการรักษาคุณภาพและรสชาติความเป็นญี่ปุ่นไม่เปลี่ยนแปลง โดยผู้บริหารคนปัจจุบันที่ขับเคลื่อนอะคิโยชิให้เข้าสู่ยุคทองของอะคิโยชิ คุณศรีหทัย ไพรสานฑ์กุล รองประธานกรรมการบริษัท ที่ผันตัวจากนักกฎหมายไฟแรงสู่การพลิกชีวิตหันมาจับธุรกิจอาหาร ด้วยแรงบันดาลใจอันอบอุ่นที่ทำเพื่อสานฝันของ “อาม่า” (คุณอุดมศรี ไพรสานฑ์กุล ผู้ก่อตั้งร้านอะคิโยชิ)
อร่อยนี้ จากฝีมือเชฟ
 |
เชฟอูเอฮาร่า ฮิโระคาซุ(Mr. Uehara Hirokazu) |
ที่เปิดตำนานความอร่อยมานานกว่า 24 ปี ด้วยรสชาติอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำหรับ เมืองชิกาซากิ ประเทศญี่ปุ่น ที่คัดสรรวัตถุดิบ ระดับคุณภาพ ทุกกระบวนการปรุงอาหารอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน การันตีคุณภาพโดย เชฟอูเอฮาร่า ฮิโระคาซุ (Mr. Uehara Hirokazu)
 |
ผู้บริหาร คุณศรีหทัย ไพรสาณฑ์กุล (คุณเปิ้ล)
รองประธานกรรมการ บริษัท อะคิโยชิ จำกัด |
คุณศรีหทัย กล่าวสุดท้ายว่า “สาขาจามจุรีสแควร์นับเป็นสาขาที่ 7 ของร้านอะคิโยชิ โมเดลใหม่ที่เกิดขึ้นที่สาขานี้คือเฟรชบาร์ (Fresh Bar) เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกอาหารหมวดผัก ซอส และเครื่องดื่มได้เองแบบไม่จำกัด โดยพนักงานจะยังคงให้บริการในส่วนของเนื้อสัตว์ต่างๆ เพื่อรักษาคุณภาพและความสดใหม่ของเนื้อตรงสู่มือของลูกค้า โมเดลนี้นับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของร้านเพราะเป็นรูปแบบใหม่ที่เรายังไม่เคยมีมาก่อน และหวังว่าจะได้รับเสียงตอบรับอันดีจากลูกค้า”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น