เยือนหมู่บ้าน OTOP จังหวัดระนอง "แล้วคุณจะ..รัก..เขา"


ภาคต่อของวันที่สอง ของโครงการ กิจกรรมสื่อมวลชนเยี่ยมชม หมู่บ้าน OTOP  เพื่อการท่องเที่ยว (ฝั่งทะเลตะวันตก)  เพชรบุรี-ชุมพร-ระนอง" เมื่อวันที่ 20-21 ตุลาคม 2561   ตามโครงการหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว (OTOP Village )   วันนี้เราไปเยือนจังหวัดระนองกันค่ะ ตามกันมาเลย!!

หมู่บ้านหาดส้มแป้น จังหวัดระนอง

หาดไร้เงา ขุนเขานมสาว ดินขาวมากมาย
พ่อท่านคล้ายศักดิ์สิทธิ์ แดนเนรมิตระนองแคนยอน..



เช้าของวันที่สอง  เดินทางออกจากโรงแรมที่พัก มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านหาดส้มแป้น จังหวัดระนอง  หาดไร้เงา ขุนเขานมสาว ดินขาวมากมายพ่อท่านคล้ายศักดิ์สิทธิ์ แดนเนรมิตระนองแคนยอน...คือนิยามของที่นี่ จะเป็นจริงดั่งว่าหรือไม่ ต้องตามไปดู ..ซึ่งหลังชื่นใจกับการแสดงต้อนรับและ welcome drink  น้ำส้มเกร่า หรือน้ำของผลส้มจี๊ด ที่จะอุดมไปด้วย วิตามินเอ ซี และกรดอินทรีย์หลายชนิดสำหรับผู้ที่ไอและมีเสมหะให้นำน้ำที่คั้นได้มาผสมกับเกลือเล็กน้อยจะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ ,การต้อนรับด้วยการแสดงอัตลักษณ์ชุมชน  กิจกรรมร่อนแร่ แหล่งแร่สำคัญของจังหวัดระนองโดยเฉพาะแร่ดีบุก ใช้เลียงเป็นอุปกรณ์ในการร่อนแร่ชมศูนย์เซรามิกดูการสาธิตเซรามิก ที่มีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย สะท้อนวิถีชุมชน และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทนไฟสูง มีอายุการใช้งานยาวนาน








สำหรับบ้านหาดส้มแป้น มีดินขาวอยู่มาก ซึ่งเดิมที่ตำบลนี้มีการการทำเหมืองแร่ดีบุก และในระหว่างที่มีการฉีดเหมืองเพื่อนำแร่ดีบุกขึ้นมาใช้จึงพบดินขาว ซึ่งผลการวิจัยพบว่าเป็นดินขาวที่ดีที่สุดในประเทศไทย เมื่อแร่ดีบุกราคาตกต่ำจึงได้มีการวิจัยอย่างจริงจัง จึงเริ่มหันมาทำเหมืองดินขาวนำออกขาย มีการสัมปทานเหมืองดินขาวต่อกันมาถึง 3 รุ่นรวมอายุประมาณ 100 กว่าปี ปัจจุบันมีการทำเหมืองดินขาวอย่างแพร่หลายในตำบลหาดส้มแป้นนี้  เมื่อมาใช้ทำผลิตภัณ์จะทนไฟสูง มีอายุการใช้งานยาวนาน ผลิตภัณฑ์มีเอกลักษณ์ของความเป็นไทย สะท้อนวิถีชุมชน







เราได้ประจักษ์ว่า หมู่บ้านหาดส้มแป้น ตำบลเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา มีภูเขานมสาวล้อมรอบแห่งนี้ เพี้ยนมาจากคำว่า “ห้วยซัมเปียน” ในภาษาจีน ซึงแปลว่า “ลึกเข้าไปในหุบเขา” เดิมเป็นพื้นที่ป่ารกทึบ บรรพบุรุษจีนในสมัยนั้น ได้ตามสายแร่มาจนถึงพื้นที่แห่งนี้ และเรียกว่า "ห้วยชานเปียน" หรือ "ห้วยซัมปา" ก่อนที่คำจะเพี้ยนมาเป็น"หาดส้มแป้น"
ในปัจจุบัน  ตำบลหาดส้มแป้น อยู่ห่างจากอำเภอเมืองระนองประมาณ 8 กม. เข้าทางถนนเพชรเกษมผ่านสวนสาธารณะรักษะวาริน (บ่อน้ำร้อน)  เป็นหมู่บ้านชนบทที่แวดล้อมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติหลายหลาก  ประชาชนตั้งรกรากจากการทำเหมืองแร่ในอดีตและได้น้อมนำแนวชพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของประบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ใช้เป็นวิถีทางในการดำรงชีวิตตนเอง




ต่อกันที่ บ้านหงาว...ระนอง น่ะ รับรองไม่มี...เหงา...

กิจกรรมที่นี่ เข้าวัดบ้านหงาว  สักการะพระพุทธรูปดีบุก ชมสินค้าท้องถิ่น  ชมระบำร่อนแร่ + ระบำบ้านหงาว ที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของบ้านหงาว






เยือนป่าชายเลนหมู่เกาะระนอง และร่วมปลูกป่าด้วย และรับรองว่า เราอดใจไม่ไหวที่จะต้องช้อป เม็ดมะม่วงหิมพานต์หรือภาษาถิ่นเรียกกาหยู สินค้าท้องถิ่นของชุมชนที่นำรายเพิ่มมูลค่าเป็นกอบเป็นกำให้ชาวบ้าน เช่นกัน"หงาว"เป็นอีกชื่อที่เพี้ยนมาจากภาษาจีน อีกเช่่นกัน มาจากชื่อของวัวป่า ซึ่งชาวจีนเรียกวัวป่าว่า "โหงว" เนื่องจากตำบลหงาวแต่โบราณ เป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ มีสัตว์ ประเภทกินหญ้าอาศัยอยู่มาก โดยเฉพาะวัวป่า เมื่อครั้งคอซูเจียง (ต่อมาเป็นพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี) เข้ามาบุกเบิกทำเหมืองแร่ทีนี่จึงเรียกที่นี่ว่า "ทุ่งโหงว" หรือ ทุ่งวัวป่า ต่อมาเพี้ยนเป็น "ทุ่งหงาว" โดยเริ่มมีคนเจ้ามาอยู่อาศัยมากขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2454  เนื่องจากบริษัท ไซมิสทินซินติเกรต  ได้เข้ามาขอสัมปทานบัตรขุดหาแร่ดีบุก  ต่อเรือขุดแร่ขึ้น  3  ลำพร้อมกัน  จึงต้องใช้คนงานจำนวนมาก  ทั้งคนงานของบริษัท และคนงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง   เช่น คนตัดฟืนขายให้บริษัททำเชื้อเพลิงสำหรับเรือขุดแร่  รวมกว่าพันคน เมื่อรวมถึงครอบครัวคนงานและพ่อค้าแม่ค้าจึงเกิดเป็นชุมชนใหญ่  จึงได้รับการยกฐานะเป็นตำบล  เรียกว่า  "ตำบลหงาว"




ต่อมาพื้นที่บางส่วนของตำบลหงาวที่เป็นย่านชุมชนหนาแน่นหรือย่านเศรษฐกิจของตำบลหงาว  ได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทย ณ  วันที่  1  พฤศจิกายน  พ.ศ. 2516  จัดตั้งเป็นสุขาภิบาลหงาว  อำเภอเมืองระนอง  จังหวัดระนอง  ต่อมามีพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงฐานะสุขาภิบาลเป็นเทศบาล พ.ศ. 2542  มีผลทำให้สุขาภิบาลทั่วประเทศเปลี่ยนแปลงฐานะเป็นเทศบาลตำบล  ตั้งแต่วันที่  25  พฤษภาคม พ.ศ. 2542  สุขาภิบาลหงาวจึงเปลี่ยนฐานะเป็นเทศบาลตำบลหงาวจนถึงปัจจุบัน






ส่วนวัดบ้านหงาว เป็นวัดดังของ จ.ระนอง  มีชื่อเสียงอยู่ด้วยกัน 3 อย่าง  1. วังมัจฉา มีปลาจำนวนมากและขนาดใหญ่มากตั้งแต่ปลาบึก ปลาจาระเม็ดน้ำจืด ปลาดุกยักษ์  2. อุโบสถหลังใหม่ มีรายละเอียดการตกแต่งที่สวยงามมาก 3. พระพุทธรูปดีบุก เป็นพระพุทธรูปดีบุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ตั้งของวัดบ้านหงาวจะอยู่ใกล้กับภูเขาหญ้า และ อยู่ตรงข้ามกับน้ำตกหงาว


ฮัดช่า...ลิเกฮูลู..ทำเอาเราอยากพันเอวด้วยบาติก..แล้วแต่งกับหนุ่มชาวเล..

จุดสุดท้ายของสื่อมวลชนสัญจร ที่หลายคนไม่อยากจากมา  "หมู่บ้านทะเลนอกระนอง" กับการต้อนรับด้วย"ลิเกฮูลู"การละเล่นพื้นบ้านของชาวมลายูมุสลิมภาคใต้ของไทยเป็นเพลงประกอบดนตรีและจังหวะตบมือ ต้องบอกว่าหาดูไม่ง่าย  ได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวเลและวิถีการทำประมง  ดูสาธิตการทำผ้าบาติก  และที่นี่มี Landmark ถ่ายภาพแสนงาม




หมู่บ้านทะเลนอกระนอง  เป็นหมู่บ้านริมชายหาดที่มีการจัดการท่องเที่ยวเชิงชุมชนอย่างเป็นระบบและน่าสนใจ โดยในอดีตบ้านทะเลนอกตั้งบ้านเรือนอยู่สองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งอยู่บริเวณปากคลองติดกับทะเล และอีกกลุ่มอยู่บริเวณป่าโกงกางเหนือขึ้นมา


ครั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์สึนามิ เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2547 บ้านบริเวณปากคลอง ถูกทำลายไปเสียสิ้น  ชาวบ้านจึงทำการฟื้นฟูหมู่บ้านขึ้นมาใหม่ โดยเน้นการอนุรักษ์ป่าโกงกาง ป่าฝน และสัตว์น้ำ
ดังนั้นที่เราต้องเตรียมตัวเตรียมใจสัมผัสกิจกรรมมากมาย กับวิถีชาวบ้านอย่างเต็มอิ่ม สัมผัสวิถีชีวิตตามจารีตประเพณีหมู่บ้านที่ล้อมรอบไปด้วยป่าชายเลน กับความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายแต่สะดวกสบาย มีโฮมสเตย์ชาวบ้าน จะได้นั่งเรือชมป่าโกงกาง พร้อมมัคคุเทศก์ท้องถิ่นคอยบรรยายให้เราได้รู้จักพืชและสัตว์ต่างๆ  ได้เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ในป่าฝนบนเนินเขาที่ไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนัก พร้อมมัคคุเทศก์ท้องถิ่นเช่นกัน

ชมการลากอวนชายหาด เมื่อแดดร่มลมตกในยามเย็นใกล้อาทิตย์ลับฟ้า ชาวบ้านจะพาเดินลงน้ำเพื่อไปช่วยกันลากอวนด้วย  เมื่อเดินถึงระดับที่น้ำอยู่ประมาณเอวหรืออก อวนจะถูกปล่อยลง ใช้เท้าในการตรึงอวนให้เป็นตาข่ายพร้อมกับเดินขึ้นมาชายหาดพร้อมปลาจำนวนมากมาย ปลาตัวใหญ่จะถูกเลือกไว้เพื่อทำอาหาร ขณะที่ตัวเล็กก็ปล่อยกลับลงทะเล จากนั้นจะได้ลิ้มรสอาหารทะเลปักษ์ใต้จากฝีมือหาปลาของตนเองอีกด้วย



จะมีกิจกรรมสาธิตและชมงานหัตถกรรมต่างๆ ของหมู่บ้าน ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ  มีอยู่สองกลุ่ม  คือ กลุ่มแม่บ้านทำสบู่ และกลุ่มทำบาติก เราสามารถเรียนรู้การทำสบู่ และการวาดภาพบาติกได้จากสมาชิกกลุ่มพร้อมนำผลงานตัวเองกลับบ้านเป็นที่ระลึก หากมีเวลามากพอที่นี่เหมาะอย่างยิ่งที่จะค้างคืน รอแสงแรกของพระอาทิตย์ ความสุขล้นปรี่แน่นอน


เวลาเพียง 1 คืน 2 วัน ที่เราใช้ไปกับการเดินทางเยือนชุมชน..อันเต็มไปด้วยอัตลักษณ์ ภูมิปัญญา  วัฒนธรรมและประเพณีดั้งเดิม ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม สู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่สร้างรายได้และความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนสู่ชุมชน จนสามารถดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปรู้จักพวกเขา...

การเดินทางครั้งนี้ InsightoutStory ชอบรอยยิ้ม​ ความตั้งใจ​ ความสามัคคีในชุมชน...เราว่ามันคือความคุ้มค่ามาก กับการที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเพื่อรู้จัก สัมผัสก่อนที่จะรักชุมชนเหล่านี้..เหมือนที่เราไปพบและ ”รัก” พวกเขามาแล้ว

ย้อนอ่าน กิจกรรมวันแรกที่ จังหวัดเพชรบุรี-ชุมพร  คลิ๊กด้านล่างได้เลยค่ะ



Editter :: Insightoutstory.com
ขอบคุณ :: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

Share:

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก