สมาคมฝึกการพูด แห่งประเทศไทย"The Speech Training Association of Thailand"

พ.อ.พิเศษ เกษม รัตนปราณี (นายกสมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย) ชวนมาฝึกทักษะ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวเอง ด้วยการฝึกพูดที่สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย!


🎤 วัตถุประสงค์และจุดเด่น:-

✨️พัฒนาทักษะการพูด ให้ตรงประเด็น กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ

✨️พูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ และปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

✨️ควบคุมความประหม่า และความตื่นเต้นขณะพูด

✨️ปรับปรุงบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจในการแสดงความคิดเห็น

✨️มีไหวพริบในการโต้ตอบ พร้อมรับฟังความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์

📍 สถานที่ฝึกอบรม:-

สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

🗓️ ทุกวันเสาร์(1pm – 6pm)


🚩ณ. อาคารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย (ถนนสุขุมวิท ซอยทองหล่อ 25) กรุงเทพฯ

ใน

Share:

พม. สานพลัง สสส.-กทม. จัดมหกรรมใหญ่ “FAM FESTIVAL 2025” ครั้งแรกของไทย เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ “เวลาของเรา ครอบครัวของเรา”

วันที่ 27 กันยายน 2568 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดงาน “มหกรรมครอบครัว (FAM FESTIVAL 2025)” ภายใต้แนวคิด “เวลาของเรา ครอบครัวของเรา” เพื่อเปิดพื้นที่ให้เด็กและครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ผ่านกิจกรรมนันทนาการงานฝีมือ สุขภาพ และทักษะชีวิต โดยมีนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานเปิดงานและมอบรางวัล “ครอบครัวสร้างสุข" พร้อมด้วยนางสาวแรมรุ้ง วรวัธ  อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว คณะผู้บริหารกระทรวง พม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  ผู้ว่ากรุงเทพมาหานคร และนางสาวณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักอาวุโส สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน ณ พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร) กรุงเทพฯ

นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวง พม. ร่วมกับ สสส. และ กทม. จัดงาน “FAM FESTIVAL 2025” ขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย ด้วยแนวคิด “เวลาของเรา ครอบครัวของเรา” ระหว่างวันที่ 27-28 ก.ย. 2568 เพื่อมุ่งกระตุ้นให้สังคมตระหนักถึงการสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวทุกมิติ ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจหรือสวัสดิการ แต่รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ภายในบ้าน เช่น การสร้างพื้นที่ปลอดภัย เพื่อให้สมาชิกครอบครัวสามารถพูดคุยและปรับความเข้าใจระหว่างกัน สนับสนุนการสื่อสารที่รับฟังด้วยใจ ส่งเสริมให้สมาชิกทุกวัยมีเสียง มีคุณค่า และมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น การจัดงานมหกรรมฯ ครั้งนี้ จะสะท้อนให้เห็นว่า “เวลาที่ใช้ร่วมกัน” คือการลงทุนที่มีค่าที่สุด แม้จะเป็นเวลาเพียงไม่กี่นาที แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาที่เราใส่ใจ รับฟัง และเข้าใจกัน ก็จะสามารถกลายเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ที่มั่นคงและนำไปสู่การเป็นครอบครัวที่มีสุขภาวะดีได้ ทั้งนี้ พม. ร่วมกับ กทม. เปิดพื้นที่เรียนรู้สำหรับครอบครัว 19 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ พร้อมกับเปิดตัว Family Passport เครื่องมือสร้างการเรียนรู้และสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook Fanpage : เพื่อนครอบครัว และ Line OA : @lineFamily 

นางสาวณัฐยา บุญภักดี ผู้อำนวยการสำนักอาวุโส สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. กล่าวว่า เด็ก เยาวชน และครอบครัวไทย กำลังเผชิญความเหลื่อมล้ำจากปัญหาโครงสร้างทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และไม่สามารถเข้าถึงนโยบายสาธารณะได้อย่างเป็นธรรม สอดคล้องกับรายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ปี 2568 โดย สสส. และศูนย์ความรู้นโยบายเด็กและครอบครัว (คิด for คิดส์) พบเด็กและเยาวชนไทย70% มีฐานะยากจน โดยเด็กจำนวน 6.2 ล้านคน อยู่ในครัวเรือนที่มีหนี้ ที่น่าสนใจผลสำรวจยังพบอีกว่า เยาวชน 35.9% ไม่เคยไปพิพิธภัณฑ์หรือหอศิลป์ สาเหตุจากตั้งอยู่ไกลและเดินทางยาก มีเยาวชนเพียง 5.4% เท่านั้น ที่เคยไปพิพิธภัณฑ์หรือหอศิลป์เป็นประจำทุกเดือนหรือทุกสัปดาห์ นอกจากนี้ ยังพบว่า เยาวชนที่เกี่ยวข้องกับอบายมุข บุหรี่ไฟฟ้า กัญชา ยาเสพติด และการพนัน ต้องเผชิญปัญหาสุขภาพจิต ขาดเป้าหมายในการใช้ชีวิต รวมถึงแบกรับแรงกดดันและความคาดหวังจากครอบครัว

“ปัญหาเหล่านี้สะท้อนความจำเป็นเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายต้องเพิ่มความเอาใจใส่ในนิเวศการเติบโตของเด็ก สสส. จึงเดินหน้าสานพลังภาคีเครือข่าย ร่วมกับ พม. และกทม.จัดงาน FAM FESTIVAL 2025 เปิดพื้นที่ให้ครอบครัวได้เรียนรู้ และสร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกัน ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้ง กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการเด็ก กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต การเล่นอิสระ กิจกรรมเวิร์กช็อปเพื่อการเรียนรู้ การแสดงศิลปวัฒนธรรม และเวทีเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและครอบครัว และการมอบรางวัลครอบครัวต้นแบบเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ทั้งนี้ ภายในงาน สสส. ได้นำนวัตกรรมเครื่องมือ พร้อมใช้สำหรับครอบครัว มาให้ประชาชนทั่วไปได้เลือกใช้ประโยชน์ ได้แก่ 1.SHARE AND CARE แพลตฟอร์มของครอบครัวทุกรูปแบบ ใช้วิธีการพูดคุยกลุ่มเล็กเพื่อแลกเปลี่ยนบทเรียนการแก้ไขปัญหาต่างๆ อาทิ สุขภาพจิต การป้องกันปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ การแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว 2.HOOK LEARNINGแพลตฟอร์มส่งเสริมทักษะสำหรับพ่อแม่และคนทำงานด้านเด็กและครอบครัว 3.MAPPA แอปพลิเคชันการเรียนรู้สำหรับเด็กและครอบครัว ผู้ปกครองและเด็กจะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้แบบ O2O (Online to Offline) ที่เชื่อมโยงโลกดิจิทัลเข้ากับชีวิตจริงเพื่อส่งเสริมให้เด็กมีทักษะศตวรรษที่ 21 ซึ่งเครื่องมือพร้อมใช้เหล่านี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้สมาชิกครอบครัว ก้าวไปสู่การมีสุขภาวะที่ดี เป็นรากฐานของสังคมสุขภาวะในระยะยาวต่อไป” น.ส.ณัฐยา กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวว่า ครอบครัวในกรุงเทพฯ จำนวนมากต้องเผชิญกับความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นความเร่งรีบในการทำงาน การจราจรที่หนาแน่น หรือสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ซับซ้อน ส่งผลให้ครอบครัวมีเวลาอยู่ร่วมกันน้อยลง กทม. จึงกำหนดนโยบายการพัฒนาเมืองให้เป็น “เมืองน่าอยู่ เมืองแห่งเด็กและครอบครัว”มุ่งเน้นการสร้างพื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อครอบครัว ส่งเสริมการเรียนรู้และการเล่นของเด็กอย่างสร้างสรรค์ พัฒนาสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้เวลาร่วมกันของคนทุกวัย และสนับสนุนกิจกรรมที่เสริมสร้างความผูกพันในครอบครัว การจัดงาน FAM FESTIVAL 2025 เป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ครอบครัวได้เรียนรู้ แบ่งปัน และสร้างความทรงจำร่วมกัน เป็นการตอกย้ำบทบาทของทุกภาคส่วน ที่พร้อมร่วมกันสร้างสังคมแห่งความอบอุ่นและความเข้มแข็ง

ทั้งนี้ ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ 7 โซน ได้แก่ 1.โซน FAM STAGE  พบกับการแสดงละครใบ้ เล่านิทาน และคอนเสิร์ตจากศิลปิน 2.โซน FAM TALK กิจกรรมเสวนาจากอินฟลูเอนเซอร์ และผู้นำทางความคิดด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว 3.โซน CREATIVE FAM ZONE ชวนเด็กๆ และผู้ใหญ่มาร่วมสนุกสนาน ผ่านกิจกรรมประดิษฐ์สิ่งของ 4.โซน FAM GRANDPARENT GARDEN กิจกรรมWorkshop ทำผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพจากสมุนไพร 5.โซน FAM MUSIC AND CHILL GARDEN มุมอ่านนิทาน พร้อมฟังเพลงฟังเบาๆ 6.โซน FAM PHOTO MEMORY AND FAMILY TREE WALL ร่วมถ่ายภาพครอบครัวและเขียนชื่อครอบครัวไว้บนต้นไม้ครอบครัวขนาดยักษ์ใจกลางงาน 7.โซน FAM NETWORK พบกับบูธภาคีเครือข่าย FAM FESTIVAL ที่จะมาร่วมให้ความรู้การดูแลลูกกับพ่อแม่



Share:

✨🌿 “พนัสนิคม: เอกลักษณ์งานจักสาน เล่าตำนานผ่านงานศิลป์ วิถีถิ่นไทย ลาว จีน ” 🌿✨


พนัสนิคม เมืองจักสาน ที่ “ผสาน” ทุกอย่างเข้าด้วยกัน

🛕 ศรัทธา จาก วัดโพธิ์เก่า 100 ปี และ พรหมาวาส ที่งดงามทั้งศิลป์และธรรมชาติ พร้อม หอพระพนัสบดี ศูนย์กลางจิตวิญญาณของคนทั้งเมือง

🎨 งานศิลป์ จาก จักสานใหญ่ที่สุดในโลก ไปจนถึง ตุ๊กตาจักสาน และ สตรีทอาร์ตพนัสนิคม ที่นำเรื่องราวเก่ามาผสานกับความร่วมสมัย

🍜 วัฒนธรรมยามเช้า ที่ตลาดเก่าพนัสนิคม — อาหารง่าย ๆ แต่ครบเครื่องทั้งคาวหวาน ขาหมูเย็น สูตรดั้งเดิม และ ขนมก้นถั่ว ที่หอมหวานในความทรงจำ


📹 คลิปนี้จะพาคุณไปสัมผัส พนัสนิคม เมืองที่เรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดา เมืองที่ใส่ใจในทุกศรัทธา ทุกงานฝีมือ และทุกคำรสชาติ 💛


👉 กดดูคลิปเต็ม แล้วคุณจะรู้ว่า...เมืองนี้มี “ชีวิต” ที่ถักทอจากหัวใจจริง ๆ

#อำเภอพนัสนิคม

#เที่ยวเมืองชล #ถนนวัฒนธรรมสร้างสรรค์ #ChonburiCulturalFestival

Share:

มหกรรมเที่ยวเมืองชล ถนนวัฒนธรรมสร้างสรรค์ : อำเภอสัตหีบ

 

🌊✨ “สัตหีบ: เมืองธรรมชาติทะเลชายฝั่ง สืบสานวัฒนธรรมผ่านวิถีชุมชน ” ✨🌊

สัตหีบ… ที่ตั้งกองทัพเรือของไทย 🚢 แต่ยังคงซ่อนรากวัฒนธรรมที่ยังมีชีวิตอยู่ในทุกคลื่นลม

🛕 ศรัทธา ที่ วัดสัตหีบ และ หลวงพ่อดำ ศูนย์รวมใจของชาวประมงก่อนออกเรือ

🎨 ศิลป์ ที่ยิ่งใหญ่บน เขาชีจรรย์ พระพุทธฉายแกะสลักเลเซอร์บนภูเขา สัมผัสความสนุกจาก กลุ่มหางเครื่องบางเสร่ ที่สืบสานลีลาการร่ายรำในเพลงไทย–ลูกทุ่ง–ร่วมสมัย

🌊 วิถีชุมชนชายฝั่ง ที่ยังคงอยู่ ทั้งประมงบ้านอำเภอ และเมนูพื้นบ้านอย่าง หมึกน้ำดำ และ แจงลอน รสเด็ด รวมถึง ประเพณีขึ้นเขาเผาข้าวหลาม ที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมและความอบอุ่นของครอบครัว

📹 คลิปนี้จะพาคุณไปเห็น “สัตหีบ” ในมุมที่นุ่มนวลด้วยศรัทธาและวิถีวัฒนธรรม ณ ชายฝั่งทะเล

👉 กดดูคลิปเต็ม แล้วคุณจะรู้ว่า...นี่คือ วิถีชายฝั่งทะเลสัตหีบ ที่ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเอง 💛

#อำเภอสัตหีบ

#เที่ยวเมืองชล #ถนนวัฒนธรรมสร้างสรรค์ #ChonburiCulturalFestival

Share:

ททท.และพันธมิตรหนุนข้าวแกงไทย สู่มรดกอาหารแห่งภูมิภาค จัดแข่งขัน “Khao Gaeng” Thai Curry Rice Championship 2025

ททท. ผนึกสมาคมภัตตาคารไทย และพันธมิตร ทั้ง Phenix , 3 แอปพลิเคชันสั่งอาหารยอดนิยม LINE MAN Wongnai , Grab , Robinhood รวมถึง KaichefHouse , กล่องแสนศุข , ม.สวนดุสิต ฯลฯ ร่วมจัดโครงการประกวดอาหาร สุดยอดแชมป์ข้าวแกงไทยสู่สากล “Khao Gaeng” Thai Curry Rice Championship 2025 เฟ้นหาสุดยอดฝีมือแชมป์ข้าวแกงแห่งประเทศไทย ขับเคลื่อนสู่มรดกอาหารแห่งภูมิภาค มุ่งยกระดับข้าวแกงไทยต่อยอดสู่เสน่ห์ไทย & Must Taste ที่ชาวต่างชาติต้องมาชิมสักครั้งในชีวิต 

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมภัตตาคารไทย ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) , AWC , Phenix , 3 แอปพลิเคชัน Food Delivery ชื่อดังทั้ง LINE MAN Wongnai , Grab , Robinhood รวมถึง KaichefHouse ,มหาวิทยาลัยสวนดุสิต , ยาดมภิรมย์ , กล่องแสนศุข , ข้าวต้มเทเวศร์ และบริษัท ณัฐสุรงค์ จำกัด ร่วมจัดโครงการประกวดอาหาร "สุดยอดแชมป์ข้าวแกงไทยสู่สากล" “Khao Gaeng” Thai Curry Rice Championship 2025 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดฝีมือแชมป์ข้าวแกงแห่งประเทศไทย 

ข้าวแกงถือได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เป็นอาหารจานเดียวที่หาทานง่าย และเป็นที่นิยมของคนทุกระดับ โดยจะมุ่งส่งเสริมข้าวแกงไทยสู่เวทีโลก โดยเฉพาะข้าวแกงที่เป็นเอกลักษณ์ไทย ทั้งสร้างการรับรู้และความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมอาหารไทย เป็นการแข่งขัน Thai Curry & Rice Global Challenge ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประเทศไทย 

เมนูที่จะเปิดให้เข้าประกวดมีจำนวน 5 เมนูได้แก่ แกงเขียวหวานไก่ ต้มข่าไก่ พะแนงเนื้อ ไข่พะโล้ และน้ำพริกกะปิ โดยเปิดรับสมัครและประชาสัมพันธ์ในช่องทาง Facebook : สมาคมภัตตาคารไทย และ Facebook : Khao Gaeng - Thai Curry Rice Championship 2025 ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมโล่ห์เกียรติยศ Professional ข้าวแกงไทย และประกาศนียบัตร Professional ข้าวแกงไทย รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินรางวัล 50,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินรางวัล 30,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 3 เงินรางวัล 20,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 4 เงินรางวัล 10,000 บาท ซึ่งรองชนะเลิศอันดับ 1-4 ยังจะได้รับโล่ห์เกียรติยศ Professional ข้าวแกงไทย และประกาศนียบัตร Professional ข้าวแกงไทยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังจะมีรางวัลพิเศษจากแพลทฟอร์มฟู้ด ดิลิเวอรี่ต่างๆ อีกด้วย 

ทั้งนี้ร้านค้าที่เข้าประกวดจะต้องเป็นร้านข้าวแกงที่เปิดมาไม่ต่ำกว่า 1 ปี มีภาพถ่ายหน้าร้านอย่างชัดเจน เป็นอาหารประเภทจัดทำสำเร็จแล้วเพื่อตักขาย และจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการแข่งขันมาด้วยตัวเอง โดยเกณฑ์การประกวดมีองค์ประกอบทั้งความอร่อย มีคุณภาพ ความคิดสร้างสรรค์และถูกสุขลักษณะ 

โดยตั้งเป้าหมายร้านข้าวแกงเข้าประกวดจำนวนราว 30 ร้าน พร้อมขอเชิญชวนร้านข้าวแกงไทยจากทั่วประเทศ ตั้งแต่ร้านอาหารริมทางหรือ Street Food ร้านข้าวแกงทั่วไป ร้านข้าวแกงในห้าง ฯลฯ พร้อมขอเชิญชวนสร้างแฮชแทก #ThaiCurryGlobal #KhaoGaeng #KhaoGaengThai และ #KhaoGaengThaiCurryRiceChampionship2025 เพื่อสื่อสารทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย รวมถึงช่องทางจากพาร์ทเนอร์ที่เข้มแข็งอย่างททท., พันธมิตร ตลอดจนอินฟลูเอนเซอร์อาหารต่างๆ เข้าร่วมด้วย

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่าททท.และพันธมิตรพร้อมขับเคลื่อนข้าวแกงไทย สู่มรดกอาหารแห่งภูมิภาค ซึ่งข้าวแกงถือเป็นตัวแทนอาหารในท้องถิ่น ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางไปในภาคใด ก็จะพบกับร้านข้าวแกงอันเป็นแหล่งรวมอาหารไทยยอดนิยมของภาคนั้นๆ และนับได้ว่าข้าวแกงเป็นตัวแทนอาหารไทย เช่นเดียวกับนาซี เลอมัก เป็นตัวแทนอาหารของมาเลเซีย , ลักซาและข้าวมันไก่สิงคโปร์ เป็นตัวแทนอาหารของสิงคโปร์ เป็นต้น

ททท.มุ่งยกระดับข้าวแกงไทยต่อยอดสู่เสน่ห์ไทย & Must Taste ที่ชาวต่างชาติต้องมาชิมสักครั้งในชีวิต และพร้อมขับเคลื่อนให้ข้าวแกงไทยโกอินเตอร์ ซึ่งปัจจุบันก็มีร้านข้าวแกงไทยในต่างประเทศจำนวนมาก เป็นเสมือนประตูบ้านด่านแรกที่พร้อมเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาชิมข้าวแกงในประเทศไทย 

ข้าวแกงไทย เป็นอาหารที่มีราคาเข้าถึงได้สำหรับนักท่องเที่ยวทุกระดับ มีความหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้ทดลองชิมอาหารไทยจากทุกภาค ได้ลิ้มรสอาหารจากท้องถิ่น ข้าวแกงยังเป็นอาหารที่ถูกบันทึกไว้ใน Michelin Guide จำนวนหลายร้านด้วย 

นางนฑาห์ บุญประสิทธิ์ หัวหน้าคณะสายงานการตลาดเชิงกลยุทธ์และความยั่งยืน บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้บริหารห้าง Phenix ประตูน้ำ กล่าวว่า Phenix พร้อมร่วมสนับสนุนสมาคมภัตตาคารไทยและททท.ในการจัดโครงการนี้ ซึ่ง Phenix ถือได้ว่าเป็น Food Destination ของทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งมีพื้นที่พร้อมในการจัดการแข่งขัน โดยมี Taste Kitchen และโซนชั้น 4 มีพื้นที่ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร (Wholesale Hub) และพร้อมส่งเสริมสนับสนุนข้าวแกงไทยให้เป็นอีกหนึ่งอาหารที่ชาวต่างชาติพลาดไม่ได้ 

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า GrabFood ในฐานะแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีชั้นนำและพันธมิตรอย่างเป็นทางการของ ททท. พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดโครงการนี้เพื่อช่วยโปรโมตอาหารไทยอย่างเมนูข้าวแกง ซึ่งถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ช่วยส่งเสริมเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านอาหารท้องถิ่นที่เข้าถึงง่าย โดยเราจะร่วมสนับสนุนเงินรางวัลพิเศษ 20,000 บาทสำหรับผู้ชนะเลิศ นอกจากนี้ ผู้ชนะทั้ง 5 อันดับแรกยังจะได้รับ “แพคเกจส่งเสริมยอดขาย” สำหรับการเปิดร้านเพื่อขายอาหารผ่าน GrabFood มูลค่ากว่า 50,000 บาทต่อร้าน (รวมทั้งสิ้น 250,000 บาท) เป็นระยะเวลา 3 เดือน พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งร้าน พร้อมกันนี้ เรายังเตรียมจัดแคมเปญพิเศษเพื่อร่วมโปรโมตเมนูข้าวแกงสำหรับร้านอาหารต่างๆ ที่ขายบนแพลตฟอร์มในช่วงไตรมาส 4 เพื่อสร้างสีสันและต่อยอดให้กับโครงการนี้ด้วย

นายอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ รองประธานฝ่ายนโยบายสาธารณะและรัฐกิจสัมพันธ์ LINE MAN Wongnai กล่าวว่า “LINE MAN Wongnai ในฐานะแพลตฟอร์มออนดีมานด์และข้อมูลร้านอาหารของไทย เรามุ่งมั่นที่จะร่วมผลักดันอาหารไทยให้เติบโต และเชื่อว่าแพลตฟอร์มของเรามีบทบาทสำคัญในการช่วยเพิ่มรายได้ให้กับร้านอาหาร เราจึงเข้ามาสนับสนุนทุกร้านที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ทั้ง 30 ร้านในหลายด้าน ได้แก่ 1) แพ็กเกจพิเศษโปรโมทร้าน มอบแพ็กเกจโปรโมทเพื่อสร้างการรับรู้และเพิ่มยอดขายผ่านโซเชียลมีเดียของ LINE MAN และ Wongnai 2) สนับสนุนเครื่องแจ้งเตือนยอดเงิน 'LINE Pay QR Box' ฟรี ที่มีฟีเจอร์เสียงแจ้งเตือนยอดเงินเข้าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าทุกธุรกรรมเกิดขึ้นจริง ตรวจสอบได้ และลดความกังวลในการรับชำระเงิน 3) สิทธิ์เข้าร่วมอบรม Training พิเศษ สำหรับร้านอาหารของสมาคมฯ เพื่อพัฒนาศักยภาพในการทำธุรกิจร้านอาหารและทำยอดขายให้เติบโตบนแพลตฟอร์มออนไลน์"

นางสาวแววรัตน์ ชำนาญภักดี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาหารและความยั่งยืน โรบินฮู้ด กล่าวว่า โรบินฮู้ด โดย “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม” ของกลุ่มยิบอินซอย พร้อมให้การสนับสนุนโครงการ ”แชมป์ข้าวแกงไทยสู่สากล“ ไม่เพียงแนะนำเมนู แต่จะสื่อสารส่งเสริมการจับคู่อาหาร (Food Paring) ของเมนูที่หลากหลายให้ได้รสชาติและสัมผัสที่ลงตัว พร้อมทั้งนำเสนอการจัดจาน (Eating & Plating Design) เพื่อยกระดับให้สำรับข้าวแกงไทยเข้าถึงง่าย ไม่จำเจ เปิดมุมมองเสน่ห์วิถีวัฒนธรรมการกินอยู่ที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ โรบินฮู้ดจะเป็นมากกว่าการสั่งอาหาร เราพร้อมเป็นเพื่อนรู้ใจให้คุณในทุกมื้อ

ภายในงานยังมีการสาธิตปรุงอาหารได้แก่ ต้มข่าไก่ จาก KaiChefHouse โดยเชฟไก่ การเสวนาของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์สายอาหารชื่อดังได้แก่ ลุงอ้วน กินกะเที่ยว , ชายกาง ตระเวนกิน ทั่วถิ่นไทย , ของที่ระลึกและ Workshop จากยาดมภิรมย์ , ขนมหวานจากส้มตําคุณกัญจณ์(มิชลิน) , เครื่องดื่มกาแฟร้อน-เย็น น้ำสมุนไพร จากกล่องทิพย์ ,ชิฟฟอนจากร้านกิ่งหลิว , ข้าวแกง 10 อย่างจากเชฟไก่ และบูธพันธมิตร เช่น โรบินฮู้ด , Pojacademy ฯลฯ

อนึ่ง ปัจจุบันร้านอาหารประเภทข้าวแกงมีจำนวนมากกว่า 10% ของจำนวนร้านอาหารทั้งหมดในประเทศไทย โดยในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา แม้จะเกิดวิกฤตด้านเศรษฐกิจ แต่ยอดขายร้านข้าวแกงเฉลี่ยลดลงราว 4% ซึ่งนับว่าน้อย เมื่อเทียบกับร้านอาหารประเภทอื่นๆ ที่ยอดขายซบเซาลงไปจากภาวะเศรษฐกิจ (ข้อมูลจาก

 LINE MAN Wongnai)


Share:

สมาคมฝึกการพูด แห่งประเทศไทย "The Speech Training Association of Thailand"

พ.อ.พิเศษ เกษม รัตนปราณี (นายกสมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย)

 ชวนมาฝึกทักษะ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้ตัวเอง ด้วยการฝึกพูดที่สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย!

🎤 วัตถุประสงค์และจุดเด่น:-

✨️พัฒนาทักษะการพูด ให้ตรงประเด็น กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ

✨️พูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ และปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

✨️ควบคุมความประหม่า และความตื่นเต้นขณะพูด

✨️ปรับปรุงบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจในการแสดงความคิดเห็น

✨️มีไหวพริบในการโต้ตอบ พร้อมรับฟังความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์

📍 สถานที่ฝึกอบรม:-

สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย

🗓️ ทุกวันเสาร์

(1pm – 6pm)


🚩ณ. อาคารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย (ถนนสุขุมวิท ซอยทองหล่อ 25) กรุงเทพฯ

เริ่มต้นพัฒนาตัวเองได้แล้ววันนี้!

เพิ่มมูลค่าให้ตัวคุณ ด้วยทักษะการพูดอย่างมืออาชีพ !

สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย,   

อาคารมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียล, 

(สุขุมวิท ซอยทองหล่อ 25) กรุงเทพฯ

Share:

สมุทรสาคร On Tour On Sales ครั้งที่ 2 ยกขบวนสินค้าดัง สู่เมืองกรุงช้อปสินค้าคุณภาพ ราคาสุดคุ้ม ถึง 7 ก.ย. 68 นี้ ที่ พาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร เดินหน้าสานต่อความสำเร็จจากครั้งแรกที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สู่การจัดงาน “สมุทรสาคร On Tour On Sales” ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 3 – 7 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค ศรีนครินทร์ กรุงเทพมหานคร ภายใต้โครงการพัฒนาตลาดสินค้าสมุทรสาครสู่สากล

วันนี้ (4 กันยายน 2568) เวลา 11.00 น. ร้อยตำรวจเอก เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานพิธีเปิดงาน “สมุทรสาคร On Tour On Sales” ครั้งที่ 2 โดยมี นางสาวสุวีรยา ปั้นปาน พาณิชย์จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ และประชาชน เข้าร่วมอย่างคับคั่ง ณ ศูนย์การค้า พาราไดซ์ พาร์ค ถ.ศรีนครินทร์

ร้อยตำรวจเอก เขตรัฐ ชาญศิลป์ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการ OTOP SMEs และกลุ่มชุมชนได้พบปะกับผู้บริโภคโดยตรง แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญที่จะสะท้อนศักยภาพของสมุทรสาครในฐานะจังหวัดที่มีสินค้าคุณภาพ มีเอกลักษณ์ และมีความพร้อมในการแข่งขันในตลาดยุคใหม่ โดยภายในงานได้ยกขบวนสินค้าของดีเมืองสมุทรสาครกว่า 60 ร้านค้า มาจำหน่ายให้ชาวกรุงเทพฯ ได้เลือกซื้ออย่างจุใจ อาทิ


อาหารทะเลสด อาหารทะเลแปรรูป และอาหารทะเลแห้ง ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสดและรสชาติอร่อย

มะพร้าวน้ำหอม และผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวที่มีคุณภาพโดดเด่น

สินค้าเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป และผลิตภัณฑ์ GI

งานหัตถศิลป์และเครื่องเบญจรงค์ ที่สะท้อนความงดงามของภูมิปัญญาท้องถิ่น

รวมถึงสินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์ชุมชนอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) มินิคอนเสิร์ต และกิจกรรมลุ้นของรางวัลมากมาย เพื่อสร้างความคึกคักและมอบความสุขแก่ผู้เข้าร่วมงานด้วย

อย่าพลาด! มาสัมผัสเสน่ห์และศักยภาพของดีเมืองสมุทรสาครได้ที่งาน “สมุทรสาคร On Tour On Sales” ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 3 – 7 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค กรุงเทพมหานคร



Share:

อีเลคโทรลักซ์ ร่วมฟื้นฟูน้ำท่วมจังหวัดน่าน มอบเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วยโรงพยาบาลน่าน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลปัว พร้อมเปิดศูนย์ซักอบผ้าฟรีช่วยชุมชนประสบภัย

อีเลคโทรลักซ์ (Electrolux) บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลก ตระหนักถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามวิกฤต โดยเมื่อเร็วๆ นี้ทีมผู้บริหารได้ลงพื้นที่จังหวัดน่านเพื่อร่วมฟื้นฟูชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยครั้งรุนแรงจากพายุวิภา ที่ทำให้พนังกั้นน้ำพังทลายและน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่สำคัญหลายแห่ง

บริษัท อีเลคโทรลักซ์ ประเทศไทย จำกัด นำโดย นายอเล็กซิส ริชาร์ด ผู้จัดการทั่วไป พร้อมด้วยพันธมิตรธุรกิจ ธนาธรรมมาร์เก็ตติ้ง ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ ได้ร่วมส่งมอบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นแก่โรงพยาบาลน่าน โดยมี นพ.วสันต์ แก้ววี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน เป็นผู้รับมอบ เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูการทำงานและการให้บริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งโรงพยาบาลน่านได้รับความเสียหายอย่างหนักจากน้ำท่วมสูง ส่งผลให้เครื่องมือแพทย์ที่จำเป็นรวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ มากมายได้รับความเสียหายไม่สามารถใช้งานได้

นอกจากโรงพยาบาลน่านแล้ว ผู้บริหารอีเลคโทรลักซ์ยังได้ลงพื้นที่เพื่อมอบเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลปัว จังหวัดน่าน อีกด้วย โดยมีนายฉัตรชัย ธนามี นายกเทศมนตรีตำบลปัว เป็นผู้แทนรับมอบ ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มอบให้กับทางศูนย์ฯ ได้แก่ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เตาไมโครเวฟ ตู้กดน้ำดื่ม หม้อหุงข้าว กาต้มน้ำร้อน เป็นต้น เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กๆ ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

นายอเล็กซิส กล่าวว่า “อีเลคโทรลักซ์มีความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือให้ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และพร้อมสนับสนุนอยู่เคียงข้างชุมชนในยามวิกฤต การมอบเครื่องใช้ไฟฟ้าและการจัดศูนย์บริการซักอบผ้าฟรีร่วมกับตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ เป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ชุมชนในจังหวัดน่าน”

เกี่ยวกับอีเลคโทรลักซ์กรุ๊ป 

อีเลคโทรลักซ์กรุ๊ป เป็นบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลก สร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้ผู้คนมาแล้วกว่า 100 ปี ด้วยการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อมอบประสบการณ์ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ ในด้านการทำอาหาร (Taste) การดูแลเสื้อผ้า (Care) และความเป็นอยู่ที่ดี (Wellbeing) ของผู้คนนับล้าน พร้อมขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนอย่างโดดเด่นมาโดยตลอดผ่านการสร้างโซลูชั่นและการดำเนินงานที่เน้นสร้างความยั่งยืนในสังคม อีเลคโทรลักซ์ กรุ๊ป เป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำมากมาย อาทิ อีเลคโทรลักซ์ (Electrolux) เออีจี (AEG) และฟริจิแดร์ (Frigidaire) มีสินค้าวางจำหน่ายในราว 120 ประเทศทั่วโลกทุกปี ในปี 2567 อีเลคโทรลักซ์กรุ๊ป มียอดขายสูงถึง 136,000 ล้านโครนาสวีเดน และมีพนักงานมากถึง 41,000 คนทั่วโลก หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.electrolux.co.th


Share:

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 095 469 4415
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก