ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทอแสงรัศมี ถีถะแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายสื่อสารองค์กร สจล. ในฐานะบรรณาธิการหนังสือ “ดาราศาสตร์ไทยสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ” กล่าวว่า “ดาราศาสตร์ไทยสมัยสมเด็จพระจอมเกล้าฯ” เป็นผลงานศึกษาค้นคว้า เขียน และเรียบเรียงโดยอาจารย์ ภูธร ภูมะธน หนึ่งในปรมาจารย์ด้านประวัติศาสตร์ไทย ท่านได้ค้นคว้าเรื่องราว อันทรงคุณค่าของประวัติศาสตร์ไทยมาร้อยเรียงนำเสนอเพื่อมอบความรู้และชวนคิดต่อยอดองค์ความรู้ในด้านต่างๆ จึงขอเชิญชวนให้ผู้สนใจได้ลองที่อ่านหนังสือเล่มนี้ เพื่อได้เห็นโลกทัศน์ และวิธีคิดของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้ารัชกาลที่ 4 ทั้งในด้านพัฒนาการของสังคม เศรษฐกิจ และความเจริญก้าวหน้าของประเทศ การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ ความเข้าใจของโหราศาสตร์ไทยสมัยนั้น และยังสร้างแรงบันดาลใจต่อการมุ่งมั่นทำสิ่งใดเพื่อประโยชน์ส่วนรวมให้กับคนรุ่นหลัง รวมถึงความภาคภูมิใจแก่ชาวพระจอมเกล้าลาดกระบังอีกด้วย โดยสามารถอ่านจากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ลิงค์ https://anyflip.com/hnqmd/ituj/ อาจารย์ ภูธร ภูมะธน ผู้เขียนหนังสือ“ดาราศาสตร์ไทยสมัยสมเด็จพระจอมเกล้าฯ” กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการจัดทำหนังสือเล่มนี้ว่า เกิดจาก อาจารย์อารี สวัสดี ซึ่งเป็นผู้ที่มีอิทธิพลและเป็นแรงบันดาลใจให้ตนสนใจและศึกษาเรื่องดาราศาสตร์มานานกว่า 50 ปี โดยหนังสือเล่มนี้ได้ใช้เวลาค้นคว้ามาหลายปี เพื่อรวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องให้ได้มากที่สุด และต้องการนำเสนอข้อมูลที่หลากหลายเกี่ยวกับพระองค์ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเป็นชาวสยามที่เป็นแบบอย่างที่ควรศึกษาเรียนรู้อย่างไรก็ตาม อาจารย์ภูธรยอมรับว่าการเขียนเรียบเรียงงานนี้เป็นเรื่องที่ท้าทาย เพราะต้องค้นคว้าตำราและหลักฐานเอกสารเป็นจำนวนมาก ทั้งจากแหล่งข้อมูลในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงความแตกต่างของ เงื่อนเวลาและภาษาในแต่ละยุคสมัย แต่ท่านก็ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ร่วมกับทีมบรรณาธิการของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังจนทำให้หนังสือสำเร็จและหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยเติมเต็มองค์ความรู้ทางประวัติศาสตร์ดาราศาสตร์ไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ภายในอาคารหอพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ประกอบไปด้วย
พระราชประวัติของรัชกาลที่ 4 ช่วงชีวิตแห่งการเรียนรู้ก่อนขึ้นครองราชย์ของพระมหากษัตริย์ผู้มีแนวคิดแบบจักรวาลนิยม และหลังขึ้นครองราชย์
ประวัติศาสตร์สยาม สู่ดาราศาสตร์แห่งอนาคต ตั้งแต่ เกลาดีโอส ปโตเลไมโอส นักภูมิศาสตร์ ดาราศาสตร์ และโหราศาสตร์ชาวโรมันเชื้อสายกรีกโบราณ ผู้ที่เริ่มต้นสนใจด้านดาราศาสตร์ มาจนถึงดาราศาสตร์สมัยอยุธยา สมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ตอนต้น สมัยรัชการที่ 4 ไปจนถึงอนาคตที่จะเกิด สุริยุปราคาเต็มดวง ครั้งถัดไปในประเทศไทย ในวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2613
ดวงดาวกับชีวิต รู้จักกับดวงดาวและจักราศี ความสัมพันธ์ระหว่างดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ ผ่าน โปรแกรมผูกดวงหาดาว จัดทำโดยสำนักงานสื่อสารองค์กร สจล. ร่วมกับที่ปรึกษาคุณภาณุ ไชยสิทธิ์ โปรแกรมเฉพาะเพื่อผูกดวงชะตา และรู้จักดาวประจำตัวของเรา
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับโหราศาสตร์ ของพระจอมเกล้า พระองค์ทรงผูกดวงเมือง ผูกดวงชะตาและตั้งพระนามของพระราชโอรสและพระราชธิดา ร่วมถึงเขียนตำราทางโหราศาสตร์
ห้องโถงใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานของ พระสยามเทวาธิราช เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของไทย ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 รวมถึงพระมหาพิชัยมงกุฎ ซึ่งถือเป็นสัญญาลักษณ์ประจำสถาบันฯ และมีการจัดแสดงภาพจำลองปริศนาธรรม “วัดบรมนิวาส” ผลงานจิตรกรรมแบบตะวันตกสุดวิจิตรของ “ขรัวอินโข่ง”
อุโมงค์ดาว ภาพจำลองตำแหน่งดาวในวันที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งถัดไปในประเทศไทย ในวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2613 ซึ่งพยากรณ์โดย ดร.ขาว เหมือนวงศ์ และระบุพิกัดโดย อ.อารี สวัสดี ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของห้องเทิดพระเกียรติ รัชการที่ 4 ด้านดาราศาสตร์และโหราศาสตร์แห่งนี้


















ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น